Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
บทความจาก เจ้าพ่อ. หนังสือเล่มโครงการ Manager Classic กรกฎาคม 2545
ชม้อย ทิพย์โส วีรสตรีหรือซาตานกันแน่!             
 


   
search resources

ชม้อย ทิพย์โส




เรื่องของ ชม้อย ทิพย์โส มิใช่เรื่องของการฉ้อโกงหรือผิดพระราชกำหนดการ เล่นแชร์ธรรมดาสามัญ หากมีผลสะท้อนที่ลึกลงไปให้เห็นถึงความฟอนเฟะของสังคมที่กำลังขาดคุณธรรมอย่างมากๆ ซึ่งอาจจะเป็นลางบอกเหตุบางอย่างให้สังคมไทย ได้รับทราบกันว่า มันจวนจะถึงเวลาของมันแล้วที่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ของประวัติศาสตร์ไทยกำลังจะเริ่มขึ้น

ในการเขียนเรื่องชม้อยครั้งนี้ "ผู้จัดการ " ไม่ต้องการจะนำเอาเหตุการณ์ความเป็นมาแต่ละเดือนมาลง เพราะเราได้ลำดับเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับ "ชม้อย " ไว้ดีอยู่แล้ว ประกอบกับมีหนังสือหลายเล่มในท้องตลาดก็ได้ทำหน้าที่อยู่อย่างไม่บกพร่อง

แต่สิ่งที่ "ผู้จัดการ " ต้องการจะรายงานเรื่องชม้อยครั้งนี้จะเป็นการวิสัชนากับปุจฉาหลายต่อหลายวันที่เกี่ยวกับเรื่องราวของชม้อย

ชม้อยเริ่มมาอย่างไร?

การเริ่มของชม้อยจากการตรวจสอบแหล่งข่าวทั้งใกล้ชิดและไม่ใกล้ชิดตลอดจนเจ้าหน้าที่บ้านเมืองและบรรดาเพื่อนพนักงานการปิโตรเลียมที่สนิท สนมกับชม้อยมากๆ ทำให้จับความได้ว่า ชม้อยนั้นชอบเล่นแชร์มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

"ชม้อยแกเล่นแชร์ทีสิบกว่ามือ แต่ละมือนั้นแกยังมีอยู่ 3-4 มือ ฉะนั้นวันเลี้ยงแชร์หรือเปียแชร์นั้นชม้อยจะมีโต๊ะยาวเหยียดมีคนนั่งรอกันหลายๆ โต๊ะทีเดียว " เพื่อนสนิทของชม้อยพูดให้ฟัง

ความซื่อสัตย์ของชม้อยนั้นเป็นที่เลื่องลือกันว่าเล่นกับชม้อยแล้วไม่มีเบี้ยว การจ่ายเงินตรงเวลามาก

"บางทีแกไม่สบายมากแต่ถ้าใครเปียได้แกก็จะกัดฟันมาส่งเงินให้โดยไม่ขาดเลย " แหล่งข่าวคนเดิมพูดเพิ่มเติม

จากการวิเคราะห์ของ "ผู้จัดการ " ได้ความว่าจำนวนวงแชร์ที่ชม้อยเล่นนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้ง

"ชม้อยเขาต้องตั้งแชร์มือใหม่ขึ้นมา เพื่อหมุนเงินมาจ่ายมือเก่า เพราะในช่วงนั้นเขามีเรื่องใช้เงินมาก " คนที่เคยเล่นแชร์กับชม้อยทุกมือ ตั้งแต่แรกเริ่มพูดให้ฟัง

จากจุดนี้เองทำให้ชม้อยทำธุรกิจในเรื่องการจัดคิวเงินขึ้นมาโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่ได้ตั้งใจ!

