Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน20 มีนาคม 2546
สนง.ทรัพย์สินฯสุดปลื้มปูนใหญ่ปันผลพันล้าน             
 


   
search resources

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา




นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เปิดเผยผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาว่ามีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยมาจากเงินปันผลในส่วนที่สำนักงานทรัพย์สินฯไปถือหุ้นในบริษัทต่างๆ คิดเป็นเงิน 360 ล้านบาท ที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆซึ่งส่วนใหญ่มาจากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์

อย่างไรก็ดี สำหรับปีนี้ นอก จากสำนักงานทรัพย์สินฯจะได้รับเงินปันผลประจำปี 2545 จากบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) ประมาณ 1,000 ล้านบาทแล้ว ในวันที่ 1 เมษายนนี้ ทางบริษัท ดุสิตธานี จำกัด(มหาชน)ก็จะครบกำหนดชำระค่าเช่างวดแรก จำนวน 360 ล้านบาท

ตามที่ได้ลงนามในสัญญา ต่ออายุการเช่าที่ดิน 12-15 ไร่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมดุสิตธานี ต่อไปอีก 15 ปี โดยดุสิตธานีได้ตกลง ชำระค่าเช่าล่วงหน้า 15 ปีเป็นเงิน 1,100 ล้านบาท แบ่งการชำระออกเป็น 3 งวด โดยงวดที่สองจะชำระภายในวันที่ 1 เมษายน 2547 จำนวน 360 ล้านบาท และอีก 380 ล้านบาทในวันที่ 1 เมษายน 2548

ทั้งนี้ เงื่อนไขในสัญญาเดิมระบุว่าผู้เช่ามีสิทธิต่อสัญญาเช่าได้ 2 ครั้งๆละ 15 ปี ภายหลังครบกำหนด สัญญาเช่า 30 ปีแรก ซึ่งคิดค่าเช่าแค่ปีละประมาณ 20 ล้านบาท และกำลังจะครบกำหนดในวันที่ 31 มีนาคม ที่จะถึงนี้

ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินฯกล่าวต่อไปว่า การลงทุน ที่ถือว่าเป็นธุรกิจหลักยังคงนโยบาย เดิม 3 บริษัท ได้แก่ ปูนซิเมนต์ ไทยฯ ธนาคารไทยพาณิชย์ และ เทเวศประกันภัย

"ขณะนี้เราถือหุ้นปูนซิเมนต์ 31% สำหรับเทเวศประกันภัยก็เป็น บริษัทเดียวที่จ่ายเงินปันผลมาตลอดโดยปีนี้ก็ปันผลหุ้นละ 8 บาท ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ก็คาดว่าจะปันผลได้ปี 47 ภายหลังจากล้างขาดทุนสะสมได้หมดภายในเดือนมีนาคมนี้ โดยสำนักงานทรัพย์สินฯได้เตรียมความพร้อมที่จะเข้าไปซื้อหุ้น ในส่วนที่กระทรวงการคลังถืออยู่ โดยจะซื้อเพิ่มในสัด ส่วน 13% เพื่อให้สัดส่วนการถือหุ้น อยู่ในระดับ 25-26% ส่งผลให้กระ ทรวงการคลังซึ่งปัจจุบันถือหุ้นอยู่ 38% เหลือ 25% แต่ทั้งนี้ยังต้องมีการหารือในรายละเอียด"

ค่าเช่าจากหน่วยงานรัฐเพิ่มก้าวกระโดด

สำหรับนโยบายในส่วนของที่ดินของสำนัก งานทรัพย์สินฯที่ให้หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจเช่า ซึ่งเป็นผู้เช่าพื้นที่และอาคารในส่วนกลางร้อยละ 30-40 ของพื้นที่เช่าส่วนกลางทั้งหมดหรือคิดเป็นเนื้อที่ประมาณ 3,400 ไร่ นั้น

ม.ร.ว.ยงสวาสดิ์ กฤดากร รองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินฯกล่าวว่า สัญญาเช่าส่วนใหญ่ที่ได้ทำกับหน่วยงานเหล่านี้เป็นสัญญาดั้งเดิม ดังนั้นอัตราค่าเช่าจึงต่ำมาก บางสัญญาคิดค่าเช่าตารางวาละ 1 บาท ต่อปีก็มี ยกตัวอย่างเช่น สัญญาเช่าของสำนัก งานตำรวจแห่งชาติ สี่แยกราชประสงค์ พื้นที่ 75 ไร่ คิดค่าเช่าเดือนละ 56,010 บาทหรือตารางวาละ 2 บาทต่อเดือนเท่านั้น

ดังนั้นก่อนปี 2543 สำนักงานทรัพย์สินฯจึงมีรายได้จากค่าเช่าจากหน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจเพียง 70 ล้านบาท แต่ต่อมาเมื่อรัฐบาลมีการปรับปรุงระเบียบการใช้ที่ราชพัสดุ จึงมีการทบทวนความเหมาะสม และจากการว่าจ้างบริษัทเอกชนมาสำรวจและประเมินราคาพบว่าอัตราค่าเช่าที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ ร้อยละ 2 ของมูลค่าที่ดินที่เช่าสำหรับ หน่วยงานราชการ และร้อยละ 3 สำหรับรัฐวิสาหกิจ

เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่องบประมาณของทางราชการจึงได้มีการทยอยปรับค่าเช่าเพิ่มโดยเริ่มจากอัตราร้อยละ 0.2 ในปี 2544 จนถึงร้อละ 2 ในปี 2549 เมื่อปรับค่าเช่าจนไปถึงร้อยละ 2 แล้ว ก็จะประเมินมูลค่าที่ดินใหม่ หากมูลค่าที่ดินเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นหรือลดลงอัตราค่าเช่าก็จะก็จะปรับเปลี่ยนไปตามความเป็นจริง

