|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ เมษายน 2550
|
|
พลาดเป้าหมายไปกว่าหมื่นล้านบาทในปี 2549 ทำให้กลุ่มเซ็นทรัล ที่ตั้งความหวังไว้ว่าจะเห็นยอดขายทั้งเครือขยับขึ้นมาเป็น 1 แสนล้านบาท โดยประธานกรรมการบริหาร บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล สุทธิชัย จิราธิวัฒน์ บอกว่า ตลอดปี 2549 เกิดความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ความขัดแย้งทางการเมือง ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดภาคใต้ น้ำท่วม ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ถือว่าเป็นปีที่ยากมากในการทำธุรกิจ
"สิ่งที่น่าห่วงที่สุดคือ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดต่ำลงตลอด และมีผลต่อธุรกิจโดย ตรง ทำให้เราต้องปรับแผนรองรับการเปลี่ยน แปลงตลอดทั้งปี เพื่อให้วิกฤติผ่านพ้นไป รวมถึงต้องการเติบโตให้กับกลุ่มด้วย"
ในความเป็นจริงแล้วผู้บริหารของกลุ่มเซ็นทรัลทั้งหมด มองตัวเลขยอดขายรวมเกิน 1 แสนล้านบาทในปีที่ผ่านมา ไม่ใช่เรื่องที่เกินเลยความสามารถ เพราะการเติบโตของกลุ่มตลอด 9 ปีต่อเนื่อง ยอดขายเติบโตเป็นเลข 2 หลักทุกปี เมื่อรวมกับวาระ 60 ปีในการก่อตั้ง
ไม่มีรางวัลไหนยิ่งใหญ่ไปกว่ายอดขาย 1 แสนล้านบาท
บริษัทของไทยยอดขายเกิน 1 แสนล้านบาท สามารถนับจำนวนได้
เมื่อพลาดไป สุทธิชัยบอกว่าจะทำให้ได้ในปีนี้ โดยตั้งเป้าหมาย ว่าจะเติบโตประมาณ 10.4% มียอดขายประมาณ 100,350 ล้าน บาท เขาเชื่อมั่นว่าปีนี้เหตุการณ์ต่างๆ น่าจะคลี่คลายไปได้ด้วยดี การเมืองจะมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น อัตราการว่างงานต่ำ น้ำมันลด ดอกเบี้ยทรงตัว
แต่นั่นก็แค่คาดการณ์ ส่วนของจริงเป็นอย่างไร ต้องรอพิสูจน์ กันอีกครั้งหนึ่ง
ถึงอย่างไรกลุ่มเซ็นทรัลก็ยังวางแผนการลงทุนไว้อย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ตั้งงบลงทุนไว้สูงถึง 19,000 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วที่ตั้งไว้ 16,000 ล้านบาท แต่ใช้ไปแค่ 13,000 ล้านบาท
งบลงทุนส่วนใหญ่ของปีนี้ 51% จะใช้ไปในการลงทุนด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผ่านบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา ที่มีทั้งการเปิด สาขาใหม่และปรับปรุงบางสาขา ส่วนค้าปลีกใช้เงินลงทุน 28.4% ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ส่วนที่มีงบลงทุนเพิ่มขึ้นก็คือกลุ่มโรงแรม ที่ได้เงินไปถึง 17.7%
เมื่อแยกรายละเอียดของการลงทุนในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ สุทธิชัยให้รายละเอียดว่า จะมีการกลับมาทำโครงการต่อของหลายๆ แห่งที่ประกาศไปแล้ว เช่น แจ้งวัฒนะ พัทยา ชลบุรี ขอนแก่น และ น่าจะต้องรวมโครงการที่ดินโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการสวนลุมไนท์บาซาร์เข้าไปด้วย เพราะเซ็นทรัลได้สิทธิ์เข้าไปบริหารเรียบร้อยแล้ว
ในส่วนของธุรกิจโรงแรม ที่ต้องใช้เงินเพิ่มขึ้น สาเหตุหลักน่า จะมาจากวาระการต่อสัญญาเช่าที่ดินจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ในแปลงเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ที่ครบกำหนดในช่วงต้นปี 2551 แต่การเจรจาต้องแล้วเสร็จในปีนี้ คาดว่าค่าใช้จ่ายส่วนนี้ต้องเพิ่มขึ้นจากเดิม รวมไปถึงโรงแรมที่จะเกิดขึ้นในโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ ก็ต้องใช้เงินไม่น้อยเช่นกัน
สุทธิชัยพูดถึงโครงการลงทุนในต่างประเทศด้วยว่า ยังเดินหน้า ศึกษาอยู่ทั้งในจีน เวียดนาม อินโดนีเซีย แต่ทั้งหมดก็ยังเป็นแค่เพียง การเจรจา ยังไม่มีการลงทุนที่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไรนัก ช่วงนี้ก็เลยชะลอออกไปก่อน
แต่ที่น่าสนใจก็คือ การยึดครองทำเลใหญ่ๆ ตั้งแต่สวนลุม สถานทูตอังกฤษ เซ็นทรัลเวิลด์ สามจุดหลักที่เหมือนรูปสามเหลี่ยมดักลูกค้าไปแล้ว แต่หากพิจารณาจากรูปโลโกของกลุ่มเซ็นทรัลที่เป็นรูปวงกลม ผู้บริหารเซ็นทรัลอาจจะต้องหาที่แปลงใหม่เพิ่ม เพื่อทำให้สามเหลี่ยมเป็นวงกลมก็ได้
|
|
|
|
|