Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน27 เมษายน 2550
โรสมีเดียลุยผุดรายการเด็ก ต่อยอดธุรกิจลิขสิทธิ์การ์ตูน             
 


   
search resources

TV Program
โรส มีเดีย แอนด์ เอนเตอร์เทนเม้นท์, บจก.




โรส มีเดีย ฯ สยายปีกลุยสื่อโทรทัศน์ เดินหน้าเตรียมผุดรายการเพิ่มอีก 3 รายการเจาะกลุ่มเด็ก ชู “Reaching Kids Through Entertainment” ต่อยอดรายได้จากสินค้าสำหรับเด็ก หวังเป็นตัวสร้างรายได้หลักแทนวีซีดีต่อไปในอนาคต เชื่อสิ้นปีรายได้เฉียดเป้าที่วางไว้กว่า 1,000 ล้านบาท

นายจิรัฐ บวรวัฒนะ รองประธานกรรมการสายงานการตลาด บริษัท โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า จากเดิมที่บริษัทฯได้สิทธ์ในการดูแลลิขสิทธ์การ์ตูนหลายๆเรื่อง ทั้งจากญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง โดราเอมอน หรือ การ์ตูนจากกลุ่มมาเวล ทำให้บริษัทฯมีแผนที่จะต่อยอดธุรกิจผ่านช่องทางโทรทัศน์ต่อไป

โดยตั้งเป้าเปิดตัวรายการโทรทัศน์ภายในปีนี้อย่างน้อย 3 รายการ ซึ่งได้เริ่มเปิดตัวรายการโทรทัศน์ไปแล้ว 1 รายการในปีนี้ คือ รายการ “แก๊งการ์ตูน”ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 7.30-8.00น. นำเสนอการ์ตูนสำหรับเด็ก ส่วนอีก 2 รายการนั้น คาดว่าจะสามารถเปิดได้ในช่อง7 และช่อง 9 ต่อไป โดยยังคงคอนเซปต์รายการสำหรับเด็กต่อไป แต่รายละเอียดรายการจะมีความแตกต่างกัน

“การที่ทางบริษัทฯหันมาทำธุรกิจผลิตรายการป้อนสถานีโทรทัศน์นั้น เนื่องจากพบว่ารายได้หลักจากกลุ่มวีซีดีที่มีอยู่ขณะนี้ อาจจะไม่มั่นคงอีกต่อไป ขณะเดียวกันปัจจุบันยังมีปัญหาเรื่องการละเมิดลิขสิทธ์อยู่ด้วย จึงทำให้ยอดขายจากวีซีดีเริ่มหดตัวลง ดังนั้นทางบริษัทฯจึงต้องเล็งหาช่องทางในการสร้างรายได้หลักใหม่ทดแทน และจากที่พบว่าบริษัทฯมีไลน์เซ่นของภาพยนตร์การ์ตูนอยู่หลายเรื่อง จึงมองว่าน่าจะต่อยอดในการสร้างรายได้จากการ์ตูนเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ทั้งในกลุ่มผู้บริโภคที่มีฐานค่อนข้างใหญ่ ตั้งแต่วัยเด็กเล็ก จนถึงวัยรุ่นและผู้ใหญ่บางส่วน รวมไปถึงกลุ่มเจ้าของสินค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กด้วยนั้นเอง”

ล่าสุดกับการเริ่มดำเนินธุรกิจรายการโทรทัศน์นั้น ทางบริษัทฯได้คิดค้นนำเสนอช่องทางการทำตลาดสำหรับเจ้าของสินค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มเด็ก ผ่านโซลูชั่น ภายใต้รูปแบบ “Reaching Kids Through Entertainment” หรือ แผนงานรุกทำธุรกิจมีเดียเข้าถึงเด็กผ่านความบันเทิง ผ่านคอนเทนต์ที่บริษัทฯมีอยู่ ประกอบด้วย รายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก, กิจกรรมโรดโชว์ (ตามโรงเรียน), ลิขสิทธ์การ์ตูนชื่อดัง และการนำภาพยนตร์การ์ตูนเข้าฉายในโรงภาพยนตร์

โดยการทำการตลาดในรูปแบบดังกล่าว ทางบริษัทฯได้นำเสนอบริการนี้ในรูปแบบแพกเกจครบทั้ง 4 คอนเทนต์ที่มีอยู่ ให้กับเจ้าของสินค้าไปแล้วประมาณ 30 บริษัท ทั้งในกลุ่มขนม,นม และอาหารเสริม ที่มีมูลค่าทางการตลาดรวมกันไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท พบว่าลูกค้าให้ความสนใจและตอบรับเป็นอย่างดี โดยส่วนใหญ่อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาและอยู่ในแผนการดำเนินการ ซึ่งคาดว่าปีนี้น่าจะมีลูกค้าตอบรับกลับมาไม่ต่ำกว่า 20 ราย โดยขณะนี้มีลูกค้าที่ตอบตกลงเลือกใช้การทำตลาดดังกล่าวนี้แล้วประมาณ 4 ราย ได้แก่ ขนมขบเคี้ยว ยี่ห้อ เบนโต๊ะ และคูลลี่คูล

ขณะที่การนำเสนอในรูปแบบแพ๊กเก็จนี้จะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายลงอีก 30-40 % จากการที่เลือกใช้คอนเทนต์อย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งนี้จากการต่อยอดขายคอนเทนต์ทั้งหมด และการดำเนินธุรกิจรายการโทรทัศน์คาดว่าครึ่งปีหลังจากนี้ กลุ่มธุรกิจดังกล่าวจะสร้างรายได้ให้บริษัทฯประมาณ 50 ล้านบาท เป็นอย่างน้อย

นายจิรัฐ กล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้ จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้กว่า 1,000 ล้านบาท นั้น ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา สามรถทำได้เพียง 350 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ ทั้งที่ในครึ่งปีแรกควรจะมียอดขาย 400 ล้านบาท ทั้งนี้เกิดจากช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ประเทศไทยต้องเจอกับปัญหาหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการลอบวางระเบิด, สภาพการเมือง และเศรษฐกิจ ที่ล้วนส่งผลกระทบให้ผู้บริโภคเกิดการชะลอตัว

ส่วนในเดือนมีนาคม-เมษายนนั้น ถึงแม้ว่ารายได้จะเริ่มกลับมาดีขึ้นก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้ถึงเป้าที่วางไว้ ดังนั้นเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้ จึงมองว่าค่อนข้างยากที่จะเป็นไปได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำตลาด และการสร้างรายได้จากโมเดลธุรกิจใหม่นี้ด้วย

ปัจจุบันบริษัทฯมีรายได้หลักมาจาก 1. การ์ตูน 35-40 % 2. ภาพยนตร์ 30-35% ที่เหลือมาจาก เพลง และ สินค้าที่ผลิตในประเทศ เช่น คาราโอเกะ และภาพยนตร์ไทยบางเรื่องในรูปแบบวีซีดี   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us