เมื่อตอนผมตัดสินใจทำนิตยสาร Asia, Inc. ประมาณปลายปี 2534 นั้นผมทำไปเพราะมีความเชื่อว่าการทำหนังสือพิมพ์ในเมืองไทยในอนาคตนั้นระบบข่าวสารข้อมูลจำเป็นต้องมีความเป็นเครือข่ายมากขึ้น
และระบบเครือข่าย (Network) ที่ผมกำลังพูดถึงนี้หาได้จำกัดเฉพาะภายในประเทศเท่านั้น
แต่ต้องมีที่ต่างประเทศด้วย
"ผู้จัดการ " เป็นกลุ่มหนังสือและสื่อที่มุ่งไปยังผู้อ่านที่มีคุณภาพเป็นคนรุ่นใหม่
"ใหม่ " ไม่ใช่เพราะเป็นคนอายุน้อย แต่ "ใหม่ " เพราะยอมรับในพลวัตของการเปลี่ยนแปลง
"ใหม่ " เพราะไม่ยอมเชื่ออะไรง่ายๆ ยิ่งถ้าออกมาจากรัฐบาลแล้วยิ่งต้องตั้งคำถามมากขึ้น
ผมไม่เคยคิดว่า "ผู้จัดการ " จะประสบผลสำเร็จได้เพราะตัวผม หน้า ที่ผมต้องพัฒนาคน
ต้องสร้างระบบก่อตั้งเครือข่ายให้โอกาสนักหนังสือพิมพ์รุ่นใหม่ได้มีโอกาสแสดงฝีมือ
คนรุ่นผมต้องเก็บตัวซ่อนอยู่ข้างหลังเป็นครูบาอาจารย์ให้ผู้ที่ต้องการเข้ามาเรียนรู้เรื่องนี้
เป็นพี่ให้รุ่นน้องได้รับคำแนะนำที่ดี และปกป้องเขาเมื่อถูกข่มขู่
ทศวรรษนี้เป็นทศวรรษแห่งการเผชิญหน้ากันของพลังเก่าและพลังใหม่ ยุคนี้ไม่ใช่เป็นยุคของ
"ผู้จัดการ " โดยนายสนธิ แต่เป็นยุค "ผู้จัดการ " ของข้อมูลที่ต้องมีเครือข่ายที่ต้องใช้ให้เป็น
"ผู้จัดการ " วันนี้ ลงทุนเพื่ออนาคตไปมากโดยไม่โอ้อวด และเตรียมพร้อมที่จะรับยุคใหม่ของข้อมูลและข่าวสาร
สังคมไทยในทศวรรษที่ผ่านมาก็มีพลวัตการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ปัญหาของชาติบ้านเมืองและเหตุการณ์สำคัญๆ
เริ่มจะมีความสัมพันธ์โดย ตรงและอ้อมกับโลกใบกลมๆ ใบนี้ ข้อมูลที่มาตีพิมพ์นั้นเราจะพึ่งพาอาศัยเฉพาะข่าวต่างประเทศเพียงอย่าง
เดียวก็ไม่ได้ เพราะข้อมูลประเภทนั้นเป็นข้อมูลแนวกว้าง และจะไม่เกี่ยวข้อง
กับเหตุการณ์ในประเทศไทย
ปัญหาของภูมิภาคนี้ถูกสื่อมวลชนที่ชาติตะวันตกครอบครองละเลย ไม่สามารถเข้าถึงแก่นแท้ได้
จึงมีช่องว่างทำให้เกิด Asia, Inc. ขึ้นมา
การเกิดขึ้นของ Asia, Inc. นอกจากจะทำหน้าที่รายงานพลวัตของการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงของภูมิภาคนี้
ให้คนเอเชียด้วยกันเข้าใจแล้ว ก็ยังเป็นการเสริมเครือข่ายที่ทาง "ผู้จัดการ
" สามารถจะนำมาใช้ได้อย่างเต็มศักดิ์ศรีด้วยความภาคภูมิใจว่าเป็นของเราเอง
Marc Perton จบเศรษฐศาสตร์ที่ Harvard อาชีพคร่ำหวอดอยู่ในวงการ Research
ของสื่อมวลชนใน New York Marc Perton ถูกจ้างมาทำงานกับ Asia, Inc. ที่ Hong
Kong ด้วย เงื่อนไขที่ว่า เขาต้องมาช่วยผมจัดตั้งเครือข่ายข้อมูลเหมือนอย่างที่
Times หรือ Newsweek มีอยู่ให้ได้
นอกจากนั้นเขายังถูกกำหนดให้ฝึกอบรมคนเอเชียด้วยกันซึ่งมีทั้งฮ่องกง อินเดีย
เกาหลี และคนไทยที่กำลังทำงานแผนก Research ของ Asia, Inc. ให้เป็นงานและสามารถสานต่อได้ด้วยฝีมือของคนเอเชียด้วยกัน
Asia, Inc. กำลังจะครบรอบ 1 ปีในเดือนกรกฎาคมนี้ ยอดจำหน่ายที่เริ่มต้นด้วยจำนวน
40,000 ฉบับ ก้าวขึ้นไปเป็น 60,000 ฉบับ เฉลี่ยหน้าโฆษณาฉบับละ 26.5 หน้า
จำหน่ายใน 12 ประเทศในพื้นภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในออสเตรเลีย และในเมืองใหญ่ทางฝั่งตะวันตกและตะวันออกของสหรัฐอเมริกา