เพียงแต่ว่าการจัดคิวเงินนั้นต้องรอให้มีการเปียแข่งขันกันในเรื่องดอกเบี้ย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าวุ่นวายและเวียนหัวสำหรับชม้อยมาก

"ตรงนี้แหละที่ชม้อยเคยบ่นว่าเป็นเท้าแชร์ทุกมือต้องมาเสียเวลาประชุมเปียแชร์ทุกเดือน แล้วแต่ละคนก็เปียกันไปบางทีดอกที่เสียก็ไม่มากนั้น ชม้อยเลยมีความคิดว่าจากการเชื่อถือของลูกแชร์ซึ่งเวลานั้นมีเป็นร้อยคน ถ้าเขาจัดแบ่งผลประโยชน์ให้ ประจำสำหรับลูกแชร์ทุกคนก็จะสะดวกกว่า " แหล่งข่าวคนเดิมพูด

และนี่เองก็เป็นการเริ่มของแชร์แม่ชม้อยที่ลือลั่น

"ในตอนแรกนั้นก็เล่นกันในหมู่คนรู้จักกันมีกันไม่กี่คนแค่ร้อยกว่าคนแต่ข่าวของ ความเชื่อถือในตัวแม่ชม้อยนั้นมันขยายกันไปมากจนคนนอกวงการนั้นได้ข่าวและพยายามจะก้าวเข้ามาขอร่วมด้วย " แหล่งข่าวกล่าวต่อ

ก็คงจะเป็นตรงนี้เองที่ระบบหัวหน้าสายได้เริ่มขึ้นโดยที่ตัวชม้อยเองก็ไม่ทราบ ว่าระบบจัดคิวเงินของเธอมันกำลังเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว

"อาจจะเป็นเพราะว่าในช่วงหนึ่งชม้อยถูกย้ายไปประจำที่โคราช ซึ่งระยะทางเช่นนี้เธอเองก็ต้องมีระบบหัวหน้าสายเข้าปฏิบัติการรับเงินรับทอง และทำหน้าที่จ่ายดอกเบี้ยแทนเธอ " แหล่งข่าวอีกคนหนึ่งที่เคยอยู่องค์การเชื้อเพลิงกับชม้อยมาตั้งแต่แรก เริ่มพูดเพิ่มเติม

ฉะนั้นเราจะเห็นได้ชัดว่าธุรกิจของชม้อยนั้นเป็นธุรกิจที่เจริญเติบโตขึ้นมาจาก ไหวพริบปฏิภาณและเหตุการณ์ที่เอื้ออำนวยให้มาตั้งแต่ต้น
ชม้อยเอาเงินไปทำอะไรบ้าง?

มีอยู่หลายทฤษฎีตั้งแต่ค้าอาวุธ ค้าของเถื่อน ไปจนถึงเรื่องของการเอาไปหมุน แชร์รายวันซึ่งได้ดอกดี

แต่ที่แน่ๆ นั้นในช่วงต้นมีการค้าขายน้ำมันจริงจากการเอาโควตาน้ำมันของบรรดานายทหารที่ใช้เหลือไปปล่อยตามปั๊มต่างๆ ในฐานะที่ชม้อยเองนั้นก็ทำงานอยู่องค์การเชื้อเพลิง ในช่วงต้นก็ทำให้อยู่ในฐานะของคนกลางได้สบาย แต่กำไรจริงๆ ก็ไม่ได้มีมากมายอะไรที่จะทำให้คนที่ทำธุรกิจแบบนี้จะมีสัดส่วนกำไรอย่างมหาศาล อีกประการหนึ่งนั้นการทำงานของชม้อยในด้านน้ำมันก็จะทำได้เพียงปริมาณหนึ่งเท่านั้นก็จะเต็มที่ โดยลักษณะของจำนวนน้ำมันที่เหลือจากโควตา

"จริงๆ แล้วคุณชม้อยเขาหมุนแชร์หมุนไปหมุนมา พอเขาเริ่มตกลงกับลูกแชร์ว่าเขาจ่ายผลประโยชน์ให้เป็นรายเดือนจะดีกว่าแล้วใครจะถอนเงินออกไปทันทีก็ถอนได้ ทำให้หลายคนเชื่อมั่นว่า คุณชม้อยคงต้องเอาไปลงทุนทางอื่นแน่ๆ ประกอบกับเคยมีคนขอถอนเงินทันทีซึ่งก็จะได้รับเงินคืนทันที เลยทำให้ความเชื่อมั่นในตัวคุณชม้อยเขาสูงมาก แล้วคุณชม้อยก็เที่ยวพูดเสมอว่าเขาเอาเงินไปหมุนทำธุรกิจอื่นๆ ทำให้ความคิดที่ว่าเป็นเรื่องเงินต่อเงินนั้นมันหมดไป " คนที่เคยทำหน้าที่เขียนสัญญาให้ชม้อย เล่าให้ "ผู้จัดการ " ฟัง

