Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 มีนาคม 2550
โฆษณาไทยถูกเลียนแบบแอดแมนเน้นตอบโจทย์แบรนด์             
 


   
search resources

วิทวัส ชัยปาณี
Advertising and Public Relations




นายกสมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย ชี้แนวโน้มหนังโฆษณาไทยปีนี้เริ่มขยับสูงขึ้น ล่าสุดเดือนมี.ค.โตขึ้นอีก 10% ส่วนใหญ่เน้นขายสินค้า มากกว่าภาพลักษณ์แบรนด์ ส่วนสถานการณ์งานโฆษณาของไทย กำลังเจอศึกหนัก มีหลายประเทศนำรูปแบบโฆษณาไปใช้ ชี้ต่อไปต้องเน้นในเรื่องของไอเดียเป็นหลัก และเนื้อหาต้องเข้ากับแบรนด์ ล่าสุดจัดงาน “แอดแมน” ขึ้นเป็นครั้งที่4 หวังเพิ่มศักยภาพงานโฆษณาสู่ระดับโลกอีกครั้ง

นายวิทวัส ชัยปาณี นายกสมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทิศทางจำนวนภาพยนตร์โฆษณาทั้งหมดในไทยปีนี้ คาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่ 12,000 เรื่อง โดยเป็นภาพยนตร์โฆษณาเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภคประมาณ 8,000 เรื่อง ทั้งนี้เกิดจากสภาพเศรษฐกิจเป็นหลัก จนทำให้ทิศทางภาพยนตร์โฆษณาส่วนใหญ่ในปีนี้ จะเป็นในเรื่องของ การขายสินค้า มากกว่าประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์องค์กรหรือแบรนด์

ส่วนภาพรวมของอุตสาหกรรมโฆษณาในปีนี้มองว่าน่าจะดีกว่าปีที่ผ่านเล็กน้อย ดูจากไตรมาสแรกของปีนี้ เริ่มจากเดือนมกราคมที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 1% เดือนกุมภาพันธ์เติบโต 7% และเดือนมีนาคมที่กำลังจะจบลงนี้ คาดว่าน่าจะมีอัตราการเติบโตมากกว่า 7% โดยอาจจะถึง 10% ก็เป็นได้

ขณะเดียวกันสถานการณ์ของงานโฆษณาของไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ถือว่าดีขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2548 ไทยอยู่ในอันดับ 6 ของโลก และในปี 2549 ขยับขึ้นมาอยู่ใน อันดับ 5 ของโลก อีกทั้งยังเป็นอันดับ 1 ในเอเชียอีกด้วย ทั้งในด้านของตัวชิ้นงานโฆษณาและตัวคลีเอทีฟเอง

นายวิทวัส กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในปีนี้มองว่าไอเดียของชิ้นงานโฆษณาไทยกำลังถูกหลายๆประเทศในเอเชียเลียนแบบอยู่ ไมว่าจะเป็น จีน อินเดีย และญี่ปุ่น ในแง่ของมุกตลกที่อยู่ในงานโฆษณา จนทำให้ผลงานของไทยเริ่มไม่โดดเด่น ขณะเดียวกันมุกตลกในชิ้นงานของไทยก็ใช้มาหลายปี จนทำให้คณะกรรมการของการประกวดในหลายๆเวที เริ่มจับทางได้ ดังนั้นอาจจจะทำให้พลาดในรางวัลใหญ่ที่เข้าประกวดก็เป็นได้ เห็นได้จากงานมหกรรมโฆษณาเอเชียแปซิฟิก (AdFest) ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 ระหว่าง วันที่ 14-17 มีนาคม พัทยา โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา ผลงานจากประเทศญี่ปุ่นกลับได้รางวัลชนะเลิศไป

ดังนั้นในปีนี้งาน แอดแมน หรือ “Adman Awards & Symposium 2007” ซึ่งในปีนี้จะจัดขึ้นเป็นปีที่ 4 ในวันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน 2550 ณ รอยัล พารากอน ฮอล สยามพารากอน ที่ทางสมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย เป็นผู้จัดนั้น จะเน้นผลงานที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของสินค้าหรือแบรนด์ได้อย่างตรงจุด ตรงความต้องการ เน้นด้านไอเดียเป็นหลัก รวมไปถึงความคิดสร้างสรรค์ที่ตอบโจทย์ให้กับแบรนด์สินค้าได้ด้วย ภายใต้แนวคิด “Love at Second Sight”

“งาน แอดแมน หรือ “Adman Awards & Symposium” ปัจจุบันได้รับการยอมรับในฐานะงานประกวดสุดยอดงานโฆษณาและผลงานสร้างสรรค์ระดับโลกของไทย เห็นได้จากผลงานที่ชนะเลิศรางวัลแอดแมน ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้รับรางวัลจากการประกวดโฆษณาจากเอเยนซี่ทั่วโลกที่เมืองคานส์ จนเป็นที่ทราบกันดีว่ารางวัล แอดแมน เปรียบเสมือนตัวกลั่นกรองผลงานของไทยสู่เวทีประกวดระดับโลกรายการนี้ ดังนั้นในปีนี้ทางสมาคมฯจะเน้นงานโฆษณาที่เข้าประกวดที่มีแนวคิดด้านไอเดียเป็นหลัก พร้อมๆกับความคิดสร้างสรรค์ที่กลับมาตอบโจทย์ในแง่ของแบรนด์ได้อีกด้วย เพื่อฉีกหนีคู่แข่งจากประเทศต่างๆที่ส่งผลงานเข้าประกวดอย่างที่เมืองคานส์ต่อไป”

ขณะเดียวกันในปีนี้ยังมีการเพิ่มรางวัลประเภทโฆษณา “เทิดทูลในหลวง” เป็นรางวัลพิเศษที่จัดขึ้นสำหรับปี 2549 และ 2550 โดยเฉพาะ เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยจะรับผลงานโฆษณาใน 4 หมวด คือ สื่อโทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ สื่อกลางแจ้ง สื่อแฝงและสื่อวิทยุ ทั้งนี้จากประเภทงานโฆษณาที่จัดประกวดขึ้นทั้งหมด คาดว่าในปีนี้จะมีผลงานเข้าร่วมประกวดไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ที่การส่งผลงานเข้าประกวดกว่า 1,183 ชิ้นงาน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us