เครือข่ายของ Asia, Inc. ก็คือเครือข่ายของ "ผู้จัดการ "
เมื่อ "ผู้จัดการ " มีปุจฉากับการซื้อขายข้าวในต่างประเทศตามข้อมูลที่รัฐบาลได้แถลงมา
เราก็สามารถจะใช้เครือข่ายของ Asia, Inc. ทั้งฮ่องกง รอตเตอร์ดัม และในเจนีวา
เพื่อตรวจสอบดูข้อเท็จจริง ภายในเวลาไม่ถึง 6 ชั่วโมง เอกสารต่างๆ ถูกส่งออกมาจาก
Fax (ซึ่งก็เป็นเครื่องมือในการกระจายข่าวโจมตีกันได้เช่นเดียวกัน) มาถึงเรา
"ผู้สื่อข่าว " ของ Asia, Inc.ในยุโรป บินจากแฟรงก์เฟิร์ตเข้ารอต เตอร์ดัม
เพื่อสัมภาษณ์กรรมการผู้จัดการของบริษัทปีเตอร์เซ่นซ้ำสอง เพื่อยืนยันข้อมูลที่รัฐบาลโต้ว่า
เราอาจจะสัมภาษณ์ผิดบริษัทและผิดคน เครือข่ายเราติดต่อไปยังสวิตเซอร์แลนด์จึงพบว่าบริษัทยูโร
อะกริ อิงค์ นั้นเป็นบริษัทผีไม่มีตัวตนในสวิตเซอร์แลนด์ ตามที่รัฐบาลอ้างว่าบริษัทนี้มี
ที่อยู่ในสวิตเซอร์แลนด์
จนกระทั่งกรมการค้าต่างประเทศต้องตัดใจเอาข้อมูลใหม่มาบอกว่าบริษัทยูโร
อะกริ อิงค์ นั้นแท้ที่จริงแล้วเป็นบริษัทกระดาษ จดทะเบียนในปานามา และไม่ต้องสงสัยว่าเครือข่ายของเราก็คงจะตามไปเช็กที่ปานามาอีก
การเล่นกับข้อมูลนั้นมันสนุก
ยิ่งถ้าข้อมูลที่เรารู้ว่าเราได้มันมาอย่างถูกต้องแล้วตรงข้ามกับข้อมูลของอีกฝ่าย
มันยิ่งสนุกถ้ามันเป็นเกมเท่านั้น
แต่มันเศร้าและสลดใจถ้ามันเป็นเรื่องของประเทศชาติ
เพราะมันมีแต่คำถามแต่ไม่มีคำตอบ
ดร.อำนวย และกรรมการพิจารณาข้าวรู้เรื่องหรือเปล่า!
ถ้าไม่รู้แล้วใครชงเรื่องส่งขึ้นไป
แล้วข้อมูลที่แถลงให้ประชาชนทราบจะแก้ตัวว่าอย่างไร?
คำว่าโปร่งใสหายไปไหน?
คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตอบให้ที!
คุณอลงกรณ์ พลบุตร คุณอาคม เอ่งฉ้วน คุณพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล ช่วยแก้ตัวแทนรัฐบาลทีเถอะ!
หรือการเป็นส.ส.นั้นเป็นได้เพียงแค่ออกมาเสนอหน้าปกป้องนายกฯ เท่านั้น Information
is Power
"ผู้จัดการ " เชื่อในประโยคข้างบน
เราเป็นหนังสือพิมพ์ธุรกิจอันดับหนึ่งของประเทศ มีผู้อ่านเกือบ 400,000
คนที่เป็นคนมีความรู้ มีการศึกษา มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง มีความคิดอ่าน
เป็นของตนเอง
เราเป็นสื่อมวลชนคนไทยกลุ่มแรกและกลุ่มเดียวที่เป็นเจ้าของ และ ผู้จัดทำสื่อภาษาอังกฤษที่ขายในภูมิภาคนี้ที่พิสูจน์ว่าพวกเราชาว
"ผู้จัดการ " ก็ทำหนังสือภาษาอังกฤษเป็นเช่นกัน และทำแข่งกับชาวตะวันตกได้ดีด้วย
เราไม่จำเป็นต้องไปโอ้อวดกับสาธารณชน เพื่อความโด่งดังหรือเป็นบุคคลประเภทหลงตัวเอง
เราชาว "ผู้จัดการ " มีแต่ความนอบน้อมถ่อมตัวและเราทำงานกันเป็นทีมทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เพราะเรามีความเชื่อมั่น
ความเชื่อมั่นของเราทำให้เราต้องยืนหยัดฝ่าคลื่นลมมานับครั้งไม่ถ้วน
เราไม่สนใจกับการอิจฉาตาร้อนของคนอื่น
เพราะเราเชื่อมั่นมาเสมอ และมันทำให้เรามีพลังที่จะทำงานต่อไป
ทั้งนี้เพราะเราเชื่อมั่นว่า "Knowledge to use Information is Power "
หมายเหตุ บทความนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกใน น.ส.พ.ผู้จัดการรายวัน วันที่ 28 มิถุนายน
2536