Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน27 มีนาคม 2550
ธปท.จี้บสก.ขาย-ประนอมหนี้เพิ่ม 'บรรยง'ครวญศก.ซบหวั่นหลุดเป้า             
 


   
search resources

บรรษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์การ - BAM
บรรยง วิเศษมงคลชัย




กองทุนฟื้นฟูฯ กดดันบสก.เร่งหารายได้เพิ่มขึ้น ล่าสุดได้ข้อสรุปตัวเลขเป้าหมายการขายและประนอมหนี้ใหม่ที่ระดับ 1.2 หมื่นล้านบาท จากเดิมกองทุนฟื้นฟูฯ ตั้งเป้าให้ได้ 1.4 หมื่นล้านบาท ขณะที่บสก.เสนอไป กว่า 1.1 หมื่นล้านบาท เหตุหวั่นผลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเป้าหมายรายได้น้อยลง ขณะเดียวกันคาดเม.ย.นี้คืนเงินกองทุนฟื้นฟูฯในรูปเงินปันผลเกือบ 700 ล้านบาท

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) หรือ BAM เปิดเผยถึงผลการหารือร่วมกันระหว่างบสก.และคณะกรรมการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินในการปรับเป้าหมายการขายและประนอมหนี้ใหม่จากเดิมที่บสก.เสนอตัวเลขไปที่ 11,260 ล้านบาท ขณะที่กองทุนฟื้นฟูฯ ตั้งเป้าให้ได้ 14,000 ล้านบาทสำหรับปีนี้ว่า บสก.ได้ชี้แจงว่าเป้าหมายที่กองทุนฟื้นฟูฯต้องการเป็นไปได้ยากในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ ได้มีมติปรับเป้าหมายการขายและการประนอมหนี้เหลือ 12,000 ล้านบาท ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวนอกจากจะได้วัดจากยอดจำหน่ายทรัพย์แล้วยังนำผลกำไรมารวมด้วย

“จากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ปีนี้ทั้งปีคงหวังอะไรได้ยาก ซึ่งหากทางกองทุนฟื้นฟูฯ ยังคงยืนยันเป้าหมายเดิมที่ตัวเลข 1.4 หมื่นล้านบาท ก็อาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายและทิศทางการประนอมหนี้ของบริษัทได้ รวมทั้งการดำเนินงานในช่วง 5 ปีข้างหน้าด้วย จึงจำเป็นต้องเข้ามาชี้แจงให้กองทุนฟื้นฟูฯ พิจารณาตัวเลขใหม่ ซึ่งในที่ประชุมก็เข้าใจดี และปรับให้เหลือ 12,000 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นการคิดกำไรเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เพื่อวัดประสิทธิภาพการทำงานของบสก. ซึ่งที่ผ่านมาบสก.ก็มีกำไรตลอด จึงเชื่อว่าจะไม่มีปัญหา”กรรมการผู้จัดการใหญ่กล่าว

กรรมการผู้จัดการใหญ่ บสก. กล่าวว่า แม้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึง ณ วันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา บสก.จะมีทรัพย์ใหม่ๆ เข้ามามากเมื่อเทียบกับปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นการรับโอนเอ็นพีเอจากสมาคมธนาคารไทยที่มีธนาคารพาณิชย์จำนวน 10 แห่งเกือบ 1 หมื่นล้านบาท และได้รับโอนเอ็นพีแอลจากบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย(บตท.) จำนวน 2.5 พันล้านบาท แต่ทรัพย์เหล่านี้ต้องผ่านกระบวนการปรับสภาพทรัพย์ก่อนออกจำหน่าย ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทก็ได้เน้นปรับปรุงสภาพทรัพย์ก่อนออกจำหน่าย เพราะจะช่วยให้สามารถขายทรัพย์ได้เร็วขึ้น และราคาค่อนข้างดี

ทั้งนี้ บสก.คาดว่าสิ้นเดือนมี.ค.นี้บริษัทจะมีรายได้จากการขายเอ็นพีเอและเจรจาประนอมเอ็นพีแอลจากลูกหนี้ได้ประมาณ 700 ล้านบาท ถือว่าเฉลี่ยกับรายได้ที่ได้รับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยเดือนม.ค.ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้กว่า 800 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับเดือนก.พ.กลับลดลงเหลือ 500-600 ล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทำให้รายได้ลดลง โดยเฉพาะทรัพย์ประเภทการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ก็ขายได้ยากขึ้นด้วย

นอกจากนี้ หลังจากที่บสก.มีการชำระคืนหนี้และทุนให้แก่กองทุนฟื้นฟูฯ งวดสุดท้าย 4.1 หมื่นล้านบาท เมื่อสิ้นเดือนส.ค.49 ที่ผ่านมา และในเดือนเม.ย.ปีนี้ บสก.จะคืนเงินในรูปจ่ายปันผลจำนวน 700 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5%ของทุนจดทะเบียน ซึ่งปัจจุบันกองทุนฟื้นฟูฯ ถือหุ้นประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาทของทุนจดทะเบียน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us