บอร์ด ทอท.มีมติสัญญาคิงเพาเวอร์โมฆะตั้งแต่แรกทั้งดิวตี้ฟรีและร้านค้า เหตุไม่ปฎิบัติตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน ปี 35 หลังกฤษฎีกาวินิจฉัยการคำนวนมูลค่าโครงการเกิน 1,000 ล้านบาท เตรียมหารืออัยการ ก่อนทำหนังสือแจ้งคิงเพาเวอร์เพื่อความรอบคอบ บอร์ด 6 คน พัวพันการอนุมัติ ไม่ร่วมพิจารณา

พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยภายหลังการประชุมวานนี้ ( 22 มี.ค.) ว่า ที่ประชุมมีมติให้สัญญาสัมปทานบริหารพื้นที่ร้านค้าปลอดภาษีและพื้นที่เชิงพาณิชย์ของสนามบินสุวรรณภูมิของบริษัท คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นโมฆะ ทั้ง 2 ส่วน หลังจากกฤษฎีกามีคำวินิจฉัยแนะนำในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 ซึ่งต้องปฎิบัติตามกฎหมาย ส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสัญญาดังกล่าว จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่างเช่นกัน โดยจะรายงานมติบอร์ดทอท.ต่อพล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทันที เพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบ เพื่อความรอบคอบ

ส่วนรายละเอียดและขั้นตอนการดำเนินการต่อไปนั้น จะต้องเรียบเรียงถ้อยคำและขั้นตอนให้ถูกต้องตามกฎหมายและรอบคอบ ซึ่งบอร์ดทอท.มีผู้เชี่ยวชาญในด้าน กฎหมาย สถาปนิก วิศวกร ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อไม้ให้มีผลกระทบต่อกิจการของทอท.ที่เป็นบริษัทมหาชน และไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนก ซึ่งการดำเนินการของบอร์ด เป็นการบริหารกิจการที่ดี และจะเป็นตัวอย่างที่ดีและสะสางสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

“ขอความเห็นใจบอร์ดชุดนี้ เพราะหลายเรื่องมีข้อกังขาด้านกฎหมาย การเสนอบอร์ดเพื่ออนุมัติใดๆ จึงยุ่ง และสิ่งที่จะอนุมัติไปหากไม่ชอบด้วยกฎหมายบอร์ดจะผิดด้วย จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษและหาหลักฐานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากกฤษฎีกา อัยการมาหารือด้วย”พล.อ.สพรั่งกล่าว

นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กรรมการและในฐานะโฆษก บอร์ด ทอท.กล่าวว่า บอร์ดมีมติว่าสัญญาระหว่างทอท.และคิงเพาเวอร์ทั้ง 2 ส่วน คือร้านค้าปลอดภาษีและพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่สุวรรณภูมิมีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาททั้ง 2 ส่วน และไม่ชอบด้วย พ.ร.บ. ร่วมทุน 2535 มีผลให้สัญญาที่มีอยู่เหมือนไม่มีมาตั้งแต่ต้นหรือเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น โดยให้ทอท.หารือกับอัยการสูงสุดกรณีที่จะทำหนังสือแจ้งไปยัง คิงเพาเวอร์ฯ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการตามมติบอร์ดดังกล่าว ขณะเดียวกันก็ให้แจ้งมติบอร์ดไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอครม.ต่อไป

ทั้งนี้ในการพิจารณาสัญญาคิงเพาเวอร์ดังกล่าว เนื่องจากมีกรรมการบอร์ดส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับสัญญานี้ เพราะเป็นบอร์ดเก่า ซึ่งได้แสดงความรับผิดชอบโดยการไม่เข้าร่วมในการพิจารณา ประกอบด้วยพล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รองเลขาธิการ สภาพัฒน์ รวมถึงนางกัลยา ผกากรอง รักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ด้วย

นายเจิมศักดิ์กล่าวว่า กรณีร้านค้าที่เป็นคู่สัญญากับคิงเพาเวอร์นั้น ต้องถือว่าเป็นสัญญาที่ไม่มีมาตั้งแต่ต้น ซึ่งบอร์ดยังไม่มีการพูดถึงรายละเอียด แต่ถือว่าร้านค้าไม่ได้เป็นคู่สัญญากับทอท.ด้วย ส่วนกรณีที่คิงเพาเวอร์จะฟ้องร้องทอท.นั้น เป็นเรื่องของเอกชน และบอร์ดไม่ได้วิตกเพราะมติดังกล่าวทำตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ตามที่กฤษฎีกาวินิจฉัยมานั้น ร้านค้าปลอดภาษีที่คิงเพาเวอร์ คำนวนที่ 5,000 ตารางเมตรนั้น ไม่ได้คำนวณรวมพื้นที่ของสนามบินเชียงใหม่และหาดใหญ่ด้วย ในขณะที่มีหลักฐานทางราชการที่คิงเพาเวอร์แจ้งต่อกรมศุลกากร ว่า มีพื้นที่ร้านค้าปลอดภาษีทั้งหมด 10,785 ตารางเมตร จึงเป็นเจตนายอมรับว่า มีพื้นที่เกิน 5,000 ตารางเมตร

