เปิดแผนนักลงทุนยุควิกฤต ทางออกต้องเบนเข็มลงทุนจับแหล่งท่องเที่ยวที่จะมาเป็นขุมทรัพย์ชิ้นงามต่อไป “จังซีลอน” มองผลระยะยาวจัดอีเว้นต์ กระทุ้งยอด ล่าสุด ดึงไบค์ วีค จัดงานใหญ่ หวังเรียกทราฟฟิก เพิ่มค่าใช้จ่ายกลุ่มลูกค้า ผลักยอดโตปีละ 5%
นายประวิทย์ จรรยาสิทธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท ภูเก็ตสแควร์ จำกัด เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของการเปิดตัวศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต ในวันที่ 8 – 9 เมษายน 2550 ที่จะถึงนี้ ทางบริษัทฯได้เตรียมงบประมาณสำหรับการจัดงานเปิดไว้กว่า 15 ล้านบาท
โดยในช่วงเวลาการจัดงานครั้งนี้ จะมีรูปแบบในการจัดงานโดยจะเน้นการจัดทำอีเว้นต์ หรือการทำตลาดแบบที่แตกต่างจากการทำตลาดทั่วไป เพื่อให้สอดรับกับโพชิชั่นนิ่งของศูนย์ที่เน้นจับกลุ่มนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งมีการจัดการแสดงในแต่และช่วงเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งนับว่าจะเป็นแม่เหล็กสำคัญในการสร้างแรงกระตุ้นต่อกลุ่มลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ
สำหรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ จากพื้นที่เช่าภายในศูนย์รวมกว่า 7,500 ตารางเมตรนั้น ได้มีการจองไปแล้ว 90% และเริ่มทยอยเปิดร้านค้าอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2549 ซึ่งขณะนี้มีจำนวนร้านค้าเข้ามาเช่ามีทั้งหมด 170 ร้านค้า คิดเป็น 70 -75 % ของพื้นที่ทั้งหมด และในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ พื้นที่ในส่วนของฟู้ดคอร์ด, ซูเปอร์สปอร์ต, โรบินสัน และโรงภาพยนตร์ เอสเอฟ จะเปิดให้บริการได้ทั้งหมด ส่วนพื้นที่ที่เหลือหรือโซนต่างๆจะทยอยเปิดให้ครบทุกพื้นที่ และคาดว่าจะขายพื้นที่เช่าได้อย่างสมบูรณ์ในเดือนกันยายนนี้อีกด้วย
ล่าสุดในช่วงเดือนเมษายน บริษัทฯยังมีกิจกรรมการจัดสร้างอีเว้นต์รองรับช่วงไฮซีซั่นอีก ด้วย นั้นคือ การจัดงาน “ภูเก็ต ไบค์ วีค 2007” ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นปีที่ 13 ของแก็งค์ฮาเลย์ จากประเทศต่างๆ อาทิ ประเทศมาเลเซีย สิงค์โปร์ อินโดนีเซีย และประเทศไทย ซึ่งคาดว่างานนี้จะเป็นทั้งการเปิดตัวงานที่ศูนย์ฯจะสามารถสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักกับกลุ่มลูกค้า และคาดว่าจะมีมอเตอร์ไซค์มาโชว์ถึง 3,000 คัน เชื่อได้ว่าจะมีผู้คนให้ความสนใจได้เป็นอย่างมาก และอนาคตทางศูนย์ฯยังเล็งเห็นถึงช่องทางการขยายกิจกรรมอีเว้นต์ต่างๆเข้ามาทำตลาดในระดับอินเตอร์ต่อไปด้วย
นายประวิช กล่าวต่อว่า ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีทัศนียภาพซึ่งเป็นจุดเด่น และดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากถึง 5.2 ล้านคนต่อปี ดังนั้น "จังซีลอน" จึงมีความพร้อมในทุกๆด้าน เชื่อว่าโครงการนี้จะได้รับผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักท่องเที่ยว"
พร้อมกันนี้บริษัทฯเชื่อว่าพาทเนอร์จากกลุ่มผู้ประกอบการที่เล็งหาช่องทางในการทำตลาดน่าจะมองในการลงทุนจับกลุ่มนักท่องเที่ยวมากขึ้น เนื่องจากหลีกหนีปัจจัยเสี่ยงและการแข่งขันที่รุนแรงดังนั้นธุรกิจใหม่ๆที่น่าสนใจผู้ประกอบการน่าจะหันมาให้ความสนใจกับการลงทุนในเมืองท่องเที่ยวมากขึ้น เช่นเดียวกับศูนย์ฯที่สามารถเป็นทางเลือกใหม่ๆในการลงทุน
นอกจากนี้ในการเปิดศูนย์การค้า และการจัดทำอีเว้นต์ บริษัทยังมีกิจกรรมอื่นๆอีก อาทิ การจัดโชว์น้ำพุ การแสดงละครทุกๆวัน วันละ 3 รอบ และจัดกิจกรรมดึงดูดลูกค้าตลอดเพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจกลุ่มลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้การจัดทำกิจกรรมดังกล่าว คาดว่าจะสามารถเรียกทราฟฟิกของจำนวนลูกค้าและเพิ่มการจับจ่ายมากขึ้น จากในปัจจุบันค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยของลูกค้าจะอยู่ประมาณ 4,000 – 4,500 บาทต่อครั้งต่อบิล
“บริษัทฯคิดว่าจากการวางแผนการทำตลาดโดยการจัดสร้างกิจกรรมจับกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นหลักมาถูกทิศทางแล้ว การจัดวางยุทธ์ศาสตร์จะเป็นตัวขับเคลื่อนการทำยอดขายได้เป็นอย่างดี โดยในส่วนของยอดรายได้แม้ว่าพื้นที่ขายจะไม่สมบูรณ์มากนัก แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯเชื่อว่ายอดขายจากค่าเช่าพื้นที่ ครึ่งปีแรก จะมีรายได้กว่า 250 ล้านบาท คิดเป็น 50% หลังจากนั้นคาดว่าในปีถัดไป รายได้ต่อปีจะสามารถเติบโตขึ้นปีละ 5% ได้อย่างแน่นอน” นายประวิช กล่าวในที่สุด
|