Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 เมษายน 2550
SCCกำไรQ1ทรุด1.4พันล.เหตุอสังหาฯชะลอตัวเบนเข็มส่งออกเพิ่ม             
 


   
www resources

โฮมเพจ เครือซิเมนต์ไทย

   
search resources

ปูนซิเมนต์ไทย, บมจ.
กานต์ ตระกูลฮุน
Cement




นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทในเครือไตรมาส 1 ปี 50ว่า มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 8,213 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,545 ล้านบาท กว่า 1,332.86 ล้านบาท คิดเป็นการลดลง 14 %

เนื่องมาจากในไตรมาส 1 ของปี 49 นั้น บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรเพิ่มเติมจากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทกรุงเทพซินธิติกส์ จำกัด เพิ่มจาก 11% เป็น 27% ส่งผลให้รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นสูง ประกอบกับที่ไตรมาสนี้ ธุรกิจซีเมนต์และก่อสร้าง มียอดขายชะลอตัวลง เป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและการชะลอตัวของธุรกิจอสังหาฯ

โดยยอดขายธุรกิจซีเมนต์ ในไตรมาส 1/ 50 มียอดขายรวม 11,459 ล้านบาท ลดลง 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรจากการดำเนินงานก็ลดลงกว่า 13% เนื่องจากปริมาณความต้องการปูนซีเมนต์ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัย และโครงการของภาครัฐชะลอตัว ทำให้ยอดขายในประเทศลดลง ส่งผลให้ยอดขายซีเมนต์ในไตรมาสนี้ลดลงจากไตรมาสก่อน ดังนั้น บริษัทจึงเบนเข็มสู่การส่งออกเพิ่มขึ้นจาก 7 ล้านตันเป็น 7.5 ล้านตัน

อย่างไรก็ดี จากการคาดการณ์ชะลอตัวของธุรกิจอสังหาฯ ส่งผลให้การจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศปีนี้ลดลง 5% แต่หากรัฐออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ด้วยการลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง และอนุมัติโครงการเมกะโปรเจกต์ จะช่วยให้ธุรกิจอสังหาฯมีการเติบโตขึ้น ส่งผลดีต่อความต้องการวัสดุก่อสร้างมากขึ้น ซึ่งจะเห็นผลได้ชัดเจนได้ในช่วงครึ่งปีหลัง

" แม้จะทำการขยายการส่งออกให้มากขึ้น แต่ยังไม่แน่ว่าจะได้เงินจากส่วนนี้เพิ่มขึ้นมากนัก เพราะค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่า ทำให้มองแล้วว่ากำไรสุทธิในปีนี้น่าจะลดลงจากปี 2549 " นายกานต์

สำหรับธุรกิจเคมีภัณฑ์นั้น ไตรมาส 1/50 มียอดขายรวมทั้งสิ้น 29,604 ล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินการลดลง 32 % จากปีก่อน เนื่องจากปีที่ผ่านมาบริษัทรับรู้กำไรจากบริษัทกรุงเทพซินธิติกส์ แต่คาดว่ากำไรในไตรมาส 2 ของธุรกิจนี้ อาจจะปรับตัวลดลง เพราะส่วนต่างของสเปรดที่มีแนวโน้มแคบลงจากไตรมาสแรก ซึ่งมีส่วนต่าง 680 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ไตรมาส 2 น่าจะลดลงเป็น 580-590 ดอลลาร์สหรัฐ จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ด้านธุรกิจกระดาษพบว่ากำไรเพิ่มขึ้น 31 % เนื่องจากต้นทุนที่ลดลงจากการใช้ Coal-Fired Boiler ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน แต่หากเปรียบเทียบกับ ไตรมาส1ปี 49 กำไรลดลง เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงและค่าเงินบาทที่แข็งค่า

นายกานต์ กล่าวต่อว่า ในปีนี้ ทางบริษัทยังตั้งเป้าในการลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท ล่าสุดคณะกรรมการได้ทำการอนุมัติงบประมาณ 800 ล้านบาท เปิดโรงงานผลิตกล่องกระดาษที่นิคมอมตะนคร จ.ชลบุรี ส่วนการลงทุนในต่างประเทศได้ชะลอไว้ก่อน

"โครงการที่ประเทศเวียดนาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนที่อินโดนีเซียยังไม่มีข้อสรุปว่าจะเปิดโรงงานผลิตอะไร แต่มีความเป็นไปได้ ว่าจะใช้เป็นโรงงานผลิตซีเมนต์ ก่อสร้าง หรือเคมี ในอนาคตทางบริษัทจะพัฒนาให้ประเทศเวียดนามเป็นแหล่งผลิตอันดับ 2 รองจากประเทศไทยให้ได้ " นายกานต์กล่าว

สำหรับปีนี้ บริษัทจะพยายามเพิ่มยอดขายของเครืออีก 5 % ด้วยการขยายกำลังผลิตให้เต็มกำลัง แม้ว่าราคาปิโตรเคมีจะมีแนวโน้มอ่อนตัวลง ส่วนแผนงานใน 5 ปี บริษัทจะใช้งบประมาณกว่า 20,000 ล้านบาท ในการพัฒนาพลังงานที่เหลือใช้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งโครงการมูลค่า 2,000 ล้านบาท จะสามารถลดต้นทุนด้านพลังงานของบริษัทได้ประมาณ 400-500 ล้านบาท

นายกานต์ กล่าวถึงการลดส่วนการถือครองหุ้นลดในบริษัทย่อยที่ไม่ใช้ธุรกิจหลักของบริษัท (Non - Core) ว่า หลังจากที่บริษัทได้ลด Non-Core ในบริษัทเหล็กยามาโตะ จำกัด และ บมจ. สยามฟูกาวา แล้ว ในขณะนี้ก็ยังจะพิจารณาปรับลดอัตราการถือครองหุ้นในบริษัทอื่น ซึ่งรอจังหวะและความเหมาะสม

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ กล่าวถึงแผนการรีไฟแนนซ์หนี้ของบริษัทว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้ทำการออกหุ้นกู้ไปแล้ว 15,000 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ย 5.75 บาท เพื่อใช้ทดแทนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในปลายปี 6,000 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ในส่วนดังกล่าว ได้จำหน่ายออกไปทั้งหมดแล้ว ส่วนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนตุลาคมอีก 10,000 ล้านบาทนั้น คาดว่าคณะกรรมการคงจะทำการออกหุ้นกู้ชุดต่อไปเพื่อใช้รีไซแนนซ์ต่อไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us