แหล่งข่าวจากบอร์ด ทอท.กล่าวว่า กรรมการบอร์ด ทอท.บางส่วนไม่พอใจ เพราะเกรงว่าจะไม่สามารถหาข้อสรุปในการแก้ไขปัญหาสัญญาร้านค้าปลอดภาษีและพื้นที่เชิงพาณิชย์ของกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ตัดสินใจลำบาก เนื่องจากมีกรรมการ 6 ใน 15 คน เป็นกรรมการที่อยู่ในบอร์ดชุดเดิมและได้มีการอนุมัติสัญญาสัมปทานทั้ง 2 ฉบับให้กับคิงเพาเวอร์ ฯ โดยเฉพาะนายวุฒิพันธ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวย การสำนักงบประมาณเป็นกรรมการบอร์ดทั้งชุดเดิมและชุดปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นประคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติให้การดำเนินโครงการทั้งสองไม่ต้องปฏิบัติตาม พรบ.ร่วมทุน 2535 ด้วย

แหล่งข่าวจากบอร์ด ทอท.กล่าวว่า ทอท.ได้ส่งหนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้นายคัมภีร์ แก้วเจริญ อัยการอาวุโส ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายได้ศึกษารายละเอียดข้อมูลก่อนที่จะนำผลเข้ามาแจ้งในที่ประชุมบอร์ด ทอท. ซึ่งเรื่องนี้ในที่ประชุมบอร์ดได้มีการพิจารณาแล้วว่าหากผลการตีความของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาสรุปออกมาได้ว่า การอนุมัติดังกล่าวมีการหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตาม พรบ.ร่วมทุน 2535 จะถือว่าสัญญาดังกล่าวเป็นโมฆะ และมีกรรมการบางคนเห็นว่า จะต้องมีการยื่นเรื่องเพื่อฟ้องต่อศาลปกครองและให้ดำเนินการเพื่อเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจส่งผลต่อกรรมการบอร์ดบางคน รวมทั้งผู้บริหาร ทอท.อีกหลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง (เช่น นางกัลยา ผกากรอง หรือนายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) ที่อยู่ในคณะกรรมการที่พิจารณาเรื่องนี้

แหล่งข่าวจาก ทอท.กล่าวว่า ในวาระการประชุม มีการเสนอบอร์ดเพื่อทราบเรื่องผลกระทบจากการให้ข่าว โดยอ้างถึงนายสมบัตร เดชาพานิชกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทคิงเพาเวอร์ ได้ทำหนังสือถึงรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ลงวันที่ 26 ก.พ.2550 เพื่อขอความกรุณาจาก ทอท.ในการพิจารณาให้ข่าวเกี่ยวกับบริษัทฯเพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบในการประกอบธุรกิจซึ่งเป็นคู่ค้ากับทาง ทอท.มานาน ซึ่งเป็นผลมาจากมติบอร์ด ทอท.เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีมติส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่าสัญญาอนุญาตประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากร ว่าเข้าข่ายจะต้องดำเนินการตามพ.ร.บ.ร่วมทุน 35 หรือไม่ หากเข้าข่าย ทอท.จะยื่นเรื่องต่อศาลปกครองและขออำนาจศาลระงับสัญญา ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินและแหล่งทุนที่ให้การสนับสนุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศที่เป็นคู่ค้าของบริษัทฯ

แหล่งข่าว กล่าวว่า ทางบริษัทฯระบุว่า ไม่ขัดข้องต่อการให้ข่าวข้อเท็จจริงของ ทอท. แต่ขอความกรุณาและความเข้าใจจาก ทอท.ให้พิจารณาถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพนักงานของบริษัทฯ โดยเฉพาะกรณีที่ยังมิได้มีข้อยุติ รวมทั้งการที่บริษัทฯ ได้ร่วมงานกับ ทอท.ในการพัฒฯการให้บริการภายในสนามบินที่อยู่ในกำกับดูแลของ ทอท.มานานกว่า 10 ปี และยังเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมลงแรงกายใจและลงทุนอย่างไม่จำกัดในการพัฒนาร้านค้าปลอดภาษีและกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