Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 เมษายน 2550
"เนสกาแฟ”รื้อกลยุทธ์ทั่วโลกดึงกลับสู่อ้อมอก-เพิ่มดีลเลอร์ภูธร             
 


   
www resources

โฮมเพจ เนสท์เล่ประเทศไทย

   
search resources

เนสท์เล่ (ไทย), บจก.
Marketing
Coffee




เนสท์เล่ ปรับโครงสร้างองค์กรทั่วโลกครั้งใหญ่ แยกการตลาดกาแฟพร้อมดื่ม-ชาชัดเจน ดึงกาแฟพร้อมดื่มเนสกาแฟจากโค้ก - บริษัทเบฟเวอเรจพาร์ตเนอร์ส เวิลด์วาย ทำเองหมด เร่งเพิ่มดิสทริบิวเตอร์ทะลวงภูธรปิดจุดอ่อน ชูจุดแข็งยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว อัดฉีดงบเนสกาแฟ 3 ตัว 1 พันล้าน ชูภาพลักษณ์ทันสมัยทรีอินวัน-อินสแตนท์ ต่อยอดกาแฟพร้อมดื่ม ขยายฐานคนรุ่นใหม่ สิ้นปีรั้งเบอร์สอง ครองแชร์ 31% ขณะที่ก่อนหน้านี้ขายไลเซนส์นมน้ำให้เอฟแอนด์เอ็ม

นายเทรเวอร์ เคลย์ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟพร้อมดื่มตราเนสกาแฟ เปิดเผยว่า นโยบายเนสท์เล่ทั่วโลกได้ปรับโครงสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มกาแฟพร้อมดื่มภายใต้แบรนด์”เนสกาแฟ” ใหม่ โดยได้โยกการบริหารจัดการทั้งในส่วนของการผลิต การตลาด การจัดจำหน่าย และการกระจายสินค้า มาดำเนินการเองทั้งหมด ซึ่งแต่เดิมบริษัทได้มอบหมายให้ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด และบริษัท หาดทิพย์ จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่าย และมีบริษัท เบฟเวอเรจพาร์ตเนอร์ส เวิลด์วาย (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างโคคา โคล่าและเนสท์เล่ในสัดส่วน 50:50 เป็นผู้ดำเนินการด้านการตลาด

สำหรับประเทศไทยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2550 ส่วนประเทศอื่นๆ จะทยอยปรับเปลี่ยน ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ เนื่องจากเนสท์เล่มีความเชี่ยวชาญด้านกาแฟ โดยปัจจุบันในตลาดกาแฟทรีอินวันมูลค่า 4,000ล้านบาท เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 60% ส่วนตลาดกาแฟอินสแตนท์มูลค่า 8,000ล้านบาท ครองส่วนแบ่ง 90% อีกทั้งยังเป็นเจ้าของแบรนด์และเดิมเป็นผู้ผลิตอยู่แล้ว จึงมีความเข้าใจตัวผลิตภัณฑ์และความต้องการของผู้บริโภคที่ดีกว่า ส่วนบริษัทเบฟเวอเรจพาร์ตเนอร์ส เวิลด์วาย (ประเทศไทย) จำกัด ทางเนสท์เล่ได้วางนโยบายให้เน้นการทำตลาดชาพร้อมดื่มแบรนด์”เนสทรี”เป็นหลัก

ปีนี้บริษัทได้ทุ่มงบการตลาดรวมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ 1,000ล้านบาท สำหรับกาแฟพร้อมดื่มเนสกาแฟเพิ่มงบการตลาดมากขึ้น จากปีที่ผ่านมาใช้เพียงหลักสิบล้านบาทเท่านั้น โดยขณะนี้ได้วางแผนปรับระบบการจัดจำหน่ายใหม่ โดยบริษัทจะอาศัยความเชี่ยวชาญและความสัมพันธ์ของบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น ดิสทริบิวเตอร์ ร้านค้าทั่วไปทั้งยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว ตู้แช่ ครอบคลุมกว่าแสนร้านค้าขึ้นไป ซึ่งเมื่อเทียบกับบริษัทไทยน้ำทิพย์และหาดทิพย์ ซึ่งมีความแข็งแกร่งด้านหน่วยรถกระจายสินค้า ในเรื่องดังกล่าวบริษัทยังมีจุดอ่อนอยู่ แต่ในช่วงแรกจะกระจายสินค้าให้เท่ากับบริษัทเดิมที่ทำไว้ และจะทยอยปรับเพิ่มขึ้นเรื่อย โดยได้เตรียมเพิ่มดิสทริบิวเตอร์จากปัจจุบันมี 25ราย

