|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กฟผ.ผนึกกลุ่มคันไซ ญี่ปุ่น-สวนอุตสาหกรรมโรจนะร่วมทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำเงี้ยบ1 ที่สปป.ลาว ขนาดกำลังการผลิต 261 เมกะวัตต์ มั่นใจสรุปผลศึกษาได้ภายในสิ้นปีนี้ ก่อนลุยก่อสร้างและจ่ายไฟฟ้าเข้าไทยในปี 2557 "จิระพงษ์"บิ๊กสวนอุตฯโรจนะ เล็งจับมือพันธมิตรเข้าร่วมประมูลไอพีพีรอบใหม่ เล็งสร้างโรงไฟฟ้าใช้ก๊าซฯขนาด 700-1,400 เมกะวัตต์ในพื้นที่นิคมฯตัวเอง
วานนี้ (9 เม.ย.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-เขื่อนน้ำเงี้ยบ 1 ในสปป.ลาว ขนาดกำลังการผลิต 261 เมกะวัตต์ในระหว่างกฟผ. กับThe Kansai Electric Power Co.,Inc. และบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) โดยมีนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน
โดยการศึกษาโครงการดังกล่าว เริ่มจากกลุ่มคันไซฯประเทศญี่ปุ่นได้รับใบอนุญาตในศึกษาและสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ -น้ำเงี้ยบ1 จากรัฐบาลลาว จึงได้มีการชักชวนกฟผ.และสวนอุตสาหกรรมโรจนะเข้าร่วมทุน โดยมีสัดส่วนผู้ร่วมทุนประกอบไปด้วยกลุ่มคันไซ 40 % สปป.ลาว 20% กฟผ. 25% และสวนอุตสาหกรรมโรจนะ 15%
นายไกรสีห์ กรรณสูต ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนน้ำเงี้ยบ 1 เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยโครงการนี้จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 261 เมกะวัตต์ มูลค่ารวม 470 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะใช้จากการกู้ยืมประมาณ 70% และจากผู้ร่วมลงทุนประมาณ 30 %
ทั้งนี้เงินลงทุนในส่วนของ กฟผ. เป็นเงินประมาณ 35.53 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1,350 ล้านบาท โดยกฟผ. จะดำเนินการสำรวจ ศึกษาออกแบบ ควบคุมระบบส่งไฟฟ้า และงานศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม บริษัท Kansai จะดำเนินการด้านสำรวจ ศึกษา ออกแบบ ควบคุมเขื่อนและโรงไฟฟ้า คาดว่าเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2551 และสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนมกราคม 2557
นายจิระพงษ์ วินิชบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้คาดว่าจะสรุปผลได้ปลายปี 2550 หลังจากนั้นจะดำเนินการก่อสร้าง และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเพื่อป้อนขายให้กฟผ.ในปี 2557 โดยแหล่เงินทุนจะมาจากการกู้เงินจากธนาคารเพื่อความร่วมมือแห่งประเทศญี่ปุ่น(เจบิก) ในสัดส่วนหนี้สินต่อทุน 3:1 เท่า ซึ่งบริษัทฯจะใช้เงินลงทุนในโครงการนี้ประมาณ 700-800 ล้านบาท
สาเหตุที่เข้าไปร่วมทุนในโครงการดังกล่าว เนื่องจากบริษัทฯได้มีการร่วมทุนกับกลุ่มคันไซฯตั้งบริษัท โรจนะพาวเวอร์ ที่ทำธุรกิจไฟฟ้าป้อนในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะอยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มคันไซเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้า รวมทั้งเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีมีผู้ร่วมทุนอย่างรัฐบาลลาว และกฟผ. ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้จะเข้ามาจำหน่ายในไทย
"การตัดสินใจเข้าร่วมทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ(น้ำเงี้ยบ)ครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี มีการร่วมทุนกันระหว่างกฟผ. รัฐบาลลาว และกลุ่มคันไซ ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้จะส่งเข้ามาจำหน่ายให้กฟผ.ทำให้โครงการมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น "
นอกจากนี้ บริษัทฯยังสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าไฟฟ้าภาคเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี)ครั้งนี้ด้วย แต่ต้องรอนโยบายรัฐ และเงื่อนไขต่างๆในหนังสือชี้ชวนก่อน ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจะเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศประมาณ 3-4 ราย โดยสนใจจะสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ขนาดกำลังการผลิต 700-1,400 เมกะวัตต์ ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะที่อยุธยา หรือระยอง
สำหรับสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการไอพีพีนั้น บริษัทฯยังไม่ได้กำหนดชัดเจนขึ้นอยู่กับขนาดของโรงไฟฟ้าที่จะเข้าร่วมประมูล หากประมูลโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ สัดส่วนการถือหุ้นจะน้อยลง ซึ่งยืนยันว่าสถานที่สร้างโรงไฟฟ้าจะอยู่ในนิคมฯซึ่งมีความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภคอยู่แล้ว
|
|
|
|
|