“ยามาฮ่า” ตีปีกหลังผ่าน 2 เดือนยอดขายกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ยอมรับต้องกดราคาต้นทุนลงอีก จึงหันมาจับตลาดรถจักยานยนต์มือสอง หวังสิ้นปีรักษายอดเท่าเดิม 4.65 แสนคัน พร้อมเดินหน้าขยายโชว์รูมอีกให้ครบ 400 สาขาในอีก 3 ปี

นางจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์มียอดการจำหน่ายลดลง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว จากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจที่ส่งผลโดยตรงต่อตลาดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ทั้งเรื่องของการเมือง ราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย

"ตลาดรถจักรยานยนต์ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ลดลงประมาณ 11% โดยตัวเลขของตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 1.75 ล้านคันเท่านั้น ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านถึง 6% และถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีทีเดียว ดังนั้นบริษัทฯจึงตั้งเป้าการจำหน่ายของปีนี้อยู่ที่ 465,000 คัน โดยคาดว่ามีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 27% จากเดิม 24% โดยมีนโยบายชัดเจนที่จะเป็นผู้นำด้าน ตลาดรถจักรยานยนต์ออโตเมติก”

ทั้งนี้ในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมายามาฮ่า มีส่วนแบ่ง 24% ของตลาด เป็นไปตามเป้าหมาย โดยปีนี้ตั้งเป้ารักษาส่วนแบ่งในตลาดรถจักรยานยนต์ให้เทียบเท่ากับปีที่ผ่านมาคือ 24-25% หรือมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 465,000 คัน จากตลาดรวมที่คาดว่าจะมียอดการจำหน่ายอยู่ที่ 1.75 ล้านคันในปีนี้ ทั้งนี้เชื่อว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะเริ่มกลับมาดีอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากจะการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ในช่วงปลายปี ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและตลาดได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของตลาดรถจักรยานยนต์มือสองซึ่งมีมูลค่าและจำนวนไม่มากนั้น แต่บริษัทOยังคงให้ความสำคัญกับตลาดดังกล่าวด้วย เนื่องจากถือเป็นตลาดที่น่าสนใจ และยังมีความต้องการจากดีลเลอร์ที่มีความประสงค์จะทำตลาดในส่วนนี้โดยรถจักรยานยนต์ที่ถูกยึดคืนมาจำหน่ายเป็นรถจักรยานยนต์มือสอง โดยมีมูลค่าเฉลี่ย 5,000 คันต่อปี หรือคิดเป็น 1 % ของยอดขายในปีที่ผ่านมา ส่วนการทำตลาดของรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือ บิ๊กไบค์ นั้นยามาฮ่ามีพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์โชว์ 2007 นี้ ซึ่งจะนำเข้ามาประมาณ 6 รุ่น ในเครื่องยนต์ตั้งแต่ 250 ซีซี ถึง 1300 ซีซี ราคาเริ่มต้นที่ 3 แสนบาท นอกจากนี้ยังเตรียมสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการไว้ให้รถประเภทนี้โดยเฉพาะ โดยปีแรกตั้งเป้าหมาย 200-300 คัน

สำหรับปีนี้บริษัทได้เตรียมงบประมาณเพื่อใช้ในการทำกิจกรรมส่งเสริมการทำตลาดไว้ที่ประมาณ 500 ล้านบาท และงบประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงเรียนฝึกอบรมการขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือในเบื้องต้นใช้ชื่อว่า "Yamaha Safety Riding Academy"โดย สอนการขับขี่เบื้องต้น การเสริมทักษะ และขับขี่ปลอดภัย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งนี้ตลอดปียามาฮ่าจะมีแคมเปญใหม่ๆออกมาอีกหลังจากที่มีการจับมือกับพันธมิตรหลายเจ้าใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นไทยสมาร์ทคาร์ดและเป๊ปซี่

นอกจากนี้บริษัทจะเดินหน้าปรับปรุงโชว์รูมจำหน่ายหรือ ยามาฮ่าสแควร์ เป็น 200 แห่งในปีนี้ และตั้งเป้าว่าภายในปี 2553 จะดำเนินการได้ครบ 400 แห่ง หรือประมาณ 80% ของดีลเลอร์ทั้งหมด โดยบริษัทจะเข้าไปอบรมและให้ความรู้ในเรื่องการขาย การบริการ ของพนักงานเพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่พึงพอใจสูงสุดด้วย