Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน10 เมษายน 2550
ไทยออยล์ทุ่มงบลงทุน1.4หมื่นล.หนุนรายได้ปี 51 โตก้าวกระโดด             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ไทยออยล์, บมจ.
วิโรจน์ มาวิจักขณ์
Oil and gas




ไทยออยล์ ยอมรับรายได้ปี 50 นี้ลดลงจากปีก่อน เหตุต้องปิดซ่อมโรงกลั่น 2 เดือน ทำให้กำลังการกลั่นลดลงกว่า 1 แสนบาร์เรลต่อวัน พร้อมทุ่มงบลงทุน 1.4 หมื่นล้านบาท ขยายกำลังการผลิต เพื่อหนุนรายได้ปี 51 โตอย่างก้าวกระโดด ขณะที่ผู้ถือหุ้นไฟเขียวกู้เงินกว่า 1.7 หมื่นล้าน รองรับขยายงานในอนาคต

นายวิโรจน์ มาวิจักขณ์ กรรมการอำนวยการ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP กล่าวว่า ในปี 2550 นี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2.79 แสนล้านบาท เนื่องจากบริษัทต้องปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นและโรงงานปิโตรเคมี ประมาณ 2 เดือน ในช่วงตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2550 ทำให้กำลังการกลั่นลดลงประมาณ 1 แสนบาร์เรล/วัน

ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกบริษัทคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน เพราะค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนที่ค่าการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 7.69 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แม้ว่าค่าการกลั่นเฉลี่ยทั้งปี 50 นี้ประเมินว่าจะอยู่ในช่วง 4-6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

สำหรับงบลงทุนในปี 50 บริษัทคาดว่าจะใช้เงินราว 400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 14,000 ล้านบาท (คำนวณอัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐต่อ 35 บาท) เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันอีก 5 หมื่นบาร์เรล/วัน ซึ่งจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/50 รวมทั้งจะขยายกำลังการผลิตปิโตรเคมี เพิ่มเป็น 9 แสนตัน/ปี ซึ่งจะส่งผลให้รายได้และกำไรสุทธิในปี 51 เติบโตอย่างก้าวกระโดด

ส่วนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2550 วานนี้ (10 เม.ย.) ผู้ถือหุ้นได้อนุมัติวงเงินกู้จำนวน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 17,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขออนุมัติล่วงหน้าสำหรับรองรับโครงการในอนาคต โดยบริษัทยังไม่มีกำหนดการออกหุ้นกู้ในปีนี้ แต่ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับแนวโน้มดอกเบี้ยด้วย รวมถึงเปรียบเทียบกันต้นทุนเงินกู้ในปัจจุบัน หากพบว่าต้นทุนต่ำกว่าบริษัทอาจตัดสินใจออกหุ้นกู้ เพื่อนำมาชำระเงินกู้ที่ภาระดอกเบี้ยสูงกว่า

สำหรับการเข้าประมูลโรงไฟฟ้า IPP นั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า บริษัทมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเข้าประมูลโรงไฟฟ้าขนาด 700 เมกะวัตต์ ซึ่งจะใช้เงินลงทุน 350 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยบริษัทมีความได้เปรียบ เพราะมีพื้นที่ในการจัดตั้งโรงไฟฟ้าและมีท่อส่งก๊าซเป็นของตัวเอง ส่วนการเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้า SPP หรือไม่นั้น บริษัทจะขอดูรายละเอียดของภาครัฐก่อน จึงจะตัดสินใจ

"การลงทุนโรงไฟฟ้าจะทำให้บริษัทมีการกระจายรายได้ และมีรายได้ที่แน่นอนจากสัญญาร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) 25 ปี ทำให้ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าการกลั่นและหากธุรกิจการกลั่นอยู่ในช่วงขาลง รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าจะเข้ามาช่วยทดแทน"   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us