ชม้อยเองก็เป็นคนที่มีจิตวิทยาสูง จากการเป็นคนที่มีไหวพริบและปฏิภาณสูง ทำให้ชม้อยสามารถหาทางออกกับคำถามเหล่านั้นได้สบาย

"เรื่องความจำนี่ก็ต้องยกให้เขาว่าเขาจำได้แม่นยำมาก พูดอะไร หรือตอบคำถาม อะไรที่กะทันหันนี่จะให้เธอตอบซ้ำอีก ไม่ว่ากี่ครั้งกี่หนก็จะไม่มีวันผิดไปจากเดิมเลย " นายตำรวจที่ทำคดีชม้อยพูดขึ้นมา

การที่มีผู้ใหญ่ในเครื่องแบบหลายคนมาเล่นแชร์กับชม้อย ก็ยิ่งทำให้ความลึกลับของชม้อยยิ่งดูศักดิ์สิทธิ์ "เขาชอบอ้าง และเล่าให้หัวหน้าสายฟังเสมอว่านายพลคนนั้น แม่ทัพคนนี้ลงมาแล้วสิบกว่าล้าน มิหนำซ้ำยังเอาเช็คดอกเบี้ยที่จะจ่ายเงินให้นายพลเหล่านั้นมาแสดงให้หัวหน้าสายดูด้วย " แหล่งข่าวคนเขียนสัญญาให้ชม้อยเล่าให้ฟังเพิ่มเติม

"พวกผู้ใหญ่ในกองทัพเริ่มเล่นแชร์ชม้อยก็มาจากบรรดาลูกน้องทั้งหลายที่เคย เล่นมาดึงผู้ใหญ่เข้ามาเล่นด้วย ความจริงแล้วแชร์ชม้อยนี้มันโตขึ้นมาด้วยอุบัติเหตุจริงๆ ไม่ได้มีใครหนุนข้างหลังเลย " แหล่งข่าวคนเดิมพูดต่อ

เมื่อมีผู้ใหญ่ในกองทัพระดับนายพลเล่นอยู่มากขึ้นก็ต้องเป็นที่แน่นอนว่าบรรดาลูกน้องทั้งหลายก็ทยอยเล่นตามอย่างเต็มใจ แต่ไม่ตั้งใจ

"นายพลบางคนเขี้ยวขนาดเป็นหัวหน้าสายเอง ทีนี้พอท่านนายพลเป็นหัวหน้าสายเสียอย่างลูกสายนอกจากไม่มีข้อกังขายังมีความมั่นใจมากขึ้นไปอีกว่าแชร์วงนี้ต้องมีการเอาเงินไปใช้ในธุรกิจต่างๆ ที่กองทัพผูกขาดอยู่เช่นการประมูลการก่อสร้าง การรับซื้อสัญญาของผู้ค้าขายกับกองทัพโดยจ่ายเงินสดไปให้ก่อนแล้วหักเปอร์เซ็นต์ออก มีแม้กระทั่งความเชื่อที่ว่ามีขบวนการค้าของเถื่อนที่เอาเงินแม่ชม้อยมาซื้อโดยใช้ฐานทัพอากาศตามภาคต่างๆ เป็นแหล่งขนย้าย "

ความคิดนี้มีอยู่ในสมองของคนที่มาเล่นตั้งแต่แชร์แม่ชม้อยมีนายพลในกองทัพเข้ามาเกี่ยวข้องร่วมเล่นด้วย

ทั้งๆ ที่โดยเนื้อแท้แล้วชม้อยเพียงแต่หมุนเงินใหม่มาจ่ายเงินเก่าเท่านั้นเอง มิได้มีอะไรไปมากกว่านั้นเลย!!

