"ไอเอ็นจีประกันชีวิต" วิเคราะห์แนวโน้มประกันชีวิตคงขยายตัวไม่ถึง 6% โดยส่วนใหญ่ผู้คนจะหันไปทำประกันสุขภาพ และออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณอายุมากขึ้น เชื่อมีเม็ดเงินจำนวนมากที่พร้อมจะไหลไปในจุดที่ให้ดอกผลและผลตอบแทนดี

ในปีที่แล้ว ไอเอ็นจี กรุ๊ป มีผลประกอบการที่ค่อนข้างสวยหรูคือ มีกำไรสุทธิถึง 7.7 พันล้านยูโร ในขณะที่ไอเอ็นจีประกันชีวิต ก็มีการไหลเข้ามาของเบี้ยประกันภัยสามัญรับรวม 3,537 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยรับปีแรก1,342 ล้านบาท เบี้ยปีต่ออายุ 2,195 ล้านบาท อัตราความยั่งยืนของกรมธรรม์ 84% โดยมีจำนวนตัวแทน 7,100 คน

ทั้งหมดจึงอธิบายได้ถึงการเติบโตของไอเอ็นจี กรุ๊ป และไอเอ็นจีประกันชีวิต ธุรกิจประกันชีวิตเลือดยุโรปที่ค่อนข้างจะเอาจริงเอาจังกับตลาดในแถบเอเชียมากขึ้น โดยปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายขยายตัวเบี้ยรับรวม 4,758 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยรับปีแรก 1,799 ล้านบาท เบี้ยปีต่ออายุ 2,959 ล้านบาท จำนวนตัวแทน 8,000 คน

จิม บราวน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไอเอ็นจีประกันชีวิต บอกว่า ถึงแม้ปี 2549 จะเป็นปีที่ยากลำบากของอุตสาหกรรมเพราะต้องประสบกับ การเดินขบวนมาตั้งแต่ต้นปี มีเหตุการณ์น้ำท่วม มีรัฐประหาร จนบริษัทแม่ต่างประเทศยังแสดงอาการเป็นห่วง แต่ท่ามกลางปัญหาก็ยังต้องสร้างความแตกต่างในตลาดต่อไป

การขยายตัวของไอเอ็นจีประกันชีวิต ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการโฟกัสบุคลากรหรือ ตัวแทน มากกว่าจะใช้ช่องทางของแบงก์ซึ่งทุนต่างประเทศมักจะใช้เป็นเครื่องมือ "นำร่อง"เพื่อสร้างวอลุ่มในช่วงแรกของการเปิดตัวในตลาด แต่พอถึงจุดหนึ่งช่องทางแบงก์
ก็ค่อนข้างอิ่มตัว

สมโภชน์ เกียรติไกรวัล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่และ CAOไอเอ็นจีประกันชีวิต บอกว่า ในต่างจังหวัดธุรกิจประกันชีวิตมักจะวัดว่าใครแพ้ ชนะที่ตัวแบรนด์และบุคลากร ที่เรียกว่าเป็นจุดขาย นอกจากนั้นผู้คนส่วนใหญ่ก็เริ่มหันมาให้ความสนใจสินค้าประเภทประกันสุขภาพและการออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณมากขึ้น

" เงินมีเป็นจำนวนมาก ดังนั้นที่ไหนที่ให้ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนดี ก็จะไหลไปที่นั่น"

สำหรับไอเอ็นจีฯ การมีจุดอ่อนที่ไม่มีสาขาแบงก์เป็นเครือข่ายพันธมิตรเหมือนรายอื่น ทำให้ต้องคอยหลบเลี่ยงการแข่งขันแย่งลูกค้าแบงก์ ด้วยการโฟกัสไปที่สินค้าประเภทบำนาญ เน้นวางแผนการออมตามแนวโน้มอัตราประชากรผู้สูงวัยที่มากขึ้นทั่วโลก ขณะที่เจ้าอื่นยังเล่นสงครามชิงเงินออมจากแบงก์ด้วยสินค้าประเภทออมทรัพย์ มีผลตอบแทนสูงไม่หยุดหย่อน

สมโภชน์ บอกว่า ธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ขยายตัวมากในช่วงแรก แต่ก็เริ่มอิ่มตัวแล้ว ขณะที่การรีครูตตัวแทนในประเทศก็ยังมีอยู่สูงปัจจุบันมีตัวแทนมากระดับเรือนแสนคน ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่มักจะรีครูตเข้ามามากๆแต่กลับไม่รักษาหรือไม่มีการพัฒนา ทำให้ตัวแทนไม่มีประสิทธิภาพ ผลก็คือ มีปัญหาบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตามเชื่อว่า อุตสาหกรรมประกันชีวิตปีนี้จะมีอัตราการขยายตัวไม่ถึง 6%