เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ปรับทิศ เบรกลงทุนในไทยเหตุเศรษจกิจไม่เอื้ออำนวย ทุ่มงบพันล้านบาท สยายปีกสู่ต่างประเทศ โฟกัสพนมเปญ เล็งลุยต่อ ตะวันออกกลาง ชูวิธีร่วมทุนในสัดส่วน 30% วาดฝัน 5 ปี กระทุ้งยอดรายได้จากต่างประเทศสัดส่วน 20% หลังนำร่องเปิดที่เสียมเรียบไปแล้ว หวังสิ้นปียอดทั้งเครือโตไม่ต่ำกว่า 25%

นายแพทย์พงศ์ศักดิ์ วิทยากร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดเผยถึงนโยบายการดำเนินงานของบริษัทฯว่า จากภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยลบในประเทศไทย ทำให้บริษัทฯต้องปรับแผนการลงทุน โดยตัดสินใจชะลอการลงทุนในประเทศเป็นปีแรก ขณะเดียวกันได้หันไปลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาลในตลาดต่างประเทศมากขึ้นภายใต้แบรนด์ โรงพยาบาลกรุงเทพ

โดยภาพรวมของธุรกิจโรงพยาบาลในปีนี้คาดว่า จะมีอัตราการเติบโตไม่ถึง 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่เติบโต 30% เนื่องจากได้รับผลกระทบจาก 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจ การเมือง ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการแข็งค่าของค่าเงินบาท ซึ่งปัจจัยดังกล่าวข้างต้นมีผลต่อความมั่นใจของผู้บริโภค

ขณะที่ภาพรวมของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพคาดว่าจะเติบโตประมาณ 20-25% เทียบกับปีที่ผ่านมาที่เติบโตประมาณ 29% หรือมีรายได้ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปีนี้บริษัทฯไม่มีแผนลงทุนหรือเข้าไปซื้อหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลอื่นที่อยู่ในประเทศเพิ่ม เนื่องจากที่ผ่านมาได้ลงทุนไปมากแล้ว อย่างไรก็ตามบริษัทฯมีแผนจะใช้เงินลงทุนหลายร้อยล้านบาท เพื่อปรับปรุงและพัฒนาโรงพยาบาลในเครือ

สำหรับแผนการลงทุนในตลาดต่างประเทศนั้น ตามแผนงานที่กำหนดไว้ภายในระยะเวลา 5 ปี จะใช้งบประมาณลงทุน 1 พันล้านบาท สำหรับการลงทุนในต่างประเทศในลักษณะร่วมทุน โดยกำหนดสัดส่วนการร่วมทุนไว้ที่ บริษัท 30% และพันธมิตรท้องถิ่น 70% ซึ่งในเบื้องต้นนี้ มองไปที่ 2 ประเทศก่อน กล่าวคือ ประเทศแรกคือกัมพูชาที่เมืองพนมเปญ ส่วนอีกประเทศนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาระกว่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับกาต้าร์ ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนเฉลี่ยประเทศละ 500 ล้านบาท และคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างและพร้อมเปิดบริการได้ภายใน 2 ปีนับจากนี้

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบริษัทฯได้ร่วมทุนและใช้งบไปประมาณ 300 ล้านบาท เปิดโรงพยาบาลในประเทศกัมพูชา ในเมืองเสียมเรียบ ซึ่งเป็นประเทศแรกไปและเพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้เอง และคาดว่าในปีแรกนี้ สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศคาดว่าจะมีประมาณ 5% จากรายได้รวมทั้งหมด หลังเปิดบริการที่เสียมเรียบแล้ว และตั้งเป้าว่าภายใน 5 ปีหลังจากที่บุกตลาดต่างประเทศอย่างเต็มที่แล้ว จะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศประมาณ 20%

ส่วนแผนการดำเนินงานในประเทศไทยนั้น บริษัทฯได้จัดเตรียมงบกว่า 300 ล้านบาท ในการทำการตลาดสำหรับทั้งเครือ และใช้ในการปรับปรุงเครือโรงพยาบาลทุก 9 ปี โดยในปีนี้บริษัทฯเตรียมงบประมาณเท่ากับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้บริษัทฯจะทำทุกทางเพื่อสร้างยอดรายได้และปรับทุกกลวิธีสอดรับกับปัญหาเพื่อรองรับกับสถานการณ์ทั้งในแง่ของการซื้ออุปกรณ์ การให้บริการต่างๆควบคู่กับการทำตลาดที่มีทั้งหมดในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ

ล่าสุดเปิดตัว “ บัตรสมาชิกชีววัฒนะ” ภาพลักษณ์ใหม่ภายใต้คอนเซ็ป “My Health My Choice My Hospital” บัตรสุขภาพที่เชื่อมโยงข้อมูลและบริการใน 14 โรงพยาบาลเครือข่ายโรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งเพิ่มความสะดวกแก่สมาชิก ทั้งในแง่ส่วนลด บริการ และการให้ข้อมูลการแพทย์และสุขภาพ

ทั้งนี้บัตรจะมี 4 ประเภท ซึ่งจะประกอบด้วย บัตรเพอร์เฟคไดมอนด์ บัตรไพร์ม บัตรแพลทินั่ม และบัตรจูเนียร์ ซึ่งเชื่อว่าจะตอบรับความต้องการของผู้บริโภคในภาวะที่มีผลกระทบด้านกำลังซื้อ โดยตั้งเป้าจะขยายฐานสมาชิกจาก 6 หมื่นรายในปัจจุบัน เป็น 8 หมื่นรายในปีนี้ และมากกว่า 1 แสนราย ในปี 2551