|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ธุรกิจกล้องวงจรปิดโหมทำตลาด ในยุคที่ภัยก่อการร้ายในไทยเกิดขึ้น เจ้าของแบรนด์ FUJIKO เร่งทำตลาด หวังผลักดันความเป็นผู้นำเฉพาะในธุรกิจ CCTV ขยายตลาดไปสู่ลูกค้าทั่วไป-ตัวแทนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด พร้อมมองโอกาสขยายตลาดไปสู่ประเทศลาว พม่า ระบุยอดขายปีนี้น่าจะสูงกว่าปี 2549 ฟุ้งภายใน 15 ปี แบรนด์FUJIKO จะครอบคลุมทั่วเอเชีย
จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ทั้งเรื่องเหตุการณ์ในทางภาคใต้ รวมถึงการลอบวางระเบิดที่เกิดขึ้นหลายจุดในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ยิ่งทำให้ความมั่นคงในชีวิติและทรัพย์สิน เริ่มลดน้อยลง และมีความพยายามในการก่อกระแสเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบในกรุงเทพฯอย่างต่อเนื่อง แต่ในความเสี่ยงที่เกิดขึ้น กลับพบว่า มีบางธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้น อย่างธุรกิจการให้บริการระบบกล้องวงจรปิด ที่ตลาดกลุ่มนี้มีมูลค่ามหาศาล ซึ่งผู้ประกอบการที่อยู่ในแวดวงนี้ มีหลากหลาย แต่เป็นลักษณะของการให้บริการผสมเข้าไปกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่ผู้ประกอบการที่ทำตลาดทางด้านระบบวงจรปิดแบบครบวงจรในตลาดมีเพียงไม่กี่ราย ล่าสุดผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายระบบกล้องวงจรปิดครบวงจร ภายใต้แบรนด์ FUJIKO CCTV ได้เดินหน้าในการทำให้ธุรกิจของบริษัทมีมูลค่ามากขึ้น
นายเจษฏาภรณ์ จันทน์เกษร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส.จี.ดี อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้นำเข้า จำจำหน่าย ติดตั้ง และให้บริการระบบกล้องวงจรปิดแบบครบวงจร ที่ดำเนินธุรกิจด้านรักษาความปลอดภัยมาเป็นเวลากว่า 15 ปี โดยในปีนี้ ทางบริษัทได้กำหนดนโยบายอย่างชัดเจน ในการสร้างแบรนด์ FUJIKO ให้เป็นที่ยอมรับของกลุ่มลูกค้าและบริษัทมากยิ่งขึ้น โดยจะตอกย้ำในความเป็นผู้เชี่ยวชาญในCCTV และเป็นการเพิ่มกำลังซื้อในตลาดให้มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทต้องการ
" ในอดีตคนไทยให้ความสำคัญกับCCTVน้อยมาก มีบางธุรกิจที่ใช้ เช่น สาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ร้านทอง และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดส่วนนี้เติบโตขึ้น ทำให้รูปแบบในการใช้CCTV เปลี่ยนไปตามตลาดต่างประเทศ เนื่องจากสามารถนำระบบCCTV ไปประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการองค์กรได้ ส่งเสริมประสิทธิภาพในแต่ละหน่วยงาน แม้แต่ลูกค้าทั่วไป ก็เริ่มนำCCTVไปติดตั้ง ที่แปลกก็คือ เจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจดูคนงาน ลูกค้า นั่นหมายความว่า CCTV สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั้งตลาดบน กลางและล่าง "นายเจษฏาภรณ์กล่าว
ซึ่งตลาดของบริษัท จะเน้นตลาดระดับกลางและอาจจะลงไปถึงระดับล่าง เนื่องจากตลาดในกลุ่มนี้ยังมีแนวโน้มที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนตลาดบนนั้น ทางบริษัทจะใช้วิธีการอาศัยคู่ค้าในการขายสินค้า โดยการจำแนกกลุ่มลูกค้านั้น อาจจะใช้มูลค่าของสินค้าหากมีวงเงินที่สูง ก็จะเป็นตลาดบน แต่ถ้าเป็นโครงการจัดสรร ก็อาจจะเป็นตลาดระดับล่าง เนื่องจากมูลค่าขายไม่สูง เป็นต้น
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฯกล่าวว่า ในปี 2550 ทางบริษัทประเมินว่าตลาดกล้องวงจรปิดจะโตขึ้นมากๆ ทำให้คาดว่ายอดขายของบริษัทจะโตกว่า 2 เท่า โดยในปี 2549 บริษัทมียอดขายประมาณ 200-300 ล้านบาท เติบโตจากปี 2548 ประมาณ 20% ขณะที่บริษัทมีศูนย์กระจายสินค้า 13 แห่ง และมีต้วแทนจำหน่ายอยู่ในต่างจังหวัด อนึ่ง สินค้าของบริษัทจะพึ่งพาโรงงานในไต้หวัน และเกาหลี ในการนำสินค้ามาจัดจำหน่ายและให้บริการแบบครบวงจร
"ช่วงนี้น่าจะเป็นจังหวะเหมาะ เพราะค่าเงินบาทแข็ง ทำให้บริษัทเร่งนำเข้าสินค้ามาสต๊อกไว้ เพื่อง่ายต่อการทำตลาด และบริหารต้นทุน "นายเจษฏาภรณ์กล่าว
สำหรับตลาดในต่างประเทศนั้น บริษัทก็ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศลาว พม่า ซึ่งสินค้าของบริษัทจะเป็นการขายผ่านไปยังผู้ร่วมค้า เนื่องจากประชาชนในประเทศนั้นๆ เริ่มให้ความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์มากขึ้น ทั้งนี้ ทางบริษัทได้วางแนวทางธุรกิจภายใน 15 ปี สินค้าแบรนด์FUJIKO จะครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชีย
|
|
|
|
|