โจนส์ แลงฯ ชี้ตลาดคอนโดฯกรุงเทพฯชั้นในแข่งขันดุเดือด โครงการใหม่บวกคนซื้อขายห้องชุด ทำให้ซัปพลายเพิ่ม จับตากลยุทธ์ดั๊มพ์ราคาอาจจะเกิดขึ้นได้ เปรยเดือนม.ค. ราคาขายเฉลี่ยขยับมาอยู่ที่ 80,020 บทท เพิ่มขึ้นในอัตราช้าลงประมาณ 11%
ฝ่ายวิจัยโจนส์ แลง ลาซาลล์ ได้รายงานตลาดคอนโดมิเนียม-กรุงเทพฯชั้นในว่า ในช่วงปี 2549 ที่ผ่านมา มีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่เพิ่มขึ้นในเขตกรุงเทพฯชั้นในรวมทั้งสิ้น 30 โครงการ คิดเป็นจำนวนรวม 3,640 ทำให้จำนวนทั้งสิ้นของคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วในเขตกรุงเทพฯชั้นใน ณ เดือนมกราคม 2550 ขยับขึ้นเป็น 51,190 หน่วย หรือ 7.6% ซึ่งเป็นการขยายตัวที่มีอัตราชะลอลง เมื่อเทียบกับปี 2548 ที่มีอัตราการขยายตัว 11.1%
ซึ่งคอนโดมิเนียมที่สร้างใหม่ในปี 2549 ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียมระดับกลาง ตั้งอยู่ในย่านสุขุมวิทและพระราม 3 ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 45-55 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 70-80 ตารางเมตร ส่วนคอนโดมิเนียมระดับบนที่สร้างเสร็จใหม่ ตั้งอยู่ในย่านสาทร สีลมและสุขุมวิท มีขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 90-110 ตารางเมตร ถึง 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 130-190 ตร.ม.
" ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจและการเมืองจะเริ่มส่อเค้ามีปัญหาในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่า ผู้ประกอบคอนโดมิเนียมยังคงมีการเปิดตัวโครงการใหม่เข้ามาในตลาดจำนวนมากถึง 32 โครงการ หรือ 9,780 หน่วย เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ถึงกว่าเท่าตัว โดยในปี 48 มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่รวมทั้งสิ้น 4,530 ยูนิต "ฝ่ายวิจัยระบุ
โดยโครงการเปิดตัวใหม่ในปีที่แล้ว มีจำนวนห้องชุดมากที่สุด 5 อันดับแรกได้แก่ โครงการลุมพินี เพลส พหล-โยธิน 1,084 หน่วย โครงการศุภาลัย ริเวอร์ เพลส 877 หน่วย โครงการเดอะ สเตชั่น สาทร-บางรัก 660 ยูนิต โครงการวิลล่า ราชเทวี 603 หน่วย และโครงการดิ แอดเดรส ชิดลม 597 หน่าวย ส่วนใหญ่ที่เปิดตัวจะอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าในย่านสุขุมวิท เป็นคอนโดฯระดับกลางและระดับบน
ในส่วนของกำลังซื้อ(อุปสงค์) พบว่าในปีที่ผ่านมา คอนโดฯในเขตกรุงเทพฯชั้นใน มียอดขายรวมทั้งสิ้น 9,550 หน่วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี พบว่า ยอดขายส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี และชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 49 เนื่องจากความไม่มั่นใจในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง ที่ขยายตัวมากขึ้น โดยคอนโดฯที่สร้างเสร็จแล้ว มียอดขายเฉลี่ย 98% ขณะที่โครงการที่ยังไม่เสร็จมียอดขายเฉลี่ย 70% ทั้งนี้ โครงการที่เพิ่งเปิดขายในปี 49 มียอดขายเฉลี่ยสูงกว่า 60% เล็กน้อย ทั้งนี้ ราคาขายเฉลี่ยสำหรับคอนโดฯในเขตกรุงเทพฯชั้นใน ณ เดือนมกราคม 50 อยู่ที่ 80,020 บาทต่อตารางเมตร ปรับเพิ่มขึ้นจากมกราคมปี 49 11% และหากเทียบช่วง 2 ปี (2548-2549) ราคาขายปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 10% แต่เป็นการปรับขึ้นที่ล้าลงเมื่อเทียบกับปี 2546 ที่มีราคาปรับขึ้น 27% และปี 47 ปรับขึ้น 30%
สำหรับแนวโน้มตลาดคอนโดฯในช่วง 3 ปีข้างหน้า จะมีคอนโดฯสร้างเสร็จใหม่มีจำนวนค่อนข้างสูง คือ เฉลี่ยปีละ 6,150 หน่วย เทียบกับช่วงระหว่างปี 2547-2549 มีคอนโดฯสร้างเสร็จเฉลี่ยปีละ 3,460 หน่วย ดังนันผลที่จะตามมา คือ การแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งในโครงการใหม่และโครงการเก่าที่ผู้ซื้อปล่อยขายห้องชุดออกมา และผู้ซื้อจะมีอำนาจในการต่อรองราคา ขณะที่ด้วยสภาพเศรษฐกิจจะทำให้ความต้องการซื้ออ่อนลง ทำให้การปรับราคาขึ้นมีความเป็นไปได้น้อยลง แต่โอกาสที่ผู้ประกอบการจะดั๊มพ์ราคาลง เป็นไปได้น้อยเช่นกัน
|