นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า สภาพตลาดรถยนต์ในประเทศยังคงซบเซาต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากยอดขายรถรวมทุกประเภทในไตรมาสแรกตกลงกว่า 18% ขณะที่ยอดขายโตโยต้าเองก็ตกกกว่า 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจทรงตัว การเมืองไม่นิ่ง ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย ทั้งนี้ในไตรมาสสองคาดว่าสถานการณ์จะยังซบเซาต่อไป

"ตนเชื่อว่าประชาชนยังมีกำลังซื้อ แต่ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองที่ยังอึมครึม อาจทำให้ขาดความมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอย และคาดว่าตลาดรถยนต์รวมทุกประเภทในไตรมาสสอง จะตกต่อเนื่องประมาณ 5-10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเชื่อว่าการแข่งขันของผู้ประกอบการจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ดังนั้น บริษัทจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อรักษายอดขายให้เทียบเท่าปีที่แล้ว ทั้งกิจกรรมส่งเสริมการตลาด รวมถึงแคมเปญส่งเสริมการขายให้เข้มข้นมากขึ้น และขาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ถึง 2.9 แสนคันในปีนี้ ลดลงจากการคาดการณ์ไว้ในช่วงต้นปีเล็กน้อย"

พร้อมกันนี้ เพื่อเป็นการสร้างกระแส และกระตุ้นตลาดให้คึกคัก บริษัทฯได้จัดกิจกรรม "โตโยต้ามอเตอร์สปอร์ต 2007"รวม 5 สนาม ทั่วประเทศ ทั้งเชียงใหม่ ,อุดรธานี ,ภูเก็ต ,อุบลราชธานี และชลบุรี ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม -พฤศจิกายนนี้ ซึ่งนับเป็นอีกมิติของกีฬามอเตอร์สปอร์ต ที่จะขยายความนิยมไปตามต่างจังหวัดมากขึ้น และถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง

สำหรับ "โตโยต้ามอเตอร์สปอร์ต 2007"ประกอบด้วยการแข่งขันตั้งแต่ระดับเยาวชน ที่จะจัดอบรมทักษะการแข่งรถ "โกคาร์ท" เพื่อสร้างพื้นฐานที่ดี อันจะเป็นเส้นทางพัฒนาเพื่อก้าวสู่การเป็นนักแข่งที่ดีในอนาคต รวมถึงสนับสนุนนักแข่งหน้าใหม่ ให้ก้าวไปสู่ระดับมืออาชีพ ซึ่งมีส่วนช่วยส่งเสริมวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศอีกด้วย

นายวิเชียร ยังฝากถึงรัฐบาลว่าคงต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราการขยายตัวของจีดีพี ที่คาดว่าอาจจะลดลงต่ำกว่า 4% ในปีนี้ ซึ่งก็หวังว่าอุตสาหกรรมในช่วงที่เหลือของปีน่าจะกลับมาเติบโตอีกครั้งหนึ่ง ส่วนปัญหาค่าเงินบาทแข็งตัวนั้น ก็ส่งผลกระทบกับการส่งออกรถยนต์ของบริษัทเช่นกันแต่บริษัทฯคงไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นปัญหาที่อยู่นอกการควบคุม โดยยังต้องส่งออกไปตามแผนเดิม และไม่สามารถเจรจาขอขึ้นราคากับลูกค้าได้ ทั้งนี้หากต้องการให้การส่งออกเป็นไปได้ด้วยดี ก็อยากเห็นค่าเงินบาทกลับไปยืนที่ราว 38 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา จะถือเป็นช่วงของค่าเงินที่มีความเหมาะสมที่สุด

สำหรับโตโยต้า วีออส ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็ยังได้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยมียอดจองเข้ามาแล้วกว่า 1.7 หมื่นคันไม่รวมการส่งออก ซึ่งขณะนี้ยังมียอดค้างส่งมอบอยู่ประมาณ 1 หมื่นคัน ส่งผลให้บริษัทต้องปรับการผลิตเพิ่มจาก 5 พันคันต่อเดือน เป็น 6 พันคันต่อเดือน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ขณะเดียวกันโรงงานโตโยต้าที่เกตเวย์เองก็มีความสามารถยืดหยุ่นการผลิตจาก 1.5 แสนคันต่อปี เพิ่มได้ถึง 2 แสนคัน ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละช่วงอยู่แล้ว