|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ดร.มาร์ติน หวั่นกำลังซื้อลูกค้า ช่วงไตรมาส 2 – 3 หายไปกว่า 15% เร่งเครื่องรับมือวิกฤติ ขยายสาขาอีก 4 แห่ง พร้อมจัดแคมเปญใหญ่พร้อมกันทั่วโลก หวังดึงกำลังซื้อลูกค้ากลับ ส่งยอดสิ้นปียังโต 20%
นางสุดา ทรงอุดมวัฒนา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โอ ที ที ฟุตแวร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรองเท้าพรีเมี่ยมภายใต้แบรนด์ ดร.มาร์ตินส์ จากประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทฯจะทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น ทั้งในแง่ของการขยายสาขาและการจัดทำกิจกรรมตามช่วงเวลารวมถึงการออกสินค้าใหม่เพื่อสอดรับกับความต้องการตลาด
เบื้องต้นได้จัดเตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 4 แห่ง ในช่วงกลางปี 2550 จากเดิมที่มีอยู่ 13 แห่ง โดยจะเปิดที่โรบินสัน 2 แห่ง สุขุมวิท และจังหวัดอุดรราชธานี และที่ เดอะมอลล์ บางกะปิ และที่เซ็นทรัล พระราม 2 โดยโลเกชั่นจะอยู่ในโซนขายมุมของแผนกชายทั้งหมด จากการขยายสาขาจะทำให้ดร.มาร์ตินมีสาขาทั้งหมด 17 สาขา ซึ่งคาดว่าจะสามารถจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น
ทั้งนี้บริษัทฯยังเตรียมออกคอลเลคชั่นเฉลี่ย 200 -300 รุ่น แบ่งเป็นสินค้ารุ่นใหม่ 20% และแบบดั้งเดิมอีก 80% เข้ามาทำตลาดเพิ่มอีก ทั้งนี้ในการนำสินค้าต่างๆเข้ามาทำตลาดบริษัทฯคาดว่าจะสามารถสร้างความหลากหลายให้กับกลุ่มลูกค้าได้
พร้อมกันนี้บริษัทฯยังได้ร่วมจัดทำแคมเปญใหญ่ ฉลองครบ 47 ปีของรองเท้าดร.มาร์ติน ที่จะจัดทำพร้อมกันทั่วโลกของบริษัทแม่จากประเทศอังกฤษ ซึ่งรูปแบบของแคมเปญจะให้ลูกค้าที่ซื้อรองเท้า 1 คู่ จะได้รับกุญแจ ดร.มาร์ติน 1 ดอก ที่มีรหัสเฉพาะในแต่ละกุญแจ เพื่อนำไปลุ้นรางวัล และไปตรวจสอบในเว็บไซต์ ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลจะได้ท่องเที่ยวตามเทศกาลในเอเชีย ทั้งนี้โปรโมชั่นดังกล่าวจะเริ่มพร้อมกันทั่วโลกวันที่ 1 เมษายน 2550 และหมดเขตในวันที่ 31 กรกฏาคม 2550
การจัดสร้างแคมเปญรวมทั้งการขยายสาขาและการนำคอลเลคชั่นใหม่เข้าทำตลาดบริษัทฯเชื่อว่าจะเป็นการสร้างแรงกระตุ้นให้กับลูกค้ามีความสนใจในแบรนด์มากขึ้น โดยจะสังเกตุได้ว่าแผนการทำตลาดทั้งหมดจะอยู่ในช่วงไตรมาส 2 -3 ซึ่งช่วงดังกล่าวจะเป็นช่วงที่กลุ่มลูกค้าลดค่าใช้จ่ายลงจากเดิมถึง 10-15% สาเหตุอันเนื่องมาจากอัตราการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลต้นปีและปลายปีจะมีมาก ดังนั้นการจัดแคมเปญใหญ่ครั้งแรกเชื่อว่าจะสามารถสร้างจุดดึงดูดให้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้บริษัทฯคาดหวังว่าภายในปีนี้จากแผนการทำตลาดที่เพิ่มมากขึ้นและการร่วมจัดแคมเปญใหญ่เป็นครั้งแรกของบริษัทฯแม่เองจะเป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นกลุ่มลูกค้าให้เข้าซื้อสินค้ามากขึ้น และบริษัทฯคาดว่ายอดขายในสิ้นปีจะมีการเติบโตขึ้นอีก 20% หรือมียอดขายรองเท้า 12,000 คู่ คิดเป็นมูลค่ากว่า 54 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดขายรองเท้าแคชวล 40% รองเท้าคลาสสิค 30% และรองเท้าทำงาน(Smart-working) 30%
|
|
|
|
|