อาร์เอสลังเลทำธุรกิจทีวีดาวเทียม ขอดูสถานการณ์เศรษฐกิจและความพร้อมของตลาดอีกครั้ง บวกมีช่องทางการทำโทรทัศน์ดาวเทียมเพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีเพียง การได้สัมปทานจากลาวผ่านพันธมิตร โดย เพชรจำปา ด้านบริษัทลูก “อาร์เอสบีเอส” มุ่งดำเนินแผนร่วมแลการจัดงานซีเกมส์ครั้งที่ 25 ปี 2552 ที่ประเทศลาวเป็นเจ้าภาพเต็มกำลัง มั่นใจมีรายได้จากการจัดงานดังกล่าวประมาณ 85 ล้านบาท

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯได้สัมปทานสัญญาการทำธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมจากประเทศลาว ผ่านพันธมิตร คือ บริษัท เพชรจำปา จำกัด บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านแอดเวอร์ไทซิ่งรายใหญ่ จากประเทศลาว ซึ่งตามแผนของบริษัทฯนั้น ไตรมาสสองในปีนี้จะเริ่มดำเนินธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียม

“ระหว่างช่วงต้นปีที่ผ่านมา พบว่ากระแสการทำธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมในประเทศเริ่มมีหลายฝ่ายให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น ทำให้มองว่าขณะนี้มีหลายช่องทางที่สามารถดำเนินธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมได้ไม่ยาก จากเดิมที่บริษัทฯมีช่องทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าวเพียงช่องทางเดียวคือ การได้สัมปทานสัญญาการทำธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมจากประเทศลาว ผ่านพันธมิตร คือ บริษัท เพชรจำปา จำกัด ดังนั้นแผนการทำธุรกิจดังกล่าว อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเลื่อนกำหนดการดำเนินออกไปอีกก็เป็นไปได้ เพื่อเพิ่มเวลาให้บริษัทฯได้มีการคิดตัดสินใจที่จะเลือกใช้ช่องทางใดในการทำธุรกิจดังกล่าว”

นอกจากนี้ ในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน บวกกับสถานการณ์ความพร้อมของตลาดธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมก็ยังไม่แน่ชัดนั้น ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทางบริษัทฯยังไม่ตัดสินใจที่จะดำเนินธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมตามแผนที่วางไว้ด้วย เพราะไม่สามารถกำหนดเรื่องของงบประมาณของการทำธุรกิจดังกล่าวได้ว่า ควรจะใช้เท่าไรจึงจะเหมาะสมและคุ้มค่านั้นเอง

อย่างไรก็ตามทางบริษัทฯยังคงมีความร่วมมือกับทางบริษัท เพชรจำปา จำกัด กับการช่วยเหลือในเรื่องของการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 25 ในปี 2552 ที่ประเทศลาวเป็นเจ้าภาพ โดยทางบริษัทฯมอบหมายให้ทางบริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสต์ติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเมนต์ จำกัด หรือ อาร์เอสบีเอส ซึ่งเป็นบริษัทลูกแลในส่วนของธุรกิจด้านกีฬาเป็นผู้ดูแลให้

ด้านนายวรวุฒิ โรจนพานิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บอร์ดคาสต์ติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเมนต์ จำกัด หรือ อาร์เอสบีเอส กล่าวว่า ทางอาร์เอสบีเอส มีขอบข่ายการทำงานของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 25 นี้ คือ 1. ดูแลหารายได้และทำตลาดให้แบบครบวงจร 2. ดูแลในเรื่องของการถ่ายทอดสัญญาณถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬา และ3. ดูแลจัดการพิธีเปิดและพิธีปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ ซึ่งการรับดูแลจัดการจัดงานกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ ทางบริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้จากการบริหารรับจ้างการทำงานทั้งหมดประมาณ 85 ล้านบาท แบ่งได้เป็น ในส่วนของการับจ้าง 60 ล้านบาท และ 2.การดูแลพิธีเปิดและปิดการแข่งขันอีก 20 ล้านบาท

โดยการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ ทางบริษัทฯได้การันตีในเรื่องของรายได้ที่รัฐบาลลาวจะได้รับอย่างน้อยที่ 150 ล้านบาท จากจำนวนสปอนเซอร์ที่วางไว้กว่า 7 ราย คิดเป็นรายละประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งในขณะนี้สามารถหาได้แล้ว 5 ราย แต่สามารถเปิดเผยได้ 1 ราย คือ เบียลาว ส่วนอีก 4 รายยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจา นอกจากนี้ยังมีรายได้จากส่วนอื่นๆอีกเช่น การจำหน่ายสินค้าที่ระลึก เป็นต้น

อย่างไรก็ตามในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจของอาร์เอสบีเอสในปีนี้ ถือเป็นการเริ่มต้น ดังนั้นในแง่รายได้จึงยังไม่คาดหวัง แต่จะมุ่งเน้นในเรื่องการดำเนินธุรกิจมากกว่า โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้สิทธิในการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬายกน้ำหนักชิงแชมป์โลก ที่จะขึ้นที่เชียงใหม่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการได้สิทธิดังกล่าวคาดว่าจะสร้างรายได้กว่า 13 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทฯยังได้ยื่นเรื่องของสิทธิในการแข่งขันกีฬาอื่นๆในปีนี้อีกเช่น การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก, การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ปี 2550 ที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย และการแข่งขันฟุตบอลยูโร ซึ่งทั้ง 3 งานนี้ยังอยู่ในขั้นตอนยื่นเสนอไปอยู่ ยังไม่สามารุสรุปได้ว่าจะได้รับสิทธิในงานใดบ้าง