Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 เมษายน 2550
คอตโต้-กะรัดงัดสูตรสู้กำลังซื้อฝืด ออกสินค้าใหม่ดันราคาขายเจาะลูกค้าระดับกลาง-ล่าง             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท สยามซานิทารีแวร์ อินดัสทรี จำกัด

   
search resources

สยาม ซานิทารี แวร์ อินดัสตรี, บจก.
Sanitary Wares
Marketing




สินค้าสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ตกแต่งในห้องน้ำงัดกลยุทธ์ฝ่ามรสุมเศรษฐกิจชะลอตัว บิ๊ก"คอตโต้"ระบุค่าบาทแข็งกระทบตลาดส่งออกสุขภัณฑ์ ไตรมาสแรกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 20ล้านบาท เร่งปรับลดต้นทุนผลิตด้านพลังงานและกระบวนการการผลิต ระบุเศรษฐกิจและอสังหาฯในประเทศหดตัว 3-5% พร้อมตั้งเป้าโตสวนกระแสตลาดประมาณ 5-10% หลังปรับกลยุทธ์ออกสินค้าใหม่ช่วยปรับราคาขายตามต้นทุนที่แท้จริง ด้าน"กะรัต ฟอเซท" ปั๊มรายได้ปี 50 โตเพิ่มอีก 20% หรือมีรายได้รวม 360 ล้านบาท เน้นตลาดภายในประเทศเป็นสำคัญ พร้อมเพิ่มโมเดลในหลากหลายรูปแบบของกระรัต ฟอเซท ลั่นภายใน 3 ปีต้องขึ้นแท่นติด 1 ใน 3 ของผู้นำตลาด ระบุปลายปีจ่อเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น

นายนิพนธ์ ธีรนาทสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามซานิทารีแวร์ อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสุขภัณฑ์แบรนด์คอตโต้ เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับผลกระทบจากการปรับตัวของต้นทุนการผลิตและค่าขนส่ง ทำให้ปีนี้บริษัทต้องมีปรับลดต้นทุนในการผลิต โดยจะเน้นในเรื่องของการปรับลดต้นทุนการใช้พลังงาน และลดขั้นตอนการผลิตที่ไม่จำเป็นลงไป นอกจากปัญหาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นมาแล้ว บริษัทยังได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท ส่งผลให้ขาดทุนจากการส่งออกสินค้าสูงถึง 100 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ส่วนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2550 บริษัทมียอดขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนไปแล้ว 20ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 49

ทั้งนี้ ในส่วนของการแก้ปัญหาการขาดทุนจากการส่งออกนั้น บริษัทจะเน้นส่งออกไปในกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพมากขึ้นแทนการขยายตลาดใหม่ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการทำตลาดลงมา อย่างไรก็ตามในปีนี้ บริษัทยังคงสัดส่วนในการส่งออกต่างประเทศไว้ที่ 30% และขายในประเทศ 70% เท่ากันปีที่ผ่านมา โดยบริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้จากการขายเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี2549ประมาณ 5-10% หรือมียอดขายรวมประมาณ 3,200ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี2549ที่ 3,000 ล้านบาท โดยสินค้าในตลาดระดับกลางและล่างจะเป็นแหล่งสร้างรายได้หลักของบริษัท และเพื่อให้สอดรับกับกำลังซื้อของผู้บริโภคตามภาวะเศรษฐกิจในตอนนี้ ทำให้บริษัทต้องออกสินค้าใหม่เพิ่มมากขึ้น เพื่อผลักดันเสนอราคาขายได้ตามต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้ออกสินค้าใหม่มาแล้ว 2 ซีรี่ คือ เฮอร์คิวรีส ซึ่งจับกลุ่มลูกค้าระดับบน และสเปชโซรูชั่น ซึ่งเจาะตลาดระดับกลาง เป็นสินค้าที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับห้องน้ำที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด อย่างเช่น โครงการคอนโดมิเนียม ที่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาเติบโตค่อนข้างสูง

นายนิพนธ์ กล่าวถึงแนวโน้มตลาดรวมสุขภัณฑ์ว่า จะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 5,500 ล้านบาท มีอัตราการขยายตัวลดลงจากปีที่ผ่านมา 3-5% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจและการเมือง ส่งผลกระทบต่อการชะลอตัวในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และต่อเนื่องมาถึงการใช้สินค้าสุขภัณฑ์ ทั้งนี้ในปัจจุบัน บริษัทยังถือว่าเป็นผู้นำตลาดสุขภัณฑ์ ทั้งในด้านยอดขายและมูลค่า โดยบริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 40-45% ของมูลค่าตลาดรวม โดยขณะนี้บริษัทมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 2.8 ล้านชิ้นต่อปี อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงจาก 90% ในปีที่ผ่านมาลงมาเหลือ 80% ในปีนี้

ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวบริการ Cotto Bathroom Servise เพื่อสร้างตลาดการบริการทางด้านห้องน้ำครบวงจร (One Stop Servises) รองรับการขยายตัวของตลาดปรับปรุงห้องน้ำเก่า (รีโนเวต) และตลาดห้องใหม่ ซึ่งผลจากการสำรวจของบริษัทพบว่า มีกลุ่มบ้านเก่าที่ต้องการปรับปรุงห้องน้ำใหม่สูงถึง 20 ล้านหน่วยทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าว่าจะเปิดศูนย์บริการ Cotto Bathroom Servise ในกรุงเทพฯ 4 สาขา ประกอบด้วย สาขาอโศก ,สุขาภิบาล ,รัตนาธิเบศร์ และสาขาดอนเมืองซึ่งเป็นสาขาใหญ่ โดยตั้งเป้าว่าจะมีทีมให้บริการในปีนี้ 30ทีมจากเป้าทั้งหมด 100ทีม และมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ200รายในปีนี้ โดยราคาเฉลี่ยในการปรับปรุงต่อห้องอยู่ที่ 1 แสนบาท

"กะรัต ฟอเซท"ชูสินค้าใหม่เจาะไลฟ์สไตล์คนซื้อ

อัครพงศ์ นิธยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กะรัต ฟอเซท จำกัด กล่าวถึงทิศทางธุรกิจภายใต้สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันว่า ทางบริษัทยังคงตั้งเป้าการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้จะรักษาการขยายตัวเพิ่มขึ้น 20% หรือมีรายได้รวมประมาณ 360 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นการเติบโตจากสินค้าระดับกลางเป็นหลัก แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 325 ล้านบาท คิดเป็น 90% และยอดส่งออกต่างประเทศ 35 ล้านบาท คิดเป็น 10% จากการเจาะตลาดในเอเชีย และตะวันออกกลาง ทั้งนี้ไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ สามารถทำยอดขายเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 30% เนื่องจากมีการปรับปรุงไลน์สินค้าให้ชัดเจน หันมาผลิตสินค้าเฉพาะรุ่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และมีการปรับปรุงด้านบริการ โดยใช้ทีมขายชุดเดิม ซึ่งมีความคุ้นเคยกับลูกค้าเก่าเป็นอย่างดี

สำหรับบริษัทกะรัตฯ เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายก็อกน้ำ,ฟลัชวาล์ว, กระจก, บานกั้นห้องอาบน้ำ, อุปกรณ์ประกอบห้องน้ำ และอุปกรณ์อื่นๆ ภายใต้แบรนด์ “Karat Faucet” ราคา 800-6,000 บาท เพื่อเจาะตลาดระดับกลาง-บน และแบรนด์ “Global” ราคา 200-500 บาท ซึ่งมีคุณภาพที่เหนือกว่าสินค้าจากประเทศจีน นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย “วิเซนทิน (Visentin)” ก็อกน้ำระดับไฮเอนด์จากอิตาลี ราคาตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป เน้นดีไซน์และการใช้วัสดุตกแต่งที่หรูหรา เจาะตลาด Niche Market ปัจจุบันสัดส่วนการทำตลาดสินค้าแยกตามแบรนด์แบ่งเป็น Karat Faucet 40% ,Global 50% และ Visentin 10% โดยมีการจำหน่ายผ่านช่องทางผ่านตัวแทนจำหน่ายกว่า 600 ราย ในกรุงเทพฯ 50% และต่างจังหวัด 50%

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่าในส่วนของกลยุทธ์ทางการตลาด บริษัทมีแผนจะเพิ่มรูปแบบ(โมเดล)ในรุ่นของกะรัต ฟอเซท ให้มากขึ้น เน้นคุณภาพ ฟังก์ชั่นการใช้งาน ผสมผสานกับดีไซน์ที่ทันสมัยสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค ที่ปัจจุบันให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อสินค้าให้เข้ากับสไตล์ของด้วยตนเองมากขึ้น โดยตั้งงบสื่อสารการตลาดไว้ 35 ล้านบาท รวมทั้งบริการหลังการขายผ่าน Call Center และตัวแทนจำหน่ายกว่า 600 รายทั่วประเทศ

โดยทางบริษัทยังได้ตั้งเป้าที่จะผลักดันให้สินค้ากะรัต ฟอเซท ก้าวขึ้นไปติดอันดับ 1 ใน 3 ของผู้นำตลาดให้ได้ภายใน 3 ปี จากขณะนี้ที่ กะรัต ฟอเซท มีมาร์เก็ตแชร์ 10% อยู่ในอันดับ 4 ของตลาดรวมก็อกน้ำและอุปกรณ์ประกอบห้องน้ำที่มีมูลค่า 3,500 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปลายปี 2550 เพื่อระดมทุน 50-60 ล้านบาทมาใช้ในการขยายโรงงาน และปรับปรุงเครื่องจักร เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตจากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 400 ตันต่อปีมาเป็น 500 ตันต่อปี   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us