Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์2 เมษายน 2550
กระเทาะแนวคิด“กลุ่มบิวท์ฯ” กินรวบตลาดรับสร้างบ้าน             
 


   
search resources

Real Estate
กอบชัย ซอโสตถิกุล




เจาะแนวคิดเซียนวงการรับสร้างบ้าน “กอบชัย ซอโสตถิกุล” ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จกลุ่ม“บิวท์ ทู บิวด์” ยึดหลัก“แตกแล้วโต” หวังกินรวบตลาดรับสร้างบ้านทุกเซกเมนท์ และครอบคลุมทั่วประเทศ

แม้ว่าตลาดรับสร้างบ้านจะอยู่ในภาวะซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่การทำตลาดของผู้ประกอบการกลับไม่ยอมหยุดนิ่งตามภาวะตลาด เพราะหากหยุดนิ่งจะยิ่งสร้างความได้เปรียบให้กับคู่แข่ง อีกทั้งยังมีโอกาสสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดและยอดขายให้กับคู่แข่งอีกด้วย

ทั้งนี้ นับตั้งแต่สภาพตลาดก้าวเข้าสู่ภาวะซบเซา และมีแนวโน้มว่าจะซบเซาไปอีกราวๆ 5 ปี ตามคำพยากรณ์ของสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด ที่คาดว่าตลาดรับสร้างบ้านจะซบเซายาว บริษัทรับสร้างบ้านเกือบทุกรายต่างก็เร่งปรับตัวกันครั้งใหญ่ ทั้งเร่งออกแบบบ้านใหม่ ทำบ้านหลังเล็กลง เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย ลดต้นทุน จัดโปรโมชั่น รวมถึงการเร่งขยายสาขา และชะลอการเปิดสาขาใหม่ออกไป

กลุ่มบริษัทซีคอน และบิวท์ ทู บิวด์ ผู้บุกเบิกธุรกิจรับสร้างบ้าน เห็นว่า ในช่วงที่คู่แข่งอ่อนแรง กลับเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้า โดยกอบชัย ซอโสตถิกุล หัวเรือใหญ่กลุ่มบริษัท ซีคอน และประธานกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ได้วางกรอบการดำเนินงานของกลุ่มไว้อย่างชัดเจน มีเป้าหมายให้กลุ่มมีสินค้าไว้บริการผู้บริโภคทุกเซกเมนท์ รวมถึงต้อให้บริการได้ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด

กลยุทธ์ของกอบชัยที่วางไว้ คือ จะกระจายความเสี่ยง สร้างชื่อเสียงและความสามารถให้เป็นที่รู้จักให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งได้แตกบริษัทรับสร้างบ้านออกไปถึง 4 บริษัท โดยแต่ละบริษัทจะมีจุดแข็งของตัวเอง และสามารถให้บริการกลุ่มเป้าหมายได้ตรงประเด็น ไม่ใช้บริษัทเดียวทำตลาดทุกสินค้าหรือทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะเป็นข้อดีในการทำตลาด เพราะแต่ละบริษัทจะมีความเชี่ยวชาญในการตลาดสินค้าที่ตัวเองโฟกัส

บริษัท ซีคอนเป็นบริษัทแรกที่ตระกูล ซอโสตถิกุล และกอบชัย ลงทุนเมื่อ 46 ปีก่อน และใช้บริษัท ซีคอนโฮมเป็นหัวหอกในการบุกตลาดรับสร้างบ้านมาหลายสิบปี จนชื่อเสียงของซีคอนเป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับในวงกว้าง และมียอดขายในปีก่อนถึง 610 ล้านบาท และเมื่อธุรกิจขยายเพิ่มขึ้นทำให้กอบชัย ต้องจัดทัพการดำเนินงานใหม่หมด ซึ่งเมื่อ 5 ปีก่อน ได้จัดตั้งบริษัทใหม่ชื่อบิวท์ ทู บิวด์ เน้นการรับสร้างบ้านราคา 4-20 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขยายตลาดสู่ตลาดระดับกลาง-บน จากเดิมที่ซีคอนจะรับสร้างบ้านราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2-4 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดระดับกลาง

เมื่อ 2 ปีก่อน กอบชัยยังตั้งบริษัทใหม่คือ บางกอกเฮ้าส์ บิวเดอร์ ที่เน้นกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง-ล่าง ราคาเฉลี่ยที่ 800,000-2 ล้านบาท ให้บริการเฉพาะในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ขณะที่ปีนี้ได้เปิดตัวบริษัท ไตรเฮ้าส์บิวเดอร์ เพื่อรับสร้างบ้านระดับเดียวกับบริษัท บางกอกฯ แต่จะให้บริการเฉพาะในต่างจังหวัดเท่านั้น โดยไตรเฮ้าส์บิวเดอร์ รับผิดชอบโดยทายาทคือ ไปรเทพ ซอโสตถิกุล ซึ่งมีประสบการณ์ทำงานระดับอินเตอร์มาแล้ว ส่วน 3 บริษัทแรกมอบหมายให้มืออาชีพที่คว่ำหวอดอยู่ในวงการรับสร้างบ้านมานานดูแล

แนวคิดเช่นนี้ อาจจะแตกต่างจากคู่แข่งที่มีเพียงบริษัทเดียวแล้วขยายการให้บริการในหลายเซกเมนท์ ซึ่งกอบชัยกลับมองว่า อาจจะเป็นจุดอ่อนในการทำตลาด เพราะไม่มีความเชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งเฉพาะ

ไปรเทพ กล่าวว่า บริษัท ไตรเฮ้าส์บิวเดอร์ จะเน้นการทำตลาดบ้านระดับล่าง-กลาง ราคาเฉลี่ยที่ 800,000-2 ล้านบาทขึ้นไป จะรับงานในต่างจังหวัดเท่านั้น เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงาน ซึ่งเปิดสาขาแรกที่ภูเก็ต เนื่องจากมองว่า ภูเก็ตเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง มีความต้องการสร้างบ้านเองจำนวนมาก แต่ยังไม่มีบริษัทรับสร้างบ้านให้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บ้านราคา 800,000-2 ล้านบาทขึ้นไป บริษัทฯเห็นช่องว่างทางการตลาดจึงเลือกเปิดสาขาแรกที่ภูเก็ตก่อนที่จะขยายไปยังจังหวัดอื่น ตามหัวเมืองใหญ่ 4-5 แห่ง ภายในปลายปีนี้ เช่น ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ และสมุย เป็นต้น ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ ซึ่งจะสรุปผลและเปิดสาขาที่ 2 ได้ภายในกลางปีนี้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us