"กฤษดามหานคร"เตรียมเฮ หลังกลุ่ม "SOPHAST INTERCORP" ทุ่มทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุน 1,500 ล้านหุ้น คาดราคาหุ้นไม่ต่ำกว่า 1 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ผู้ลงทุนต้องจัดหาแหล่งเงินกู้วงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยไม่เกินMLR จัดหานักลงทุนซื้อหุ้นแปลงสภาพอีก 403 ล้านบาท เล็งนำเงินระดมทุนพัฒนาและขยายโครงการคอนโดฯและบ้านเดี่ยว ตั้งเป้าปี 50 โต 100% หรือมีมูลค่าการขายประมาณ 2,500-3,000 ล้านบาท
นายธเนศวร์ สิงคาลวณิช กรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน)หรือ KMC เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการบริษัทได้มีมติขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1,500 ล้านหุ้น ในราคาไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 1บาท และออกหุ้นกู้แปลงสภาพอีก 403 ล้านบาท ราคาแปลงสภาพ 1.30 บาท อายุ 3 ปี ล่าสุดมีนักลงทุนที่สนใจจะซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว โดยบริษัทได้ลงนามในสัญญา Agreement for share subscription by private เมื่อวันที่ 20 เม.ย.50 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สัญญาดังกล่าวมีข้อความสำคัญระบุว่า นักลงทุนกลุ่ม SOPHAST INTERCORP ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนที่เป็นบุคคลจำนวน4ราย ได้แก่ นางสาวพรณรัตน์ โรจน์ชูพันธ์ จำนวน 799,999,999 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 53.33% ของหุ้นเพิ่มทุน , นางสาวสมลักษณ์ โสภาเสถียรพงศ์ จำนวน 150 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 10% ของหุ้นเพิ่มทุน , นายวิรุฬห์ วงศ์แสงนาค จำนวน540 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 36% ของหุ้นเพิ่มทุน และนายKhamseng Khamkoon จำนวน 10 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.67% ของหุ้นเพิ่มทุน จากจำนวนหุ้นที่จองซื้อทั้งสิ้น1,500 ล้านหุ้น โดยจะซื้อในราคาไม่ต่ำกว่าหุ้นละ1 บาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจา ทั้งนี้ ตามข้อมูลของบริษัท ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2549 บริษัทมีมูลค่าหุ้นที่เรียกชำระแล้ว 4,644.75 ล้านบาท มีส่วนของผู้ถือหุ้น 2,229.81 ล้านบาท
สำหรับเงื่อนไขในการซื้อหุ้นดังกล่าวนั้น ทางบริษัทกฤษดาฯยังได้กำหนดให้ นักลงทุนจะต้องมี Proof of Fund มาให้ทางบริษัทภายใน 30 วัน นับจากวันที่ลงนามในสัญญา เพื่อเป็นการยืนยันแหล่งเงินทุนของผู้ร่วมทุนที่มีอยู่ นอกจากเงินเพิ่มทุนแล้วผู้ลงทุนจะต้องหาหาแหล่งเงินกู้ 1,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ปกติ และมีอัตราดอกเบี้ยไม่เกินกว่า MLR ให้แก่บริษัท และ ในส่วนของหุ้นกู้แปลงสภาพอีก 403 ล้านบาท นั้นผู้ซื้อจะต้องหานักลงทุนมาซื้อให้แก่บริษัทด้วย โดยจะต้องซื้อในอัตราอัตราดอกเบี้ย 1.75 % ต่อปี อายุ 3 ปี อัตราแปลงสภาพที่ 1.30 บาทต่อหุ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบสถานะบริษัท (Due Diligence) ภายในระยะเวลา 15 วัน และจะต้องเสร็จสิ้นก่อน 30 วันก่อนวันขายหุ้น (Closing