Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 เมษายน 2550
เงินเฟ้อมี.ค.0.7%พุ่งสูงสุดรอบ4เดือน             
 


   
search resources

นทีทิพย์ ทองเขาอ่อน
Economics




เงินเฟ้อมี.ค.เทียบเดือนต่อเดือนเพิ่ม 0.7% ดีดกลับมาช่วงขาขึ้น หลังชะลอตัวลงต่อเนื่องกัน 4 เดือน เหตุราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นต่อเนื่องตลอดเดือน โดยเบนซิน 5 ครั้ง ดีเซล 3 ครั้ง รวมทั้งผักและผลไม้แพงขึ้น ส่วนเงินเฟ้อไตรมาสแรกขยับ 2.4% “พาณิชย์”มั่นใจทั้งปียังคุมได้ 1.5-2.5% แม้ทิศทางราคาน้ำมันจะขยับตัวเพิ่มขึ้น

นางนทีทิพย์ ทองเขาอ่อน ผู้อำนวยการสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) เดือนมี.ค.2550 เมื่อเทียบกับเดือนก.พ.ที่ผ่านมา สูงขึ้น 0.7% เทียบกับเดือนมี.ค.2549 สูงขึ้น 2% และเมื่อเทียบช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.) กับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วสูงขึ้น 2.4%

อัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค.ที่สูงขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับเดือนก.พ. นั้น ถือว่าสูงขึ้นเป็นเดือนแรกหลังจากที่เงินเฟ้อลดลงอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 4 เดือน นับจากเดือนพ.ย.2549 เนื่องจากดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่ม และหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นในอัตราที่เท่ากัน คือ 0.7% ซึ่งมีสินค้าสำคัญที่สูงขึ้น ได้แก่ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ผักและผลไม้ เนื้อสุกร และไก่สด เป็นต้น

“เดือนมี.ค.อัตราเงินเฟ้อเริ่มกลับมาสูงขึ้น เพราะช่วงนี้อากาศเริ่มร้อน ผักและผลไม้ เช่น มะนาว ผักกาดขาว ต้นหอม และส้มเขียวหวาน ผลผลิตลดลง เนื้อสุกรก็มีราคาสูงขึ้น จากการตัดวงจรของสุกรมีชีวิตไปทำหมูหัน ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น 5.2% โดยเบนซินขึ้น 5 ครั้ง ดีเซล 3 ครั้ง และราคายางรถยนต์ และรถยนต์นั่งก็ปรับราคาสูงขึ้น”นางนทีทิพย์กล่าว

นางนทีทิพย์กล่าวว่า เงินเฟ้อในช่วงไตรมาสแรกที่สูงขึ้น 2.4% มีสาเหตุมาจากการสูงขึ้นของดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่ม 5.1% และหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น 0.9% ซึ่งกระทรวงฯ ยังคงยืนยันว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ในระดับ 1.5-2.5% เช่นเดิม แม้ว่าขณะนี้ราคาน้ำมันจะเริ่มปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม

“เดิมทีตั้งเป้าหมายเงินเฟ้อทั้งปีที่ 1.5-2.5% บนสมมติฐานน้ำมันดิบดูไบ 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เฉลี่ย 3 เดือนอยู่ที่ 55.56 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จึงยังไม่เกินที่คาดไว้ แต่ก็น่าเป็นห่วง เพราะล่าสุด (30 มี.ค.) ราคาน้ำมันดิบดูไบขยับเพิ่มขึ้น 63 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลแล้ว ซึ่งต้องจับตาดูต่อไป แต่ก็ยังดีที่อัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่าขึ้น ทำให้น้ำมันนำเข้าราคาไม่แพงมากนัก และยังมีผลในเรื่องต้นทุนและวัตถุดิบที่ถูกลง”

ส่วนแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในไตรมาส 2 และ 3 คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับที่ไม่สูงมากนัก เพราะฐานในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วสูงมาก โดยเฉลี่ยสูงกว่า 5% แต่ก็ต้องจับตาในเรื่องราคาน้ำมัน หากปรับเพิ่มขึ้นมาก ก็จะมีผลต่อราคาสินค้า และค่าโดยสาร รวมไปถึงการปรับเพิ่มขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที)

สำหรับเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักรายการสินค้ากลุ่มอาหารสดและสินค้ากลุ่มพลังงานออกไป เมื่อเทียบกับเดือนก.พ.2550 สูงขึ้น 0.1% เทียบกับเดือนมี.ค.2549 สูงขึ้น 1.3% และเมื่อเทียบ 3 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.) กับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วสูงขึ้น 1.4%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us