นับจากเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เจ้าฟ้าหญิง Victoria มกุฎราชกุมารีแห่งสวีเดน
ทรงตกเป็นเป้าสายตาของ คนทั้งโลก ทุกย่างพระบาทของพระองค์เป็นที่สนใจของสื่อมวลชนตลอดเวลา
จากการที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในฐานะ "ตัวแทน" ของสวีเดนด้วยพระองค์เอง
เป็นครั้งแรก ทรงร่วมงาน "Swedish Style in Tokyo" ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งนิทรรศการ
สัมมนา แฟชั่นโชว์ คอนเสิร์ต กาลาดินเนอร์ งานเลี้ยงค็อกเทล งานปาร์ตี้ เป็นเวลา
3 สัปดาห์เต็ม
ผู้มีโอกาสเข้าเฝ้ามกุฎราชกุมารีผู้อ่อนเยาว์เพียง 24 ชันษา นอกจากจะชื่นชมในพระสิริโฉมอันงดงามแล้ว
ยังทึ่งในความเป็นธรรมชาติ เป็นกันเอง ความอ่อนหวาน และสุภาพ ความรอบรู้
และพระปรีชาสามารถ รวมทั้งการวางพระองค์เยี่ยงสามัญชนได้อย่างดีเยี่ยม
กับบทบาทที่จะต้องทรงครองราชย์เป็น "สมเด็จพระราชินี" แห่งสวีเดนในอนาคต
เจ้าฟ้าหญิง Victoria พระราชทานสัมภาษณ์ว่า
"ข้าพเจ้าไม่เคยคิดว่าเป็นการเสียสละแต่อย่างใด เพื่อนๆ ของข้าพเจ้าเคยพูดว่า
รู้สึกเสียใจกับข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้าไม่สามารถออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกกับพวกเขา
เพราะต้องร่วมงานดินเนอร์ และนั่งข้างๆ ชายชราน่าเบื่อ แต่ข้าพเจ้าไม่เคยคิดว่านั่นเป็นเรื่องน่าเบื่อแม้แต่น้อย
กลับรู้สึกเสมอว่าได้รับอภิสิทธิ์อันวิเศษยิ่งที่มีโอกาสได้พบปะคนพิเศษเหล่านี้
และได้เรียนรู้สิ่งที่น่าสนใจจากพวกเขา"
"แต่ทุกอย่างย่อมมี 2 ด้านเสมอ ภารกิจของข้าพเจ้าต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบมหาศาลตลอดเวลา
เมื่อก่อนข้าพเจ้าจะเกิดความกระวนกระวายกังวลว่าจะมีความรู้ไม่มากพอ ไม่รู้จริงในสิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังพูดคุย
กลัวการตั้งคำถามโง่ๆ ออกไป รู้สึกว่าตัวเองไม่ให้เกียรติพวกเขา ถ้าไม่มีความรู้ในเรื่องของพวกเขาอย่างลึกซึ้ง
แต่ในที่สุดข้าพเจ้าก็สามารถเอาชนะความกังวลเหล่านี้ได้ และหาโอกาส ซักถามให้มากเท่าที่จะทำได้
ข้าพเจ้าตระหนักดีว่ามีโอกาสอันใหญ่หลวงในการได้ศึกษาเพิ่มเติม"
เกี่ยวกับกระแสรักชาติที่เป็นหัวข้อโต้แย้งในสวีเดนจนมีกลุ่มหัวรุนแรงต่างๆ
ฉวยโอกาสนำธงชาติสวีเดน และสัญลักษณ์ของประเทศไปแอบอ้าง ซึ่งทำให้ราชสำนักกังวลกับปัญหานี้อยู่เสมอ
มกุฎราชกุมารี Victoria ผู้ทรงมีพระราชมารดาเป็น "ลูกครึ่ง" บราซิล-เยอรมัน
และพระราชบิดาทรงสืบเชื้อสายผู้อพยพจากฝรั่งเศสสู่สวีเดนในศตวรรษที่ 19 พระราชทานความคิดเห็นผ่านนิตยสาร
Stockholm New No.12 ว่า
"ข้าพเจ้าเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิที่จะภาคภูมิใจในธงชาติ และประเทศชาติของพวกเขา
และไม่มีใครสามารถลิดรอนสิทธินี้ไปได้ โดยส่วนตัวแล้ว ข้าพเจ้าภาคภูมิใจ
ในสวีเดนอย่างมาก แต่ก็ภูมิใจในประชาชนผู้แข็งแกร่งทุกคนที่อพยพครอบครัวจากประเทศอื่นมาอยู่ที่นี่ด้วย
ในส่วนลึกแล้วข้าพเจ้ายกย่องพวกเขาเหล่านี้ ซึ่งช่วยทำให้สังคมสวีเดนของเราสมบูรณ์
มีความเป็นสากลมากขึ้น รวมทั้งน่าตื่นเต้นและหลากหลายมากขึ้นด้วย ข้าพเจ้าคิดว่า
หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับผู้อพยพก็คือ มีคนมองว่ามันเป็นปัญหามากเกินไป
แทนที่จะคิดว่าเป็นการสร้างโอกาส บางคนก็หวาดกลัวว่า การพัฒนาสู่ความเป็นสากลและโลกาภิวัตน์
จะกลายเป็นพิษภัยต่อคุณค่าแห่ง ความเป็นสวีเดนดั้งเดิมของเรา ข้าพเจ้ากลับเชื่อมั่นในทางตรงกันข้ามว่า
ปรากฏการณ์ ดังกล่าวจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับความเป็นสวีเดนของเรา"
"เป็นความรับผิดชอบของเราในการประเมินทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเข้าไปมีส่วนด้วยความถี่ถ้วนระมัดระวัง
เพราะการคงอยู่ของเราเป็นเสมือนหลักประกันแห่งความ เอาจริงเอาจัง และความสำคัญของโครงการ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรากระทำล้วนมีผลตามมาทั้งสิ้น ข้าพเจ้าไม่ได้เป็นตัวแทนผลประโยชน์ทางการเมือง
หรือเศรษฐกิจของ ใคร ข้าพเจ้าเน้นที่ความเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ทางการเมืองและมีความจริงใจโดยแท้จริง
ข้าพเจ้าไม่ได้ทำเพื่อเงินหรือเพื่อให้ได้คะแนนเสียง หรือเพื่อจุดมุ่งหมายส่วนตัวอื่นใด
หากแต่ทำในนามและเพื่อผลประโยชน์ของสวีเดน ข้าพเจ้าเป็นคนของสวีเดนโดย แท้จริง!"