บาคาร์ดี เร่งเครื่องบูมวิลเลี่ยม ลอว์สันโค้งสุดท้ายก่อนเข้ายุคมืด อัดฉีด 70 ล้านบาท สร้างแบรนด์ติดลมบน โหมภาพยนตร์โฆษณาหนัก 2 เดือน สื่อสารคอนเซปต์แบรนด์ถึงคอทองแดง รุกขยายสถานบันเทิง โมเดิร์นเทรดครอบคลุม 80% สิ้นปีนี้ ตั้งเป้าปีแรกโกยแชร์ 5%

นายสิทธิพร เอื้อทวีกุล ผู้ดูแลผลิตภัณฑ์ วิลเลี่ยม ลอว์สัน บริษัท บาคาร์ดี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าเหล้าวิลเลี่ยม ลอว์สัน จากประเทศสก็อตแลนด์ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้วางแผนสร้างแบรนด์เหล้าวิลเลี่ยม ลอว์สันในเชิงรุกในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.... แจ้งเกิด ทั้งนี้เพราะวิลเลี่ยม ลอว์สัน เป็นสินค้าใหม่ เพิ่งเปิดตัวลงสู่ตลาดเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมานี้ ตราสินค้ายังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก ดังนั้นจึงต้องเร่งสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างในระยะเวลาอันรวดเร็ว

สำหรับการสร้างแบรนด์บริษัทฯได้ทุ่มงบ 70 ล้านบาท แบ่งเป็นงบ บีโลว์เดอะไลน์ 40% ส่วนอะโบฟเดอะไลน์ 60% โดยในช่วง 2 เดือนนับจากนี้ เน้นการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างหนัก จากที่ผ่านมาการสร้างการรับรู้ในช่วง 1 ไตรมาสที่ผ่านมา ใช้สื่อสิ่งพิมพ์เป็นหลักเท่านั้น ล่าสุดเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา เพื่อสื่อสารถึงบุคลิกของแบรนด์ให้มีความชัดเจน ภายใต้คอนเซปต์แบรนด์ “จริงใจ ไม่ยึดติด กับกฎเกณฑ์” เจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 25-35 ปี ในระดับกลาง เน้นตลาดต่างจังหวัดในสัดส่วน 70% และกรุงเทพฯ 30% แตกต่างจากสินค้าคู่แข่งเจาะกลุ่มเป้าหมายคนเมืองสัดส่วน 60% และกรุงเทพฯ 40%

“ขณะนี้บริษัทฯต้องเร่งสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ก่อนที่พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะแจ้งเกิด ซึ่งในช่วงนี้นับว่าเป็นโอกาสที่ดีของแบรนด์วิลเลี่ยม ลอว์สัน เพราะสินค้าคู่แข่งไม่ได้มีการทำภาพยนตร์โฆษณาประชาสัมพันธ์มากนัก”

พร้อมกันนี้ บริษัทฯยังได้วางแผนขยายช่องทางจำหน่ายครอบคลุม 80-90% ในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันมีการจำหน่ายสินค้าครอบคลุมทั้งช่องทางสถานบันเทิง ผับ บาร์ และโมเดิร์นเทรดเพียง 40% เท่านั้น แบ่งเป็น โมเดิร์นเทรด 80% ส่วนสถานบันเทิงมีเพียง 40% เนื่องจากการแข่งขันมีความรุนแรง ผู้ประกอบการแข่งขันทำร้านเอ็กซ์คลูซีฟเหล้าเฉพาะแบรนด์ ทำให้สินค้าเข้าไปจำหน่ายได้ยาก ดังนั้นบริษัทจะใช้การมีสินค้าครบไลน์ โดยการนำกลยุทธ์การขายพ่วงกับบาคาร์ดี้ บรีเซอร์ หรือสินค้าอื่นๆ ซึ่งจะทำให้ผลักดันสินค้าเข้าร้านค้าได้ง่ายขึ้น

สำหรับการสร้างแบรนด์ในขั้นต่อไป ต้องรอดูถึงพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด แต่ในสเตปต่อไปบริษัทกำลังพิจารณาว่าวิลเลี่ยม ลอว์สัน จะต้องดำเนินกิจกรรมเป็นประเภทใด อาทิ มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย ส่วนกลยุทธ์ราคานั้น บริษัทไม่มีแผนนำมาใช้ กรณีที่แบรนด์ยังไม่เป็นที่รู้จัก เนื่องจากปัจจุบันวิลเลี่ยม ลอว์สัน เป็นเหล้าเซกเมนต์พรีเมียม-สแตนดาร์ด แต่จำหน่ายในราคา 350บาท ระดับเซกเมนต์สแตนดาร์ด ซึ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งถือว่าเป็นราคาที่ถูกกว่าอยู่แล้ว

แนวโน้มตลาดเหล้าเซกเมนต์สแตนดาร์ดมูลค่า 12,000 ล้านบาท หรือคิดในเชิงปริมาณ 3 ล้านลัง ปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโต 8-10% เนื่องจากผู้บริโภคเปลี่ยนจากการดื่มเหล้าเซกเมนต์เซกันดารี่มาสู่สแตนดาร์ด สืบเนื่องจากภาษีเหล้าเซกเมนต์เซกันดารี่ถูกปรับขึ้น สำหรับในปีแรกบริษัทตั้งเป้าวิลเลี่ยม ลอว์สัน มีส่วนแบ่ง 5% โดยยอดขายตั้งแต่ในช่วงเดือนตุลาคม ที่ผ่านมานี้ มีอัตราการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้