Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์2 เมษายน 2550
จับตาหุ้นเด่นกลุ่มไอทีแรงดีไม่มีตก สวนทางภาวะเศรษฐกิจ             
 


   
www resources

โฮมเพจ กลุ่มบริษัทสามารถ
โฮมเพจ บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

   
search resources

สามารถคอร์ปอเรชั่น, บมจ.
Stock Exchange
Social
ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น, บมจ.




ผลงานดีต่อเนื่อง เติบโตโดดเด่นสวนทางภาวะเศรษฐกิจขาลง FORTH - SAMART 2 หุ้นดาวเด่นกลุ่มไอที งานในมือแน่น มีโครงการสร้างรายได้ใหม่เพียบ ค่าเงินบาทแข็งหนุนลดต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบ

แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมในปัจจุบันดูเหมือนจะไม่สดใสนัก ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงติดต่อกันทำให้คาดว่ารายได้ของหลายบริษัทจะไม่มีการเติบโตมากนักในปีนี้ ส่งผลให้ราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาวิ่งกันอยู่ในกรอบแคบๆไปได้ไม่ไกล แต่ก็ใช่ว่าหุ้นทุกตัวจะซึมกะทือกันไปเสียหมดเพราะท่ามกลางวิกฤติก็ยังมีโอกาสได้ อย่างในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารก็มีหุ้นอย่างน้อย 2 ตัวที่น่าจับตามองถึงการเจริญเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจในปีนี้คือ FORTH และ SAMART

สำหรับ บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) ถือได้ว่าเป็นบริษัทที่มีกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นสูงสุดของกลุ่มในปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 213.48 ล้านบาท หรือ 0.51 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 537.50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 31.68 ล้านบาท หรือ 0.08 บาทต่อหุ้น

สำหรับกำไรต่อหุ้นที่เพิ่มขึ้นแรง เป็นผลมาจากรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 2,480.61ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่1,678.79 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการขาย,การบริการ และรายได้จากการรับเหมาโครงการที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก

ขณะที่ในปีนี้ FORTH ก็ตั้งเป้าว่ากลุ่มงานรับจ้างผลิตจะมีการเติบโตจากปี 2549 ในอัตราที่สูงถึง 300% เนื่องจากบริษัทได้รับงานจาก Western Digital (WD) ในขณะที่สินค้าในกลุ่มตู้ชุมสายอินเตอร์เน็ทความเร็วสูง (IP- DSLAM) คาดว่าเติบโตประมาณ 40% จากยอดขายของ DSLAM และ MSAN ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ส่วนธุรกิจไฟจราจร น่าจะมีการเติบโตต่อเนื่องประมาณ 10% เช่นเดียวกับการขายชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้ต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าปรับตัวลดลง ซึ่งจะช่วยหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้น

นอกจากจะรับรู้รายได้จากงานที่มีอยู่ในมือแล้ว FORTH ยังมีการเซ็นสัญญารับงานใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยปีนี้จะมี 3 งานใหญ่ที่จะเข้าร่วมประมูล คือ งานแผนที่ภูมิศาสตร์GIS ของการไฟฟ้าภูมิภาค และงานประมูลมิเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ของการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยมีการตั้งเป้าผลการดำเนินงานปี 2550 ว่าจะมีอัตราการเติบโตขึ้นอีกเท่าตัว โดยมีรายได้ทะลุ 5 พันล้านบาท

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์(บล.) นครหลวงไทย ประเมินว่าปี 2550 จะยังเป็นปีแห่งการเติบโตของ FORTH อีกปีหนึ่ง ด้วยสาเหตุหลัก 2 ประการคือ การขยายตัวของธุรกิจโทรคมนาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Internet Protocol (IP) ทำให้เกิดความต้องการอุปกรณ์ด้าน IP ซึ่งเป็นฐานธุรกิจของ FORTH โดยจะมีข้อได้เปรียบด้านการวิจัยและพัฒนาทำให้สินค้ามีมาร์จิ้นสูงกว่า 35% และ จากคำสั่งซื้อ PCBA มูลค่า 2.0 พันล้านบาทของ WD เริ่มผลิตในเดือนเม.ย.2550 จะทำให้รายได้และกำไรสุทธิในปี 2550 จะขยายตัวอย่างก้าวกระโดด จึงแนะนำ "ซื้อ" โดยประเมินมูลค่าเหมาะสม ณ สิ้นปี 2550 ไว้ที่ 11.06 บาท อีกทั้งอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยที่ 5% ยังสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอีกด้วย โดยงวดปี 2549 ประกาศจ่าย 0.20 บาท/หุ้น XD วันที่ 5 เม.ย. จ่ายวันที่ 24 เม.ย.

