|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เมืองไทยประกันภัยเผยกำไรปี 49 ก่อนหักภาษี 152 ล้าน เบี้ยประกันภัยรับรวม 1,891 ล้าน ส่วนปีนี้ตั้งเป้าขยายตัว 12% ชูนโยบายมั่นคง-มีคุณภาพ ยึดหลัก “ความคุ้มครองที่คุ้มค่ากับแบบประกันที่หลากหลาย-บริการจากตัวแทนที่มีคุณภาพ” พร้อมเจาะตลาดภูมิภาค คาดกวาดเบี้ยรับประกันภัยไม่ต่ำกว่า 2 พันล้าน
นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2549 ว่า มีกำไร 152.55 ล้านบาท (ก่อนหักภาษีเงินได้) เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ซึ่งเป็นผลมาจากเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 1,891.3 ล้านบาท ประกอบด้วยเบี้ยประกันภัยรถยนต์ (Motor) 1,130.6 ล้านบาท แยกเป็นเบี้ยประกันภัยรับภาคสมัครใจ 944.9 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับภาคบังคับ 185.7 ล้านบาท ส่วนเบี้ยประกันภัยรับที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non - Motor) มีเบี้ยประกันภัยรับรวมประมาณ 760.7 ล้านบาท โดยแยกเป็นประกันอัคคีภัย 215.3 ล้านบาท ประกันการขนส่งทางทะเล 53.9 ล้านบาท และประกันเบ็ดเตล็ด 491.4 ล้านบาท โดยมีกำไรก่อนการลงทุน 42.1 ล้านบาท และรายได้สุทธิจากการลงทุน 110.5 ล้านบาท
“สำหรับปี 2550 บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของเบี้ยรับประกันภัยไว้ประมาณร้อยละ 12 คิดเป็นเบี้ยรับทั้งสิ้น 2,042.4 ล้านบาท นับเป็นเป้าหมายที่ท้าทายการทำงานของเราเป็นอย่างมาก นโยบายการทำงานของบริษัทฯ ในปีนี้ คือ การเติบโตอย่างมั่นคง และมีคุณภาพ โดยจะเน้นความคุ้มครองที่คุ้มค่ากับแบบประกันที่หลากหลาย ด้วยบริการอย่างมืออาชีพ และมีคุณภาพของตัวแทนและพนักงานของเรา”
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดศูนย์บริการลูกค้า Customer Service Center :CSC เพิ่มอีก 3 แห่ง คือ นครราชสีมา ภูเก็ต และขอนแก่น ภายหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการให้บริการแล้ว 4 แห่ง คือ สำนักงานใหญ่ กรุงเทพ หาดใหญ่ เชียงใหม่ และชลบุรี ทั้งนี้ศูนย์บริการลูกค้า (CSC) เป็นอีกหนึ่งบริการที่ต้องการตอบสนองทุกความต้องการด้านประกันภัยของลูกค้าอย่างครบวงจร ในรูปแบบ “One Stop Service” เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าภูมิภาค
ในปีนี้บริษัทฯ จะเน้นเปิดสำนักงานตัวแทนในภูมิภาคมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคเหนือ และภาคอีสาน โดยปัจจุบันมีสำนักงานตัวแทนทั้งสิ้น 167 แห่ง แบ่งเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑลจำนวน 21 แห่ง ภาคกลาง 21 แห่ง ภาคเหนือ 18 แห่ง ภาคอีสาน 23 แห่ง ภาคตะวันออก 35 แห่ง และภาคใต้ 49 แห่ง และพร้อมกันนั้นจะเน้นการขายผ่านตัวแทนให้เพิ่มขึ้นอีก ร้อยละ 20 เพราะมั่นใจในศักยภาพของตัวแทน ด้วยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการฝึกฝน และอบรมตัวแทนโดยตรงและใกล้ชิด
“ปีที่ผ่านมาจะพบว่า ประชาชนเริ่มหันมาให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินรวมถึงความเสี่ยงภัยทางธรรมชาติมากขึ้น ดังนั้นคาดว่าในปีนี้ธุรกิจประกันวินาศภัยจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น” นางนวลพรรณกล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงตอกย้ำการเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์แบบประกันภัยใหม่ๆ ล่าสุดได้สร้างสรรค์แบบประกันภัยส่วนบุคคลตามลักษณะของกลุ่มลูกค้าถึง 2 แบบ คือ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ภาคสมัครใจซึ่งสามารถทำคู่ควบพ.ร.บ. ภายใต้ชื่อ TP-Save และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล PA เมืองไทย ที่มีให้เลือกกว่า 4 แบบความคุ้มครอง ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้า และประชาชนเป็นจำนวนมาก ด้วยความคุ้มครองที่คุ้มค่าในราคาที่ยุติธรรม
|
|
|
|
|