Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2550








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2550
ก้าวอย่าง "มั่นคง"             
โดย ณัฐวัฒน์ หอมจิตต์
 

 
Charts & Figures

ผลการดำเนินงานบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน)


   
www resources

โฮมเพจ มั่นคงเคหะการ

   
search resources

มั่นคงเคหะการ, บมจ.
ชวน ตั้งมติธรรม
Real Estate




มั่นคงเคหะการคาดสถานการณ์ปีนี้จะดีขึ้น หลังปีที่ผ่านมาเจอปัญหาลูกค้าชะลอการซื้อ เนื่องจากความไม่มั่นใจในปัญหาทางการเมือง เตรียมเปิด 3 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 1,600 ล้านบาท

ผลดำเนินงานปีที่ผ่านมาของบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ลดลงจากปี 2548 ทั้งรายได้และกำไร สอดคล้องกับสภาพธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวมที่มีการชะลอตัวลงจากปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองและสภาพเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกที่จะชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยออกไปก่อน

จึงไม่น่าแปลกใจที่ยอดรายได้ของมั่นคงฯ ในปีที่ผ่านมาจะลดลงเกือบ 15% จาก ปี 2548 โดยลดจาก 2,371 ล้านบาท เหลือ 2,019 ล้านบาท เช่นเดียวกับกำไรสุทธิที่ลดลง ถึง 42% จาก 713 ล้านบาท เหลือเพียง 408 ล้านบาท โดยสาเหตุสำคัญมาจากตัวเลขกำไร จากการปรับโครงสร้างหนี้ที่ลดลง 226 ล้านบาท (ดูรายละเอียดผลการดำเนินงานจากตารางประกอบ)

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารมั่นคงฯ มั่นใจ ว่าปีนี้สถานการณ์น่าจะพลิกกลับดีขึ้น เนื่อง จากความไม่แน่นอนต่างๆ มีแนวโน้มจะคลี่คลายไปในทางที่ดี ประกอบกับแนวโน้ม อัตราดอกเบี้ยอยู่ในทิศทางปรับตัวลง ซึ่งเป็น ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้ดีขึ้น ด้วยเหตุนี้มั่นคงฯ จึงเตรียม เปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ 3 โครงการด้วยกัน ได้แก่ เรสซิเด้นซ์พาร์ค 5 ชวนชื่นซิตี้ บริเวณ ถนนรามอินทรา มูลค่าโครงการ 100 ล้านบาท โครงการชวนชื่นอุดมสุข มูลค่า 400 ล้านบาท และโครงการชวนชื่น ประชาอุทิศ บริเวณถนน ประชาอุทิศ มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีโครงการเดิมที่ยังเปิดขายอยู่อีก 14 โครงการ เมื่อรวมกับ 3 โครง การที่เปิดใหม่จะมีจำนวนรวม 5,000 ยูนิตคิดเป็นมูลค่าประมาณ 13,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมียอดขายในปีนี้ประมาณ 2,300 ล้านบาท และเป็นยอดรับรู้รายได้ราว 2,000 ล้านบาท

โครงการชวนชื่นอุดมสุขเดิมจะสร้างเป็นคอนโดมิเนียมที่พักอาศัย ซึ่งจะเป็นการสร้างคอนโดมิเนียมแห่งที่สองของมั่นคงฯหลังจากโครงการปทุมวันเพลซ บริเวณเชิงสะพานหัวช้างที่ก่อสร้างเมื่อปี 2528 อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงความเหมาะสมของทำเล ประกอบกับสภาพการแข่งขันในตลาดคอนโดมิเนียมในปัจจุบัน ทำให้ผู้บริหารมั่นคงฯ ตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบโครงการเป็น บ้านแฝดแทน

"จุดเด่นตรงนั้นคือติดกับวงแหวนรอบนอก ไปบางนา-ตราดก็ใกล้ ไปอุดมสุข อ่อนนุชก็ได้ แต่ว่าจะห่างจากถนนที่มีรถเมล์วิ่งมากกว่า 1 กิโลเมตร ไม่เหมาะจะขึ้นคอนโดมิเนียม เพราะต้องนั่งรถมอเตอร์ไซค์หรือรถสองแถว เพราะฉะนั้นเราก็เห็นว่าขึ้นเป็นบ้านจัดสรรจะดีกว่า" ชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร มั่นคงฯ ให้เหตุผล

