อาณาจักรที่มองไม่เห็นของอากาศธาตุแบบจับต้องไม่ได้ แต่เป็นความแข็งแกร่งดุจหินผาแบบที่ บริษัท เอ-ไทม์ มีเดีย ได้สร้าง Green Wave 106.5 FM ด้วยคอนเซ็ปต์ "คลื่นสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อม" ถือเป็นกรณีศึกษาของรายการวิทยุที่เป็น cash cow ที่ทำรายได้สูงสุด 40% ของรายได้รวมทั้ง 5 คลื่นของเอ-ไทม์

กว่าที่ Green Wave จะแข็งแรงเฉกเช่นทุกวันนี้ มันได้ผ่านความล้มเหลวมาบ้างแล้วในระยะ 2-3 ปีแรก ตั้งแต่รุ่นบุกเบิกที่มีสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา หรือ "พี่ฉอด" ตะลุยคลุกฝุ่น นำทางรุ่นน้องให้มีใจรักบากบั่นคิดค้นผลงานได้สำเร็จด้วยความชัดเจนในเป้าหมายเหมือนยิงธนูเข้าเป้า ด้วยคอนเซ็ปต์ format station เจาะใจกลุ่มผู้ฟังวัยทำงาน ด้วยเพลง easy listening ถึง 90% โดยแทรกเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมกับสไตล์การพูดคุยของดีเจที่นุ่มนวลน่าเชื่อถือ ดีเจถือเป็นตัวแทนของคลื่น แม้คนฟังเล่นเกมกรีนทริป ช่วงนี้ไม่ได้ ก็สามารถเล่นในช่วงหน้าได้ ทำให้ไม่ติดดีเจ

"Green Wave เกิดขึ้นในช่วงที่เรื่องสิ่งแวดล้อมบูม แต่กว่าจะขึ้นมาขายได้ต้องใช้เวลาถึง 2-3 ปี ลองผิดลองถูกจนกระทั่งแข็งแรง" สายทิพย์ย้อนอดีตให้ฟังตั้งแต่เริ่มที่คลื่น 99.5 มาเป็น 104.5 และล่าสุดที่สถานีวิทยุ หนึ่ง ปณ.106.5 FM

ปัจจุบันภายใต้การบริหารดูแลกิจการ Green Wave ของเก็จชญา จันทสดิษฐ์ โปรดิวเซอร์ "แต๋ม" ลูกหม้อเก่าเอ-ไทม์ที่เติบโตมาจากงาน creative เธอเล่าว่า จุดเปลี่ยนแปลงสำคัญ ของกรีนเวฟ ที่ปรับคอนเซ็ปต์รายการจากสิ่งแวดล้อมที่เข้มข้นสู่การตีความที่กว้างไกลและทันสมัย ในหัวข้อที่หลากหลายมากขึ้น เช่น รักสุขภาพด้วยโยคะ บำบัดแบบธรรมชาติ อบรม SME

"การตีโจทย์แตก ทำให้ประสบความสำเร็จ ลูกค้าเชื่อว่า สิ่งที่เราทำตรงกับความต้องการของคนฟัง" เก็จชญากล่าวถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีไลฟ์สไตล์ที่อิงกับกรีนเวฟ เช่น รักสิ่งแวดล้อม ดูแลสุขภาพด้วยวิถีธรรมชาติ เป็นต้น

ความสัมพันธ์ระหว่าง "ลูกค้าผู้ลงโฆษณา" กับ "ผู้ฟัง" เริ่มถูกโยงให้กลายเป็น "เรตติ้ง" ซึ่ง Green Wave ใช้ข้อมูลจากฝ่ายวิจัยและพัฒนา (R&D) ของบริษัทเอ-ไทม์ มีเดีย สำรวจเรตติ้งคนฟังรายการวิทยุ, ดีเจ, ความต้องการของลูกค้าลงโฆษณา, การมีส่วนร่วมในกิจกรรมและเกม เช่น กิจกรรม Green Trips ที่จะพาผู้ฟังออกไปไกลถึงขั้วโลกเหนือเพื่อดูผลจาก green house effect ที่อลาสกาในปีนี้ จากอดีตที่เคยทำกิจกรรม green recycle day ที่มีการนำวัสดุบนกระป๋องน้ำอัดลมมาทำขาเทียม คนพิการ green society rally แรลลี่การกุศลเพื่อเด็กด้อยโอกาส ในชนบท รวมถึงการจัด green concert เพื่อนำรายได้มอบให้ แก่มูลนิธิการกุศล ศิลปินค่ายแกรมมี่เป็นหลัก เช่น ธงไชย แมค อินไตย์ เสาวลักษณ์ ลีละบุตร ใหม่ เจริญปุระ หรือในทุกปีมี จัด The Divas Concert, กิจกรรมคืนพิเศษกับคนพิเศษ "Cover Night Special, Special Unplugged กับแอม+อุ๊", Charity Game ที่ผู้ฟังเล่นเกมได้เงินแล้วบริจาคมูลนิธิ ฯลฯ