"ปัจจุบันหน่วยงานราชการกว่าร้อยละ 80 ได้มาทำสัญญาเช่าใหม่แล้ว โโยขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นที่ 2 ของอัตราค่าเช่า และกำลังก้าวไปสู่ขั้นที่ 3 คือร้อยละ 1 ผลจากการดำเนินการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้สำนักงานทรัพย์สินฯมีรายได้เพิ่มจาก 70 ล้าน มาเป็น 115 ล้านบาทและอยู่ในระดับ 300 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา"

สำหรับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.รัฐวิสาหกิจที่ได้รับงบประมาณทั้งหมด จากรัฐบาล และ2.รัฐวิสาหกิจที่ได้รับเงินอุดหนุนบางส่วน อย่างไรก็ตาม ยังมีรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่บางแห่งที่สามารถรับภาระได้ เช่น องค์การโทรศัพท์ และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

หากรัฐวิสาหกิจแห่งใดที่ไม่สามารถดำเนินตาม อัตราค่าเช่าใหม่ได้ สำนักงานทรัพย์สินฯก็จะพิจารณา ผ่อนปรนตามความสามารถ และจะเปิดโอาสให้เข้ามาเจรจาเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงและปัญหาต่อไป

ที่ดินเข้าตาดิสเคานต์สโตร์

สำหรับที่ดินแปลงใหญ่ของสำนักงานทรัพย์สินฯบริเวณสะพานขาว 2 แปลง ซึ่งกำลังเป็นที่น่าจับตาว่าใครจะเข้ามาจับจองพื้นที่นี้ คือที่ดิน 17 ไร่แปลงโรงหนังแอมบาสเดอร์เก่า และฝั่งตรงข้ามบริเวณโรงหนังปารีสเก่าอีก 19 ไร่ รวมแล้วกว่า 30 ไร่ โดยคาดกันว่าน่าจะเป็นอีกเป้าหมายหนึ่งที่บรรดา ดิสเคานต์สโตร์ต่างจ้องมองอยู่

ช่วงที่ผ่านมาก็มีบรรดากลุ่มทุนหลายรายที่เสนอตัวเข้ามาจะพัฒนาพื้นที่ แต่ก็ยังไม่มีรูปแบบที่ชัดเจนเพียงพอ ทางสำนักงานทรัพย์สินฯจึงยังไม่ตัดสินใจ และไม่รีบร้อนทางสำนักงานทรัพย์สินฯก็มีโครงการที่จะจัดระเบียบการใช้ที่ดินบริเวณนี้ใหม่ แต่ คงไม่ถึงกับไปไล่รื้อผู้เช่าเดิม ซึ่งเวลานี้ก็มีการเช่า อยู่กันต่อแต่เป็นระยะสั้น

"มีแค่สองแปลงเท่านั้นที่มีค้าปลีกต่างชาติเข้ามาเช่าพื้นที่จากสำนักงานทรัพย์สินฯ นอกจากนี้ยังไม่มีเลย ซึ่งเราเองก็ไม่ได้เน้นในจุดนี้เท่าใด อยู่ที่ว่าใครเสนอเงื่อนไขโครงการมาเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและผลประโยชน์ที่เรารับได้" จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหา กษัตริย์ กล่าว

โครงการที่มีความชัดเจนแล้วคือ ที่ดินบริเวณ ที่แยกเจริญผล ซึ่งเป็นที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินกว่า 15 ไร่ ทางเทสโก้โลตัสได้ทำการเซ็นสัญญาเช่าที่ดินไปแล้วนาน 30 ปี เมื่อกลางปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังมีผู้เช่าเดิมของสำนักงานทรัพย์สินฯ อยู่ต่อ ซึ่งมีสัญญาระยะสั้นหลังจากที่มีการเจรจากันแล้วแค่ 18 เดือน ผ่านไปแล้ว 8 เดือน เหลืออีก 10 เดือน เมื่อผู้เช่าเดิมย้ายออกหมด ทางสำนักงานทรัพย์สินฯจะส่งมอบที่ดินให้กับเทสโก้โลตัสและจึงเริ่มนับสัญญาตั้งแต่ได้รับส่งมอบที่ดิน

อีกแห่งคือ บิ๊กซี ติวานนท์ ซึ่งบิ๊กซีเช่าที่จากสำนักงานฯแค่ประมาณ 4-5 ไร่เท่านั้นนอกนั้นเป็นที่ดินที่เป็นเอกชนรายอื่นที่บิ๊กซีไปดำเนินการเอง จากทั้งหมด 20 กว่าไร่

ส่วนโครงการสวนลุมไนท์บาร์ซา ก็เป็นสัญญา ระยะสั้นแค่ 3 ปี ซึ่งใกล้จะครบสัญญาในปีนี้แล้ว ก็เป็นอีกทำเลหนึ่งที่สำนักงานฯมีแผนจะพัฒนาให้มีความคุ้มค่ากับพื้นที่กว่า 127 ไร่ รวมไปถึงสามารถที่จะพัฒนาเชื่อมต่อกับที่ดินของรัฐบาลโดยเฉพาะย่านศูนย์ประชุมเพื่อให้เกิดศักยภาพร่วมกัน

ปัจจุบันสำนักงานทรัพย์สินฯมีผู้เช่าทั่วประเทศ ประมาณ 35,000 ราย จำแนกเป็นผู้เช่าในกรุงเทพฯ 22,000 ราย และต่างจังหวัดประมาณ 13,000 ราย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us