คนในเครื่องแบบระดับใหญ่ๆ เหล่านั้นเองส่วนมากก็ไม่รู้ว่าเป็นธุรกิจเงินต่อเงิน กลับคิดไปว่าชม้อยนี้เก่งมีสติปัญญาเอาเงินไปหมุนต่อให้ออกดอกสูงได้

"คุณชม้อยแกฉลาดแกเที่ยวบอกพวกนายพลว่าแกมีสายเอาเงินไปปล่อยให้คนที่ต้องการใช้เงินระยะสั้นประเภท 10 วันหรือหนึ่งเดือนแล้วแกคิด 10% ก็เลยทำให้แกอยู่ได้ " แหล่งข่าวอดีตคนสนิทของชม้อยพูดให้ฟัง

เรียกได้ว่าชม้อยดูจุดอ่อนของแต่ละฝ่ายออกก็เลยจับทั้งสองฝ่ายให้เป็นประโยชน์กับตัวเอง!

เงินที่ไหลเข้ามาหาชม้อยตั้งแต่สิบกว่าปีที่แล้วยังมีปริมาณไม่มากเท่าใดนัก แต่ก็มีเงินใหม่ไหลเวียนเข้ามาให้ชม้อยได้จ่ายเงินเก่าอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ทุกอย่างไม่ติดขัดในการจ่ายคืนลูกค้าที่ต้องการจะขอเงินคืนทันที
ชม้อยมาบูมเมื่อไร?

การเจริญเติบโตของแชร์ชม้อย มีลักษณะที่ค่อยเป็นค่อยไปมาแต่แรกเริ่มโดยมีอัตราการเจริญเติบโตที่คงเส้นคงวา กล่าว คือมีเงินใหม่เข้ามาจ่ายเงิน เก่าอยู่เรื่อยๆ ไม่ได้มีอะไรฟู่ฟ่า

ในเวลานั้นในหมู่คนนอกก็ได้ยินข่าวคราวเรื่อง ชม้อยแล้ว แต่ความสงสัยว่าเอาเงินไปทำอะไรนั้นทำให้ เกิดอาการอยากๆ กลัวๆ อยู่ อีกประการหนึ่ง ในช่วง ทรัสต์เถื่อนและบรรดาบริษัทเงินทุนหลายแห่ง ยังไม่มี ปัญหาอยู่นั้น การฝากเงินที่ได้ผลประโยชน์สูงพอสมควรก็ยังเป็นไปได้ ทำให้บรรดานักลงทุนทั้งหลายยังไม่ได้เข้ามาอย่างจริงๆ จังๆ

"เงินที่เล่นชม้อยนั้นเข้ามาจริงๆ ก็ในช่วงที่ทรัสต์ต่างๆ พากันล้มอย่างระเนระนาด แต่ชม้อยยังคงอยู่ยงคงกระพัน ตรงจุดนี้เองแหละที่กลุ่มพวกชั้นกลางที่มีเงินกันคนละสองสามแสนหรือล้านสองล้านเทกันมาหาชม้อยอย่างผิดหูผิดตา ถ้าจำไม่ผิดเวลา นั้นยอดเงินเพิ่มจากไม่กี่ร้อยล้านขึ้นมาเป็นสองพันกว่าล้านทันที " แหล่งข่าวอดีตคนสนิท ของชม้อยพูดให้ฟัง

จากจุดนี้เองที่เงินเริ่มเดินเรียงหน้าเข้ามาหาชม้อย แต่ขณะเดียวกันมันก็คือจุดเริ่มต้นของจุดจบของชม้อยเช่นเดียวกัน