นอกจากนี้ข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหา ริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขจำนวนที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่เป็นคอนโดมิเนียมมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นทุกปี สวนทางกับตัวเลขบ้านจัดสรรที่มีจำนวนลดลง โดยข้อมูล ณ ไตรมาส 3 ปีที่แล้วระบุว่า คอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จมีจำนวน 18,053 หน่วยเพิ่มขึ้นจากปี 2548 ถึง 65% ขณะที่จำนวนบ้านจัดสรรที่สร้างเสร็จมีจำนวน 24,590 หลังลดลงจากปี 2548 ถึง 31%

ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนที่ได้จากการสำรวจของธนาคารอาคารสงเคราะห์พบว่า ความต้องการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ อาคาร พาณิชย์มีสัดส่วนถึง 70% แต่มีความต้องการ คอนโดมิเนียมเพียง 13% เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม มั่นคงฯ ยังไม่ปิดโอกาส ในการขึ้นโครงการคอนโดมิเนียมไปเสียทีเดียว ชวนบอกว่า หากได้ที่ดินใกล้แนวรถไฟฟ้าในระยะห่างจากสถานีไม่เกิน 1 กิโลเมตรก็พร้อม ที่จะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม

"ตอนนี้เราก็สนใจและดูอยู่ แต่ก็ต้องเลือกสรรทำเลอย่างพิถีพิถันหน่อย"

มั่นคงเคหะการเริ่มต้นจากการเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในต่างจังหวัด เมื่อปี 2500 ในชื่อ มั่นคงสถาปัตย์ โดยรับเหมาก่อสร้างทั้งบ้าน อาคาร พาณิชย์ ตลาดสดและโรงแรม มีตลาดหลักอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากนั้นขยับขยายมาทำธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง เป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับสินค้าจากต่างประเทศและในประเทศ จนกระทั่งในปี 2520 จึงตัดสิน ใจเข้ามาทำธุรกิจบ้านจัดสรรในกรุงเทพฯ

ประสบการณ์ในด้านงานก่อสร้างจากธุรกิจรับเหมาบวกเข้ากับความรู้ที่มีในด้านการค้าวัสดุ ช่วยให้ชวนมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมต้นทุนให้อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นได้ ทำให้เขาตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเริ่มต้นธุรกิจใหม่

"สมัยนั้นหมู่บ้านจัดสรรสร้างแบบเดียวกันหมดเลยทั้งแถว คนที่จะเข้าไปหาต้อง รู้บ้านเลขที่ ไม่งั้นเข้าไม่ถูก ไม่รู้ว่าอยู่หลังไหน ของเราเป็นรายแรกที่เอาแบบบ้านหลายแบบมาอยู่โครงการเดียวกันแล้วสร้างสลับกัน ทำให้ แตกต่างจากหมู่บ้านทั่วไปก็เลยทำให้ขายดี"

มั่นคงเคหะการผ่านยุครุ่งเรืองและตกต่ำของเศรษฐกิจมาหลายรอบ ตั้งแต่ครั้งราชาเงินทุน การลดค่าเงินบาทสมัย พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ เข้าสู่ยุคทองของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในสมัยนายกฯ ชาติชาย ที่ธุรกิจนี้รุ่งเรืองขนาดที่ว่าถ้าสนใจที่ดินแปลงไหน ต้องซื้อเลย เพราะถ้ากลับไปคิด วันรุ่งขึ้น กลับมาอีกทีก็มีคนซื้อไปแล้ว จนกระทั่งวิกฤติ เศรษฐกิจครั้งใหญ่ในปี 2540

อาจด้วยประสบการณ์เหล่านี้ที่ทำให้ชวนขยายกิจการมั่นคงฯ อย่างระมัดระวัง ถึง แม้จะมีภาระหนี้อยู่กว่า 2,500 ล้านบาทแต่ส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีอยู่เกือบ 4,500 ล้านบาททำให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุน (debt/equity ratio) ของมั่นคงฯ อยู่ที่ระดับ 0.57 เท่า ต่ำเป็นอันดับต้นๆ ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

"เราคิดว่าการก้าวเต็มฝีก้าวอย่างไม่หยุดยั้งจะให้ผลเร็วกว่าการก้าวกระโดด ซึ่งอาจมีการสะดุดล้มในบางครั้งบางคราว" ชวน กล่าวถึงคติที่เขาใช้ในการดำเนินธุรกิจ

ปัจจุบันชวนอายุย่างเข้า 70 ปี เขาเริ่ม ถ่ายงานบางส่วนให้กับทีมงาน โดยเฉพาะลูกชายและลูกสาวที่เริ่มมีบทบาทในบริษัทมากขึ้น โดยชูเกียรติ ตั้งมติธรรม ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการ ตลาด และชุติมา ตั้งมติธรรม ตำแหน่งผู้ช่วย กรรมการผู้จัดการ สายบัญชี-การเงิน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us