Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 เมษายน 2550
โฟร์โมสต์ปรับราคา6%ทุ่มงบพันล.ขยายโรงงาน             
 


   
www resources

Friesland Foods Foremost [Thailand] PCL. Homepage

   
search resources

Marketing
Dairy Product
ฟรีสแลนด์ ฟู้ดส์ โฟร์โมสต์ (ประเทศไทย), บมจ.




โฟร์โมสต์ ปรับราคานมขึ้น 5-6% คาดผู้ประกอบรายอื่นแห่ปรับขึ้นก่อน 1 พ.ค. หลังกรมการค้าภายในไฟเขียว ระดมงบลงทุนกว่า 1,000 พันล้านบาท ขยายโรงงานรองรับการเติบโตธุรกิจนม อัดฉีดกว่า 100 ล้านบาท ละเลงศึกนมถั่วเหลือง ดึงบี้เดอะสตาร์ขึ้นแท่นพรีเซ็นเตอร์ ปีนี้ตั้งเป้าโกยแชร์จาก 5% เป็น 10%

นางกวีมาศ ตั้งคีรีพิมาน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ฟรีสแลนด์ ฟู้ดส์ โฟร์โมสต์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่กรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ได้อนุมัติให้มีการปรับราคาน้ำนมดิบที่รับซื้อจากเกษตรกรปรับเพิ่มจากเดิมกิโลกรัมละ12.50บาทเป็น 13.75 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ล่าสุดได้อนุมัติให้นมพร้อมดื่มปรับราคาขึ้น ซึ่งบริษัทฯคาดว่ากลุ่มผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดรวมจะปรับราคานมพร้อมดื่มขึ้น 5-7% ก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม นี้ สำหรับโฟร์โมสต์ได้ปรับขึ้น 5-6% ขึ้นอยู่กับปริมาณนมแต่ละขนาดเฉลี่ย .25-2 บาทต่อกล่อง โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป

แผนลงทุนปีนี้บริษัทฯได้ทุ่มกว่า 1 พันล้านบาท ขยายโรงงานผลิตเพิ่มจากเดิมทั้งในโรงงานที่หลักสี่และสำโรง ปรับระบบการกระจายสินค้าและบริหารสินค้าคงคลังใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนนโยบายการตลาดมุ่งขยายกลุ่มสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เน้นตลาดที่มีขนาดและมีอัตราการเติบโตสูง โดยเฉพาะตลาดนมถั่วเหลืองยูเอชทีซึ่งมีมูลค่า 4,863 ล้านบาท ล่าสุดได้เปิดตัวนมถั่วเหลืองไฮไฟว์ ผสมน้ำแครอท และเบอร์รีสกัด มี 2 รสชาติ ได้แก่ รสธรรมชาติ และรสธัญญาหาร

ด้านกลยุทธ์การตลาดนมถั่วเหลืองไฮไฟว์บริษัทฯจะเน้นจุดขาย "คุณค่าที่มากกว่า" ซึ่งปีนี้บริษัทฯเตรียมเปิดตัวอีก 3-4 รสชาติ วางงบการตลาด 50 ล้านบาทในช่วงการเปิดตัวรสผสมน้ำแครอทและเบอร์รี่สกัด 3 เดือนนี้ ส่วนทั้งปีคาดว่าจะใช้งบกว่า 100 ล้านบาท ผ่านการสื่อสารทางการตลาดและกิจกรรมครบวงจร และดึง" บี้ เดอะสตาร์" หรือ สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว เป็นพรีเซ็นเตอร์

นอกจากนี้ปีนี้บริษัทฯยังหันมากระจายสินค้าในช่องทางประเภทร้านค้าทั่วไปในครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ใกล้เคียงกับนมโฟร์โมสต์ยูเอชที ส่วนช่องทางโมเดิร์นเทรด วางแผนสร้างความโดดเด่นในการจัดเรียงสินค้า จากปัจจุบันช่องทางจำหน่ายหลักจะมาจากร้านค้าทั่วไป 51% ซุปเปอร์มาร์เก็ต 34% และร้านสะดวกซื้อ 15% ตามลำดับ แจกสินค้าตัวอย่างได้ทดลอง 1 ล้านคน สำหรับการเปิดตัวรสชาติใหม่ผสมน้ำแครอทและเบอร์รี่สกัด คาดว่าจะขยายฐานลูกค้าได้กว้างทั้งกลุ่มเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งล่าสุดได้เปิดตัวขนาดบรรจุ 4 กล่อง ราคา 31 บาท เพื่อรองรับกำลังการซื้อที่ลดลง จากเดิมไฮไฟว์มีขนาดบรรจุ 6 กล่อง ราคา 45-46 บาท

แนวโน้มตลาดนมถั่วเหลืองมูลค่า 7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดนมถั่วเหลืองยูเอชที มีมูลค่า 4,863 ล้านบาทเติบโต 23% พาสเจอร์ไรส์ 25 ล้านบาท เติบโต 158% และตลาดสเตอริไรส์ 2,088 ล้านบาท เติบโต 3% โดยรสชาติที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าสัดส่วน 20% ของตลาดรวม มีการเติบโต 79% ซึ่งเป็นส่วนสำคัญผลักดันให้ตลาดนมถั่วเหลืองมีอัตราการเติบโตในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนรสธรรมชาติสัดส่วน 80% มีอัตราการเติบโต 8%

"การแข่งขันในตลาดนมถั่วเหลืองยูเอชทีมีความรุนแรงมากขึ้น โดยคาดว่าปีนี้ผู้ประกอบการ 4 ราย ได้แก่ ไวตามิ้ลค์ แลคตาซอย ดีน่า ใช้งบการผ่านสื่อโฆษณาร่วม 300 ล้านบาท และหากรวมการทำบีโลว์เดอะไลน์เพิ่มขึ้นอีก 30-40% ขณะที่การเปิดตัวรสชาติใหม่ไม่ต่ำกว่า 3-10 รสชาติต่อปี ซึ่งในตลาดยูเอชที แลคตาซอยเป็นผู้นำตลาด ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก โดยเฉพาะโพซิชันนิ่งในเรื่องการให้ความคุ้มค่า ส่งผลตั้งแต่ในช่วงปี 2548 ส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นจาก 40% เป็น 43-44% ขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดแทนที่ไวตามิ้ลค์ ส่วนไวตามิ้ลค์ผู้นำตลาดนมถั่วเหลืองโดยรวม มีจุดแข็งในเรื่องนมถั่วเหลืองสเตอริไรซ์ มีส่วนแบ่งถึง 70-80%”

สำหรับตลาดนมพร้อมดื่มมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท ปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโต 13% แบ่งเป็นตลาด นมพร้อมดื่ม 54% ซึ่งโฟร์โมสต์เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 55% นมถั่วเหลืองสัดส่วน 34% กลุ่มนมสเตอริไรส์ 10% และกลุ่มนมธัญญาหาร 1%

อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดตัวนมถั่วเหลืองไฮไฟว์รสชาติใหม่ คาดว่าในปีนี้ไฮไฟว์จะมียอดขายโต 20% และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 8-10% จากปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 5% เป็นอันดับที่4 ในตลาด รองจากดีน่า ที่มีส่วนแบ่งตลาด 17%ไวตามิลล์ 35% และ แลตตาซอย 43% คาดว่า ภายในระยะเวลา 5 ปีต่อจากนี้นมถั่วเหลืองโฟร์โมสต์ ไฮไฟว์ จะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นติดอันดับ 1 ใน 3 ของตลาด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us