ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองที่นับวันมีแต่จะตกต่ำนั้น อาจเป็นเรื่องที่กดดันมากพอสมควรสำหรับนักลงทุนรายย่อยในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งไม่มีทางเลือกอื่นมากนัก นอกจากสาละวนอยู่กับการเก็บหุ้นหรือทิ้งหุ้นในพอร์ตให้ได้อย่างรวดเร็ว ตามกระแสข่าวร้ายที่มักจะเกิดขึ้นมากกว่าข่าวดีในช่วงหลังๆ มานี้

ไม่เหมือนนักลงทุนกระเป๋าหนัก ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เอสซีบี ควอนซ์ ที่ตอนนี้สามารถนำเงิน บางส่วนที่คาดว่าน่าจะใหญ่พอประมาณ เพื่อซื้อนวัตกรรมการลงทุน ตัวใหม่ ภายใต้ชื่อกลุ่มผลิตภัณฑ์ BAND เพื่อนำมาบริหารความเสี่ยง ตามมุมมองของผู้ลงทุนในสภาพความไม่แน่นอนที่กำลังปิดล้อมตลาดหุ้นในเวลานี้

ผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ตระกูล BAND ซึ่งเอสซีบี ควอนซ์ เพิ่งประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากทดสอบใช้จริงในกลุ่มลูกค้ามาแล้วก่อนหน้านี้ เป็นเครื่องมือ บริหารความเสี่ยงใหม่ที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเดือนกันยายนปีก่อน ที่ได้เปิดตัวนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบอนุพันธ์ ซึ่งใช้หุ้นในตลาดฯ มาเป็นตัวอ้างอิงการลงทุน หรือหุ้นเทียมใน 10 รูปแบบ

สำหรับกลุ่ม BAND นี้ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ 4 ประเภท ได้แก่ Band, Zeppelin, Submarine ซึ่งทั้ง 3 รูปแบบนี้กำหนดระยะเวลาการลงทุนไว้ที่ 6 เดือน และ Home Run 3 เดือน โดยมูลค่าการลงทุนขั้นต่ำกำหนดไว้ที่ 5,000,000 บาทต่อรายการธุรกรรม

ด้านนโยบายการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 นี้ ยังมุ่งเน้นความยืดหยุ่นในการจัดพอร์ตของนักลงทุนที่ต้องการบริหารความเสี่ยง โดยกำหนดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายภายในเวลาเดียวกัน โดยครอบคลุมทั้งตราสารหนี้ระยะยาว, เงินฝากระยะยาว, ตราสารอนุพันธ์ และหุ้น โดยผู้ลงทุนยังสามารถกำหนดกรอบความผันผวนของ ดัชนีตลาดหุ้นได้ตามมุมมองของตัวเอง ภายใต้ระดับการคุ้มครองเงินต้นสูงสุด 100% และผลตอบแทนสูงสุดที่ต้องการ

เช่น กรณีที่ผู้ลงทุนมีมุมมองเชิงลบและคาดว่าดัชนีตลาดฯ มีแต่จะลดลงแล้ว Home Run อาจเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผู้ที่มีมุมมองนี้ ตามข้อมูลการลงทุนของเอสซีบีควอนซ์ ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2550 ระบุว่า ผู้ลงทุนสามารถกำหนดกรอบดัชนีได้ที่ -5% และระดับการคุ้มครองเงินต้นที่ 95% เป้าหมายผลตอบแทนสูงสุดในการลงทุนจะอยู่ที่ 12% ต่อปี

หรือผู้ลงทุนที่มีมุมมองไม่ชัดเจนและคาดว่าดัชนีฯ อาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็ได้อาจจะเลือกลงทุนใน Band ซึ่งกำหนดกรอบความ ผันผวนของดัชนีไว้ที่ +/-10% แต่ให้ผลตอบแทนสูงสุดเท่ากับ 29% ต่อปีก็ได้

ทั้งนี้ บลจ.เอสซีบี ควอนซ์ กิจการในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งมุ่งเน้นทำธุรกิจบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลเป็นการเฉพาะนั้น ปัจจุบันก้าวขึ้นเป็นบริษัทฯ ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร จัดการอันดับ 13 ด้วยมูลค่ารวม 2,200 ล้านบาท จากจำนวนลูกค้า ที่เปิดบัญชีการลงทุนไว้แล้วประมาณ 200 บัญชี แต่ที่ Active จริงๆ นั้นมีเพียง 60 บัญชี