Date) สำหรับการเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายเป็นการเฉพาะเจาะจง (PRIVATE PLACEMENT) ให้แก่กลุ่ม SOPHAST INTERCORP เสนอขายไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 1 บาท เพื่อนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมสถาบันการเงินตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และออกหุ้นกู้แปลงสภาพ จำนวน 403 ล้านบาท และเงินกู้ จำนวน 1,000 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 1,403 ล้านบาท เพื่อที่ลงทุนซื้อทรัพย์สินประกอบการของบริษัทคืนจากเจ้าหนี้สถาบันการเงิน หรือใช้ลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพ และให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดี
"ทรัพย์ที่จะซื้อคืนจากเจ้าหนี้สถาบันการเงิน คงยังไม่ใช่ที่ดินแปลงใหญ่บริเวณสุวรรณภูมิ เนื่องจากเป็นเรื่องระยะยาว ส่วนการลงทุนจะเป็นการพัฒนาโครงการที่คืนกำไรได้ดี เช่น โครงการคอนโดมิเนียมริมน้ำ เป็นต้น "นายธเนศวร์กล่าว
ขณะที่เป้าหมายธุรกิจในปีนี้ ทางบริษัทวางแผนยอดขายไว้ประมาณ 2,500-3,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 100% จากปีก่อนซึ่งมียอดขาย 1,500-1,600 ล้านบาท เนื่องจากมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายหลายโครงการ ขณะเดียวกันมีการเปิดโครงการเฟสใหม่ต่อเนื่องประมาณ 5-6 เฟส ทั้งในส่วนของแนวราบ และแนวสูง กระจายในทำเลรัชดาภิเษก และพหลโยธิน โดยบริษัทจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่อยู่อาศัยระดับกลางและระดับล่างระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท เนื่องจากเห็นว่าโอกาสเติบโตมีสูงกว่าที่อยู่อาศัยระดับบนที่มีราคามากกว่า 4 ล้านบาท
" ยอมรับว่าที่อยู่อาศัยระดับกลางและระดับล่างดังกล่าว มีการแข่งขันค่อนข้างสูงในปัจจุบัน เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ปรับกลยุทธ์มาสนใจมากขึ้น แต่บริษัทฯก็ไม่ได้กังวล โดยยึดจุดแข็งด้านทำเลที่ตั้ง ราคา รวมถึงรายการส่งเสริมการขาย ซึ่งมั่นใจว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า"
ปัจจุบันบริษัทฯมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ประมาณ 1.1 เท่า โดยแม้จะมีแผนลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต แต่ทางบริษัทจะพยายามควบคุมรักษา D/E ไม่เกิน 2 เท่า เพื่อให้การบริหารงานคล่องตัว ขณะเดียวกันมั่นใจว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้จะขยายตัวมากกว่า 30% เนื่องจากราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะช่วยหนุนให้ผลประกอบการดีขึ้น
ก่อนหน้านี้ ทางบริษัทฯระบุไว้ว่า จะเงินเพิ่มทุนไปพัฒนาและขยายโครงการคอนโดฯเดอะคริส รัชดา ตึก 3 อายุโครงการ 1.5 ปี มูลค่าเงินลงทุน 231.12 ล้านบาท , โครงการคอนโดฯเดอะคริส รัชดา ตึก 4 อายุโครงการ 1.5 ปี มูลค่าเงินลงทุน 283 ล้านบาท ,โครงการคอนโดฯเดอะคริส เอ็กคลูซีพ อายุโครงการ 1.5 ปี เงินลงทุน 60.65 ล้านบาท ,โครงการคอนโดฯเดอะคริส พาร์ม รัชดา เงินลงทุน 125.42 ล้านบาท ,โครงการคอนโดฯเดอะคริส รัชโยธิน มูลค่าเงินลงทุน 164.42 ล้านบาท ,โครงการ 48 โซน A เงินลงทุน 583.08 ล้านบาท และโครงการ 48 โซน C อายุโครงการ 3.5 ปี มูลค่าเงินลงทุน 565.11 ล้านบาท
|