นี่คือการทำ event marketing ในรูปกิจกรรมและการเล่นเกมที่ทำให้คนฟังติดตามรายการและโฆษณา โดยตัวกิจกรรม เองไม่ได้มีมูลค่าทางธุรกิจที่ให้กำไรมากนัก

"แต่ละปีเราต้องมี year plan วางแผนล่วงหน้าไว้ เพราะว่าลูกค้าอยากรู้ว่า ทั้งปีเราจะมีกิจกรรมอะไรบ้าง เราจะทำสัญญากัน โดยรวมเราจะมีสัญญาระยะยาวในสัดส่วนที่มาก กว่าสัญญาระยะสั้น นอกนั้นก็เป็นพวก loose spot 3 เดือน หรือ 6 เดือนบ้าง" Producer เก็จชญาเล่าให้ฟังถึงแผนการทำงานร่วมกับทีมงานที่ช่วยกันคิด ไม่หยุดนิ่งภายใต้ภาวะกดดันช่วงปลายปีที่ต้องมั่นใจว่าผลงานดีที่สุด

ด้วยอัตราค่าโฆษณาของ Green Wave โดยเฉลี่ยประมาณ loose spot ละ 2,600 บาท/30 วินาที ดีเจจะเปิดสปอตสินค้าออกอากาศไม่เกินชั่วโมงละ 12 นาที นอกจากนี้รายได้หลักของวิทยุยังมาจากการขายโฆษณาลักษณะ Master Package และแบบ Extra Package ที่ทำตามออร์เดอร์ของ ลูกค้า เช่นรูปแบบเล่นเกมที่เกี่ยวกับสินค้า เป็นต้น

หัวใจสำคัญของความสำเร็จของ Green Wave ก็คือ "คน" ทีมงานคนหนุ่มสาวที่เป็นกำลังหลัก ประกอบด้วย ดีเจ (Disc Jockey) 8 คน ซึ่งเรียงตามลำดับเวลาทำงานตั้งแต่ตีห้า เริ่มจากวัชราภรณ์ จิตต์อารีย์, ภูวนาท คุนผลิน (ดีเจ.อั๋น), เกศริน วิโรจน์ชูฉัตร (ดีเจ.เกศ), เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์ (ดีเจ เอก), นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล (ดีเจ.อ้อย), กิตประพัฒน์ หมื่นสุดตา, ฉันทนา พลาดิสัยสวัสดิ์ และวาธินี ศรีมงคล ที่รับผิดชอบคนละ 3 ชั่วโมง

นอกจากนี้ยังมีผู้ช่วยดีเจ ทำหน้าที่รับสายสกรีนสายหลังไมค์ 3 คน, ทีมงานครีเอทีฟ 12 คนทำหน้าที่ทำสารคดีคิดจัดกิจกรรม-ติดต่อศิลปิน และผู้ประกาศข่าวประจำ 1 คน นอก จากนี้ยังมีคนนอก freelance มาช่วยทำช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ รวมถึงกองหลังสำคัญอย่างทีมงานการตลาด พนักงานบัญชี และทราฟฟิกด้วย

ผู้ที่เป็นแฟนประจำ Green Wave ยากนักที่จะรู้สึกว่าเบื้องหลังไมค์นั้น Green Wave ต้องลงทุนทั้งสมองที่ดีที่สุด, เวลาที่เยี่ยมที่สุด และเงินมากที่สุดอยู่เบื้องหลังรายการวิทยุ กับผลประโยชน์มหาศาลปีละไม่ต่ำกว่าร้อยๆ ล้านบาทที่แทรกอยู่ในโฆษณาด้วย