แผนการกระจายสินค้าบริษัทจะดำเนินการในเชิงรุกในตลาดต่างจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่แบรนด์ไม่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งเมื่อเทียบกับกรุงเทพฯ เนสกาแฟเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง 100% อย่างไรก็ตาม การทำตลาดบริษัทอาศัยความเป็นผู้นำในตลาดอินสแตนท์และทรีอินวันต่อยอดภาพลักษณ์ตัวกาแฟพร้อมดื่ม เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายไปสู่วัยทำงาน และนักศึกษา ซึ่งปัจจุบันสำหรับกาแฟพร้อมดื่มเนสกาแฟ นับว่าเป็นแบรนด์ที่มีกลุ่มเป้าหมายวัยทำงานและนักศึกษามากกว่าแบรนด์อื่นๆ ซึ่งโดยมากเป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงาน และจากการสำรวจพบว่าในตลาดรวม เป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงานสัดส่วน 70% และวัยทำงานและนักศึกษา 30%

พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ ภายใต้แนวทางการทำผลิตผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ สำหรับประเทศไทย กาแฟพร้อมดื่มเนสกาแฟมีด้วยกัน 2 รสชาติ ได้แก่ เนสกาแฟ เอ็กซ์ตร้า ริช และเนสกาแฟ ลาเต้ อย่างไรก็ตามในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่บริษัทจะการสร้างเซกเมนต์กาแฟทั้งในระดับพรีเมียมและอีโคโนมี เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค แต่ปัจจุบันตลาดกาแฟพร้อมดื่มยังจำกัดอยู่ในวงแคบ สำหรับในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้ บริษัทได้เตรียมเปิดตัวแคมเปญครั้งใหญ่ ส่วนหน้าร้อนซึ่งเป็นฤดูกาลขายเครื่องดื่มกาแฟพร้อมดื่ม เน้นการกระจายสินค้าให้เพียงพอกับความต้องการของตลาดก่อน โดยตั้งเป้ายอดขายโต 20% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

สำหรับแนวโน้มตลาดกาแฟมูลค่า 20,000 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก เนื่องจากตลาดกาแฟทรีอินวันมูลค่า 4,000 ล้านบาท เป็นตัวผลักดันให้ตลาดโดยรวมมีอัตราการเติบโตสูงส่วน 8,000 ล้านบาทเป็นตลาดอินสแตนท์ และตลาดกาแฟพร้อมดื่มมีมูลค่า 8,000 ล้านบาท ปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโต 5% โดยปัจจุบันเบอร์ดี้เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่งเกือบ 70% เนสกาแฟพร้อมดื่มครองส่วนแบ่ง 31% หลังจากการปรับเปลี่ยนโครงการสร้าง บริษัทตั้งเป้ายอดขายเนสกาแฟพร้อมดื่มมีอัตราการเติบโต 5% และรักษาส่วนแบ่งไว้ที่ 31% แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายเนสกาแฟ เอ็กซ์ตร้า ริช 90% และเนสกาแฟ ลาเต้ 10%

ขายไลเซนส์นมน้ำให้เอฟแอนด์เอ็ม

นางสาวพัทนัย เหลืองตระกูล ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่ม เนสกาแฟ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า เมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทได้ตัดสินใจขายไลเซนส์นมน้ำให้กับบริษัท เอฟแอนด์เอ็น หรือผู้ผลิตและจัดจำหน่ายไอศครีมแมกโดเลียไป นับเป็นอีกช่องทางหนึ่งของการทำธุรกิจของเนสท์เล่ ซึ่งมีความโดดเด่นผลิตภัณฑ์นม   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us