"ผมต้องการดัดแปลงตึกแถวเก่าๆ จำนวน 47 หลังบน ถนนสีลมให้เป็นโรงแรมที่เล็กๆ
หรูหราและทันสมัย ในสไตล์ Boutique Hotel" คือ ประเด็นสำคัญที่ทางพิเชษฐ
นิธิวาสิน กรรมการโรงแรมนารายณ์ และโรงแรมทริปเปิล ทู มอบหมาย ให้ทีมงานบริษัท
พี 49 ดีไซน์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด ไปคิดค้นรูปแบบมาเมื่อ 2 ปีกว่าก่อนโน้น
เป็นโจทย์ใหม่ที่ค่อนข้างท้าทายทีมงาน เพราะนอกจาก ต้องลบภาพตึกแถวหน้าตาไม่สวยเหล่านี้ให้หายไปจากสายตา
โรงแรมขนาดเล็กแห่งใหม่ที่มาแทน จะต้องคงโครงสร้างเดิมไว้ทั้งหมด เพื่อจะให้ตรงกับสไตล์
บูทีค โฮเต็ลมากที่สุด
"นอกจากเรื่องโครงสร้างแล้ว โรงแรมใหม่ควรจะมี หน้าตาออกมาเป็นอย่างไรให้โดดเด่นไปจากโรงแรมอื่นๆ
ตาม ข้อจำกัดของโจทย์ที่เรามีอยู่ คือปัญหาต่อไป สิ่งหนึ่งที่แวบเข้ามาในความคิดก่อนเลยก็คือ
เรากำลังทำงานกับตึกแถวซึ่งตึกพวกนี้จะมีเรื่องราวของคนจีนสมัยเก่าที่ทำการค้าขายเป็นส่วนใหญ่
และเรากำลังทำเกี่ยวกับเรื่องเดินทาง ตึกแถว คนจีน การเดินทาง 3 เรื่องนี้จะสัมพันธ์กันได้อย่างไร
ในที่สุดคำว่า "โรงเตี๊ยม" ก็ผุดขึ้นมาในความคิด" จักรพงศ์ มณิปันที กรรมการผู้จัดการบริษัท
P.49 เล่าให้ "ผู้จัดการ" ฟังถึงเบื้องหลังของแนวความคิดในการตกแต่งทริปเปิล
ทู
โรงเตี๊ยมคือ เอกลักษณ์เฉพาะตัวของโรงแรมแห่งนี้ แน่นอนรูปลักษณ์ต้องไม่ใช่แบบเดียวกับที่พักคนเดินทางในภาพยนตร์จีนอย่างแน่นอน
แต่เป็นโรงเตี๊ยมสมัยใหม่ที่สวยงาม ภายใต้คอนเซ็ปต์ "privacy security and
high technology" ดังนั้นงานทางด้านตกแต่งภายในจะเน้นกลิ่นอายของความเป็นโอเรียนทอล
ด้วยสถาปัตย-กรรมแบบจีน ไทย และตะวันตกไว้ด้วยกัน วัสดุและอุปกรณ์ทุกชิ้นที่นำมาตกแต่งภายในทริปเปิล
ทู ล้วนแล้วแต่มีความแปลกใหม่ และมีเสน่ห์น่าค้นหาคำตอบ เช่น งานตกแต่งด้วยไม้
ที่ทำเป็นซี่ลูกกรง เหมือนหน้าต่าง ประตูเหล็กในตึกแถว โคมไฟ รูปร่างแปลกๆ
และภาพขาวดำขนาดใหญ่ที่ใช้ตกแต่งผนัง เสาใหญ่กลางห้อง สามารถบอกเล่าเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ของชาวจีนย่านถนนทรงวาด
และงานสถาปัตยกรรมของตึกแถวเก่าๆ ของย่านนั้นได้เป็นอย่างดี
หลังจากตรวจสอบโครงสร้างของอาคาร เดิม ก็พบว่า โครงสร้างเดิมยังคงแข็งแรงอย่าง
มากการและการก่อสร้างจึงไม่ได้เอาคาน หรือเสาออกเลยแม้แต่ต้นเดียว
ทีมงาน ของ P.49 ยังใส่ไอเดียที่แตกต่างจากโรงแรมทั่วไปในทุกรายละเอียด
เริ่มจากเมื่อเปิดประตูเข้ามา แทนที่จะพบกับเคาน์เตอร์ยาวของฝ่ายต้อนรับโดดเด่นอยู่ในล็อบบี้
เหมือนโรงแรมทั่วๆ ไป กลายเป็นบาร์ เล็กๆ ที่ตกแต่งอย่างสวยงามแทน โดยที่ส่วนต้อนรับจะอยู่ลึกไปข้างใน
ถัดจากส่วนของล็อบบี้จะเป็นห้องอาหาร ขนาดใหญ่ "ทริปเปิล ทู เรสเตอรอง
แอนด์ บาร์" ที่ตกแต่งในสไตล์จีน ผสมผสานกับโรงนาเก่าแถบยุโรป จากห้องนี้จะมองออกไปเห็นส่วนที่เคยเป็นลานเล็กๆ
ซึ่งอาจจะใช้เป็นทางเดิน หรือที่ซักล้างหลังตึกแถวแต่ละห้อง ซึ่งพอมารวมกันกลายเป็นพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้และเป็นสวนหย่อม
โดยปล่อยให้แสงธรรมชาติ ส่องเข้ามาได้อย่างเต็มที่
ส่วนห้องพักทั้ง 75 ห้องดีไซน์ภายในอย่างหรูหราด้วยโทนสีขาว น้ำเงิน และม่วง
ดูสดใส และยังมีผังของห้องแตกต่างจากโรงแรมทั่วไป ไฮเทคด้วยคีย์การ์ด สำหรับทางเข้าประตูหลัก
ลิฟต์ และห้องพัก ในราคา ห้องละ 4,900-5,200 บาทต่อคืน
ในอดีตตึกแถวเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับโรงแรมนารายณ์ รายได้จากการปล่อย
เซ้งตึกนี้คือเม็ดเงินที่เจ้าของเคยเอาไปพัฒนา ตัวโรงแรม แต่วันนี้เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าที่ดินแปลงนี้ได้เปลี่ยนเป็นบูทีค
โฮเต็ล กลางเมือง สร้างมูลค่าเพิ่มให้เจ้าของได้อีกครั้งหนึ่ง