ส่วน บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART)มีผลประกอบการของปีที่ผ่านมากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1,990.29 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปี 2548 อยู่ที่ 583.70 ล้านบาทหรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 237.70% มาที่ 2.06 บาท จากงวดเดียวกันปี 2548 อยู่ที่0.61 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 31,001.65 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปีก่อนหน้าที่18,858.67 ล้านบาท

โดยสาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ธุรกิจการผลิตและจำหน่ายเสาอากาศวิทยุโทรทัศน์และจานรับสัญญาณดาวเทียม,ธุรกิจการควบคุมจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชา,ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยและระบบสื่อสารด้านภาพและเสียง,ธุรกิจบริการอินเตอร์เน็ต

ทั้งนี้หุ้นในกลุ่ม SAMART มีผลกำไรโดดเด่นทั้งกลุ่ม ทั้ง บมจ. สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (SIM) และ บมจ.สามารถเทเลคอม จำกัด (SAMTEL) สามารถทำกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นติดในกลุ่มหุ้นที่กำไรต่อหุ้นเพิ่มโดยทั้ง 2 บริษัท อยู่ในลำดับที่ 8 และ11 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการบริหารของกลุ่มนี้มีประสิทธิภาพมาก

สำหรับแผนงานในปีนี้ SAMART ได้เตรียมความพร้อมในหลายด้านเพื่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยเน้นให้เป็นปีแห่งการเพิ่มมูลค่าหรือความคุ้มค่าในการใช้สินค้าและบริการของกลุ่มสามารถฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ทั้งสิ้น 35,000 ล้านบาทคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นประมาณ 21 %

ศิริลักษณ์ ปโกฏิประภา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ ประเมินว่า กลุ่ม SAMART ถือว่าน่าสนใจหากเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มสื่อสาร เนื่องจากหุ้นนี้โดยรวมยังคงได้รับผลกระทบจากความไม่ชัดเจนของกฎระเบียบ การแก้ไขสัญญาสัมปทาน รวมทั้งสถานการณ์ต่างๆที่ไม่ชัดเจน ส่งผลให้ผลประกอบการน่าจะลดลง แต่กลุ่ม SAMART กลับไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการดังกล่าว และยังสามารถเติบโตต่อไปได้ โดยเฉพาะ SIM ที่ยอดขายโทรศัพท์มือถือคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นคงแนะนำ "ซื้อ" หุ้น SAMART ราคาเป้าหมาย ปี 2550 ที่ 11.00 บาท

ด้านนักวิเคราะห์เทคนิค บล. กรุงศรีอยุธยา มองว่า ระยะสั้นหุ้นในกลุ่ม SAMART มีสัญญาณการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ดังนั้นคงแนะนำ "ซื้ออ่อนตัว" ตามแนวรับในหุ้น SAMART โดยให้แนวรับ 8.90 บาท และแนวต้านที่ 9.10 บาท

แม้ว่าที่ผ่านมาธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต้องเผชิญกับปัจจัยลบหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขายหุ้นชินฯ,สงครามค่าโทรศัพท์มือถือ ,ปัญหาเรื่องค่าสัมปทาน รวมถึงเรื่องพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว แต่ปัจจัยลบดังกล่าวไม่ได้ทำให้ผลประกอบการและอัตราการเติบโตกำไรของหุ้นในกลุ่มนี้เสื่อมความน่าสนใจไปทั้งหมด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us