"มันล้มแน่ๆ เพราะวงแชร์แบบนี้มันจะล้มช้าหรือเร็วเท่านั้น ถ้าจำนวนเงินมันเพิ่มคงเส้นคงวาทีละน้อยมันก็ยืดเวลาไปจนถึงจังหวะที่ปริมาณที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยมันมากกว่าปริมาณเงินใหม่ที่ต้องเข้ามาซึ่งอาจจะใช้เวลาถึง 10 ปีก็ได้ แต่พอยอดมันเริ่มถึงพันๆ ล้านบาทแล้ว ค่าดอกเบี้ยอย่างเดียวก็เป็นร้อยล้านบาทต่อเดือน ยอดเงิน 8,000 ล้านบาทนี่ชม้อยต้องจ่ายดอกตกเดือนละ 500 กว่าล้านบาท ซึ่งหมายถึงจำนวนเงินสด ที่มีอยู่ในมือประมาณสามพันกว่าล้านบาทนี้จะจ่ายได้เพียง 6 เดือนกว่าเท่านั้น และก็ต้องหาเงินเข้ามาอีกไม่ต่ำกว่าเดือนละ 300 ล้านบาทถึงจะอยู่ได้ต่อไปอีก 1 ปีกับอีก 1 เดือนก็หมดเงินพอดี และเรื่องนี้ชม้อยก็รู้ดี " แหล่งข่าวคนเดิมพูดต่อ

ในกลางปี 2527 นั้น ชม้อยก็เริ่มง่อนแง่นแล้ว

"ที่ง่อนแง่นนั้นเป็นเพราะว่าหัวหน้าสายของชม้อยปลีกตัวออกไปร่วมกันจัดตั้งแชร์ร้อยแม่พันพ่อกันตั้งแต่แชร์ชาร์เตอร์ แชร์มิลเลียนแนร์ฯ และอีกอย่างหนึ่งมีเงินสวัสดิการของหน่วยราชการหน่วยหนึ่งก้อนมหึมาพอสมควรจะถอนแล้วถอนออกไม่ได้เพราะติดขัดตรงชม้อยมีเงินไม่พอ ทุกคนกำลังเหงื่อแตกกันว่าจะทำอย่างไรดี ก็พอดีปลายปีชม้อยได้มีโอกาสออกโทรทัศน์กองทัพบกสวนควันปืนของแถลงการณ์กระทรวงการคลังออกไป และหลังจากนั้นอีกไม่นาน พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก ก็ออกข่าวว่าชม้อยไม่ได้ทำอะไรผิด ท่านคงไม่รู้และไม่ได้มีเจตนาอะไร " คนใกล้ชิดบิ๊กซันพูดขึ้น

เท่านั้นเองแหละคนที่กำลังเสียวๆ กับชม้อยก็หายเสียว เพราะเมืองไทยเป็นเมืองของข่าวลือและการเดา

"มันทำให้หลายคนคิดเลยเถิดไปว่าพลเอกอาทิตย์คือผู้อยู่เบื้องหลังแชร์นี้ ทั้งๆ ที่ท่านไม่รู้เรื่องเลย เพียงแต่ท่านพูดออกมาโดยไม่ได้คิดว่ามันจะมีผลตามมาทีหลัง " ทหารคนสนิทของพลเอกอาทิตย์ชี้แจงกับ "ผู้จัดการ "

เงินที่เคยชะงักคราวนี้ก็ไหลมายิ่งกว่าท่อน้ำประปาเสียอีก และก็เป็นเงินก้อนที่เข้ามาชุดหลังนี้แหละที่เป็นตัวการสำคัญของการหายสาบสูญไปอย่างอัศจรรย์ที่สุด

จะอย่างไรก็ตามหน่วยราชการนั้นก็ได้รับเงินสวัสดิการคืนไปอย่างที่ผู้ใหญ่โล่งอกกันทุกคน "ชม้อยเองก็รู้ว่าจุดจบตัวเองต้องเป็นแบบนี้ เพราะเงินมันเดินหน้ากันเข้ามาหาจะหยุดก็หยุดไม่ได้ เพียงแต่ว่าจะหาทางออกอย่างไร? "
เงินชม้อยหายไปไหน?

