|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ผู้ถือหุ้นรายย่อย ค้านจัดสรรวอร์แรนต์จำนวน 58 ล้านหน่วยให้ผู้บริหารและพนักงานบริษัท อ้างหวั่นฉุดราคาหุ้นบนกระดานร่วงกราวรูด ขณะที่ผู้บริหารแจงกระทบแค่ 0.5% ก่อนจะอนุมัติให้ขยายเวลาใช้สิทธิออกไปเป็น 3 ปี จากเดิม 2 ปี พร้อมเตรียมแผนลงทุนเพิ่มปีนี้อีกเกือบ 1.2 หมื่นล้านบาท ในโครงการ Reforming Complex และมั่นใจผลงานไตรมาสแรกดี เหตุค่า GRM ขยับสูงกว่าไตรมาส 4 ปีก่อน
นายชายน้อย เผื่อนโกสุม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรงกลั่นน้ำมันระยอง จำกัด (มหาชน) หรือ RRC เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2550 ว่า บริษัทคาดว่าค่าการกลั่นเบื้องต้น (GRM) โดยรวมในไตรมาสแรกปีนี้น่าจะดีขึ้นจากปลายปี 2549 โดยคาดว่าจะสูงกว่า 5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากไตรมาส 4 ปีก่อนที่มี GRM อยู่ที่ 4.11 เหรียญต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากในช่วงต้นปีราคาน้ำมันตลาดโลกได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น และเป็นช่วงที่โรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ ปิดซ่อมแซม จึงทำให้ค่าการกลั่นเบื้องต้นปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งคาดว่าราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากความวิตกกังวลสภาพดินฟ้าอากาศ เช่น เฮอร์ริเคน ในสหรัฐฯ เหตุการณ์ตึงครียดในอิหร่าน ทำให้เฮดจ์ฟันด์เข้ามากก็งกำไรราคาน้ำมัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันมีความผันผวนมากขึ้นด้วย
สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้ บริษัทจะใช้เงินลงทุนประมาณ 330 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 11,550 ล้านบาท (คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐต่อ 35 บาท) โดยส่วนใหญ่จะใช้ในโครงการ Reforming Complex ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง และแล้วเสร็จไปแล้วกว่า 52% โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนนิงานและเบิกเงินกู้บางส่วน
วานนี้ (23 เม.ย.) ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2550 บริษัทได้บรรจุวาระเสนอขอผู้ถือหุ้นอนุมัติออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (วอร์แรนต์) จำนวน 58 ล้านหน่วย เพื่อจัดสรรให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานบริษัท รวมถึงผู้บริหารและพนักงานบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ที่ปฏิบัติงานใน RRC เต็มเวลา เพื่อสร้างแรงจูงใจ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงในการปฏิบัติงาน
โดยรายละเอียดของวอร์แรนต์จำนวน 58 ล้านหน่วยที่เสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณา คือ จัดสรรให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของ RRC และ PTT ในราคา 0 บาท อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยต่อ 1 หุ้นสามัญ ราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญหุ้นละ 12 บาท กำหนดระยะเวลาการใช้สิทธิภายใน 24 เดือน โดยทยอยใช้สิทธิดังนี้ คือ 25% ในเดือนที่ 12 เดือน ส่วนที่ 2 อีก 25% ในเดือนที่ 18 และที่เหลือ 50% ในเดือนที่ 24
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการประชุมได้มีผู้ถือหุ้นรายย่อยคัดค้าน เนื่องจากเห็นว่าราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ ต่ำกว่าราคาตลาดค่อนข้างมาก บวกกับราคาหุ้นบนกระดานหลักทรัพย์ที่หุ้นละ 17.60 บาท (ราคาปิด 23 เม.ย. 50) ต่ำกว่าราคาไอพีโอที่หุ้นละ 18 บาท ดังนั้น หากมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของวอร์แรนต์ดังกล่าวจะเป็นแรงกดดันให้ราคาหุ้นบนกระดานหลักทรัพย์ต่ำลงอีก และส่งผลให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยเดือนร้อน ดังนั้นผู้ถือหุ้นบางรายจึงเสนอให้ยืดเวลาการใช้สิทธิออกไปอีก รวมทั้งปรับราคาการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มขึ้น
นายชายน้อย ได้ชี้แจงในที่ประชุมว่า การออกวอร์แรนต์ครั้งนี้เป็นเรื่องปกติเหมือนกับหลายๆ บริษัทที่ดำเนินการอยู่แล้ว บวกกับในอนาคตอาจจะมีการยกเลิกบริษัท ARC ซึ่งเป็นบริษัทที่รับบริหารโรงกลั่นระยอง (RRC) และบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (SPRC) โดยตามข้อตกลง RRC และ SPRC จะต้องรับพนักงาน ARC ในสัดส่วน 50% หรือประมาณกว่า 300 คน ดังนั้นการออกวอร์แรนต์ครั้งนี้ เพื่อเป็นการจูงใจและดึงบุคลากรที่มีคุณภาพจาก ARC เข้ามาปฏิบัติงานกับ RRC เพราะ SPRC เอง ซึ่งปตท.ถือหุ้นอยู่ประมาณกว่า 30% ก็มีแผนที่จะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมาณปลายปี 50 นี้เช่นกัน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดผลกระทบราคาหุ้นที่จะปรับตัวลดลงหลังจากการใช้สิทธิวอร์แรนต์ซื้อหุ้นสามัญดังกล่าว คณะกรรมการจึงมีมติให้ขยายระยะเวลาการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญออกไปจาก 2 ปี เป็น 3 ปี โดยปีแรก 25% ปีที่ 2 อีก 25% และปีสุดท้าย 50% ของจำนวนวอร์แรนต์ที่จัดสรรทั้งหมด
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการ บริษัท โรงกลั่นระยอง จำกัด (มหาชน) หรือ RRC กล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทมีความเข้าใจข้อวิตกกังวลของผู้ถือหุ้นรายย่อย แต่จำนวนหุ้นที่จะเพิ่มจากการใช้สิทธิวอร์แรนต์จำนวน 58 ล้านหุ้น จะทำให้ราคาหุ้นลดลงไม่มากนัก หรือประมาณ 0.5% เท่านั้น
"ผมอยากให้ผู้ถือหุ้นเปรียบเทียบราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลง กับมูลค่าโรงงานกว่าแสนล้านของ RRC ดังนั้นบุคลากรจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตต่อไปข้างหน้า จึงอยากให้ผู้ถือหุ้นมองถึงตรงนี้ และคาดหวังว่าผู้บริหารจะบริหารงานให้บริษัทเติบโตได้ในอนาคต"
อย่างไรก็ตาม ผลจากการลงมติในวาระดังกล่าว ปรากฏว่า ผู้ถือหุ้นเห็นด้วย 1,643 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 91.14% ไม่เห็นด้วย 134 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 7.44% และงดออกเสียง 25 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.42% พร้อมกันนี้ผู้ถือหุ้นยังได้อนุมัติให้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 58 ล้านบาท จากหุ้นที่ยังไม่ได้จัดสรรจำนวน 386.60 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิวอร์แรนต์จำนวนดังกล่าว
|
|
|
|
|