Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2546








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2546
ศิลานคร สะท้อนฝันสู่ความยิ่งใหญ่ของสวีเดน             
 





นิตยสาร Stockholm New No.12 เตือนผู้ไปเยือนสวีเดนว่า จะผิดหวังถ้าคาดหวังว่าจะได้ตื่นเต้นกับสถาปัตยกรรมยุคปลายศตวรรษที่ 20 และต้นศตวรรษที่ 21 เพราะอาคารที่ได้ชื่อว่าทันสมัยที่สุดใน Stockholm นครหลวงของสวีเดนคือ House of Culture นั้นสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 1974 และตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมาก็แทบจะไม่มีความคืบหน้าอะไรในนครหลวง แห่งนี้ หากจะมีอาคารสร้างใหม่เกิดขึ้น บ้างส่วนใหญ่จะเลียนแบบสถาปัตยกรรมยุคก่อนๆ ทั้งสิ้น

หน้าตาของ Stockholm ที่ปรากฏต่อสายตาผู้ไปเยือนจึงเป็นหน้าตาของนครใหญ่ที่ได้รับการวางผังเมืองมาตั้งแต่ 100 ปีที่แล้ว โดยประมาณ คือ ในราวช่วงเปลี่ยนสู่ศตวรรษที่ 20.....

ทำให้ Stockholm กลายเป็น "ศิลานคร" (Stone city) ของชนชั้นกลางที่โดดเด่นเป็นหนึ่งเดียวของโลกไปโดยปริยาย......

"ศิลานคร" แห่งนี้สะท้อนความเชื่อมั่นในตนเองของชนชั้นกลางยุคนั้นที่มีอยู่เต็มเปี่ยมแบบไร้ขอบเขต และสะท้อนถึงอำนาจรวมทั้งความเจริญรุ่งโรจน์อย่างน่าทึ่งของสังคมอุตสาหกรรมเกิดใหม่ของสวีเดน คุณภาพของงานก่อสร้างยุคนี้จึงถือได้ว่าดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา......

Stockholm ยังเป็นสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่ที่สะท้อนถึงความใฝ่ฝันที่จะก้าวสู่ความเกรียงไกรยิ่งใหญ่ของชาวสวีเดน ความใฝ่ฝันที่จะมีความสำคัญและใหญ่โตกว่าที่เป็นจริง รวมถึงสะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะเป็นผู้ทรงอิทธิพลทั้งทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ให้ได้

"ศิลานคร" ยุคก่อนจะถึงกลางศตวรรษที่ 19 ไม่มีอะไรโดดเด่นน่าสนใจเลย เป็นเพียงเมืองเล็กๆ ที่อุดมไปด้วยบรรยากาศบ้านนอก มีฝูงวัวและเล็มหญ้าอยู่ในสวนสาธารณะ มีแม่บ้านชรานั่งซักผ้าอยู่ริมน้ำเรียงเป็นตับ ผู้ที่กุมบังเหียนในกิจการระหว่างประเทศมีเพียงราชสำนักและชนชั้นขุนนางเพียงหยิบมือเท่านั้น

จนกระทั่งถึงยุคพัฒนาเป็นสังคมอุตสาหกรรมคือ ทศวรรษ 1860 แล้วนั่นแหละที่ประชากรของ Stockholm เพิ่มจำนวนขึ้นจนมีมากกว่าแสนคน

เมื่อมองในด้านสถาปัตยกรรมนั้นเล่า ปรากฏว่ายุคก่อนทศวรรษ 1880 "ศิลานคร" มีสถาปัตยกรรมรูปแบบตายตัวเหมือนๆ กันมองดูแล้วแสนจะธรรมดา ปราศจากความสร้างสรรค์ จะมียกเว้นเฉพาะในส่วนของพระราชวัง โบสถ์ และกรมทหารบางแห่ง และคฤหาสน์ของขุนนางเท่านั้น

สวีเดนพุ่งทะยานเข้าสู่ยุคพัฒนาสังคมอุตสาหกรรมเต็มตัว ในช่วง 3 ทศวรรษสุดท้ายของศตวรรษที่ 19 เมื่อมีการเปิดใช้เส้นทางรถไฟสายหลักอันเป็นผลพวงจากยุค "Northern Gold" ที่มีการใช้ทรัพยากรประเภทไม้และเหล็กซึ่งมีอยู่อย่างมหาศาลทางตอนเหนือของสวีเดนอย่างบ้าคลั่ง

ยิ่งทวีปยุโรปเน้นการพัฒนาสังคมอุตสาหกรรมมากขึ้นเท่าไร ความต้องการในทรัพยากร ธรรมชาติของสวีเดน ก็ยิ่งมีมากเป็นเงาตามตัวแบบไม่มีขีดจำกัด

หลังจากนั้นไม่นาน อุตสาหกรรมในประเทศ ของสวีเดนก็หันมารองรับอุตสาหกรรมจากทรัพยากร ธรรมชาติเหล่านี้ด้วยความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะภาวะบูมของอุตสาหกรรมกระดาษ และเหล็กที่นำไปสู่นวัตกรรมระดับอัจฉริยะของสวีเดนครั้งแล้วครั้งเล่า อาทิ กังหัน เครื่องแยกแร่ ดินระเบิด ตลับลูกปืน

อุตสาหกรรมดังกล่าวซึ่งเรียกกันว่า genius industry จึงเป็นตัวจักรสำคัญ ผลักดันให้สวีเดนกลายสภาพจากประเทศเล็กๆ ยากจน บ้านนอก และด้อยพัฒนาผงาดขึ้นสู่ฐานะประเทศมหาอำนาจ ด้านอุตสาหกรรมสำคัญที่สุดชาติหนึ่งของโลก ด้วยระยะเวลาเพียงไม่กี่ทศวรรษเท่านั้น บริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ของสวีเดนทุกวันนี้ส่วนใหญ่ก็ก่อตั้งขึ้นในยุคนี้เช่นกัน

ปรากฏการณ์ "มหัศจรรย์แห่งอุตสาหกรรม" ที่เกิดขึ้นกับสวีเดน จึงถือเป็นความโดดเด่นเฉพาะตัวที่เกิดขึ้นในระดับโลกเลยทีเดียว

แน่นอนว่าความเจริญรุ่งเรืองแบบก้าวกระโดดที่อุบัติขึ้นในสวีเดนย่อม ส่งผลถึงการพัฒนาความก้าวหน้าที่ต้องตกอยู่กับนครหลวงและศูนย์กลางการเงินอย่าง Stockholm ก่อนเป็นอันดับแรก

ปี 1866 จึงเป็นปีที่ "ศิลานคร" แห่งนี้ได้รับการวางผังเมืองใหม่ โดย เฉพาะการสร้างเครือข่ายถนนหนทางตามแบบอย่างนครใหญ่ต่างๆ ของทวีปยุโรป

หลังจากขั้นตอนเตรียมการในช่วงทศวรรษ 1870 แล้ว การก่อสร้างขยายเมืองเริ่มดำเนินไปอย่างรวดเร็วในทศวรรษ 1880 ซึ่งเป็นทศวรรษที่มีการก่อสร้างอาคารกว่า 2,000 อาคาร บนหมู่เกาะที่รายรอบ Old Town ซึ่งเป็นใจกลางเมืองยุคกลางของ Stockholm นับเป็นสถิติก่อสร้างสูงสุดที่ไม่เคยทำได้มากขนาดนี้อีกเลยจวบจนปัจจุบัน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us