ใครคือประสิทธิ์ จิตที่พึ่ง และมีจริงหรือไม่? คำตอบนี้ก็คงจะต้องบอกว่าชื่อนี้มีจริง แต่เป็นอีกชื่อหนึ่ง ส่วนจะเป็นใครนั้นก็คงต้องให้เงื่อนไขของเวลาและเงื่อนไขของสังคมเป็นเครื่องตัดสิน

ประสิทธิ์ จิตที่พึ่ง เคยเอาเงินชม้อยไปครั้งหนึ่งไปทำธุรกิจแล้วก็คืนมาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เอาเงินชม้อยไปมีกำหนดคืนตอนต้นปีแต่ต้องเลื่อนไป และล่าสุดได้ส่งเงินเข้ามาแล้ว 600 กว่าล้านบาท แต่ปัญหาคือจะผ่องถ่ายกันอย่างไร?

เรื่องฉากสุดท้ายของชม้อยนั้นเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะการลงโทษชม้อยเพียงอย่างเดียวไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ทั้งนี้เพราะปัญหาหลักอยู่ที่สังคมไทยของเราซึ่งมันมีอะไรหลายอย่างที่เริ่มคล้ายไซ่ง่อนก่อนเมืองแตกที่ผู้หลักผู้ใหญ่ไม่มีคุณธรรม ชอบเอาตัวรอด ชอบกระทำความผิดแต่ไม่เคยต้องได้รับโทษ ปล่อยให้ประชาชนต้องขมขื่น กรณีแชร์แม่ชม้อยในช่วง 2-3 ปีหลังนั้นเป็นเรื่องของการเข้ามาร่วมของผู้ใหญ่บ้านเมืองนี้ แทนที่จะหยุดตักเตือนแล้วหาทางออกให้กับประชาชนผู้โลภและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ผู้ใหญ่บ้านเรากลับเข้าไปร่วมทำมาหากินกับชม้อยอย่างหน้าตาเฉย บางครั้งก็ปกป้องให้เสียด้วย

และเมื่อมันเป็นเช่นนี้แล้ว เราจะไปหวังอะไรกับสังคมไทย เรื่องชม้อยจึงมีเรื่องที่น้ำท่วมปากอีกมากที่รู้ก็พูดไม่ได้เพราะมันอัปยศ ก็เอาเป็นว่าถ้าเงื่อนไขของเวลา อำนวยก็คงจะพูดให้ฟังสักวันหนึ่ง เช่น จู่ๆ เงินเป็นพันล้านบาทมันหายออกไปจากบัญชีได้อย่างไร? และเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ไม่มีปัญหาจะติดตามได้ หรือว่ามันผ่องถ่าย ไปทางไหน?

ชม้อยเริ่มธุรกิจจัดเงินมาแต่แรกเริ่มไม่ได้มีอะไรพิเศษพิสดารไปกว่านั้นแต่ในช่วง 2-3 ปีหลังที่เงินมันเดินหน้าเข้ามาหาเป็นพันๆ ล้าน เรื่องมหัศจรรย์พันลึกมันก็เลยต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง และคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องก็ล้วนแล้วแต่ระดับมหึมาทั้งนั้น ซึ่งการเข้ามาเกี่ยวข้องก็เพราะเงินเป็นพันๆ ล้านบาทในแชร์ก้อนนี้

และที่น่าเศร้าที่สุดก็ตรงที่ว่าเงินพันๆ ล้านบาทมันเป็นเงินของประชาชน ประชาชนที่โลภ ประชาชนที่เอารายได้ดอกเบี้ยมาจับจ่ายใช้สอยเพราะรายได้ประจำไม่พอใช้ ประชาชนชั้นกลางที่เล่นแชร์เพื่อส่งลูกเรียนหนังสือ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ฯลฯ

เหมือนอย่างที่เขาว่ากันว่า "ผู้ปกครองต่างมาแล้วจากไป มีแต่ประชาชนเท่านั้นที่ต้องช้ำใจไปตลอดกาล "
หมายเหตุ : จากเรื่อง "ชม้อย ทิพย์โส วีรสตรีหรือซาตานกันแน่! " โดย สนธิ ลิ้มทองกุล และอภิชาติ ชอบชื่นชม ในนิตยสารผู้จัดการ ฉบับที่ 24 เดือนสิงหาคม 2528

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us