|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โรงพยาบาลบางมด รุกหนักบุกธุรกิจศัลยกรรมความงามเต็มสูบ ทุ่มงบ 500 ล้านบาท สร้างศูนย์เสริมความงาม คาดอีก 2 ปีเปิดบริการ ตอบรับกระแสคนชอบทำศัลยกรรม เสริมอึ๋ม มากขึ้น พร้อมควัก 10 ล้านบาท ลงทุนซื้อเครื่องมือ เสริมศักยภาพ ประกาศลั่นสิ้นปีขอยอดรวมโต 20%
นางศรีวัฒนา อัศดามงคล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลบางมด เปิดเผยว่า โรงพยาบาลบางมดมีแผนที่รุกทำธุรกิจศัลยกรรมเสริมความงามให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเบื้องต้นได้จัดเตรียมงบประมาณไว้กว่า 400-500 ล้านบาทซึ่งเป็นการลงทุนของโรงพยาบาลเอง สำหรับการจัดสร้างศูนย์เสริมความงาม ซึ่งจะตั้งอยู่ในแถบพื้นที่ถนนย่านพระราม 2 ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลาอีก 2 ปี คาดว่าจะสามารถรองรับจำนวนลูกค้าได้มากถึง 2 พันคนต่อวัน ซึ่งจะตอบรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี
สำหรับสาเหตุที่จัดสร้างศูนย์ดังกล่าว เนื่องจากได้เล็งเห็นถึงการเติบโตของธุรกิจนี้มีมาโดยตลอด จากประสบการณ์ในการให้บริการกับกลุ่มลูกค้ามาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี ฐานลูกค้าที่เข้ามาในโรงพยาบาลมีจำนวนเพิ่มมาก โดยเฉพาะในระยะเวลา 5 ปีทีผ่านมา กลุ่มคนหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ต่อเนื่องไปจนถึงเรื่องของบุคลิกภาพความงาม ผู้คนส่วนใหญ่ต้องการให้เป็นที่ยอมรับและดูดีในทางสังคม ส่งต่อให้ธุรกิจเทคนิคการแพทย์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากอัตราการเติบโตในส่วนของโรงพยาบาลมีการโตโดยเฉลี่ย 10% ทุกปีจากตลาดส่วนนี้
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากกลุ่มศัลยกรรมความงามมีอยู่ 30% ของจำนวนรายได้ทั้งหมด โดยกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการด้านศัลยกรรมความงามในโรงพยาบาลแบ่งออกเป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย 70% และต่างชาติอีก 30% เฉลี่ยอัตราการค่าใช้จ่าย เริ่มต้น 10,000 – 100,000 บาทโดยส่วนใหญ่แล้วกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาทำศัลยกรรมจะอยู่ในกลุ่มคนทำงาน นักธุรกิจ และกลุ่มคนทั่วไป
ประเภทของการเข้ามาใช้บริการจะอยู่ในรูปแบบของการเสริมหน้าอก ดึงหน้า แก้ไขใต้ตา เป็นต้น ซึ่งเมื่อดูตัวเลขของการเติบโตของกลุ่มลูกค้าแล้วโรงพยาบาลยังมองว่ายังสามารถเติบโตได้อยู่อย่างต่อเนื่อง และจากแผนการเปิดศูนย์ศัลยกรรมใหม่เพิ่มขึ้นจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยผลักดันยอดรายได้ที่ได้จากกลุ่มเสริมความงามเพิ่มขึ้น เป็น 50% ได้ภายในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน
พร้อมกันนี้จากแผนการขยายตลาดศัลยกรรมให้มีความสมบูรณ์แบบเพิ่มมากขึ้น ยังมีกิจกรรมและการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ตลอดทั้งปี โดยได้จัดเตรียมงบสำหรับการใช้ทำตลาด 20% ของยอดรายได้รวม เพื่อเป็นการสื่อสารให้กับกลุ่มลูกค้าได้เข้าใจถึงกระบวนการและขั้นตอนในการจัดทำมากขึ้น เบื้องต้นได้เตรียมจัด 2- 3 แคมเปญ ทั้งนี้ช่วงปลายปี จะมีการจัดประกวด “มิสบิวตี้ฟูล” โดยการคัดเลือกจากหญิงสาวที่ผ่านการทำศัลยกรรมความงามเท่านั้น เพื่อหาฑูตความงามของโรงพยาบาล เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับความงามให้กับคนทั่วไป และเป็นตัวแทนในการสื่อการตลาดของโรงพยาบาล
นอกจากแผนการสร้างยอดรายได้จากธุรกิจศัลยกรรมเพื่อความงาม ทางโรงพยาบาลยังเตรียมปรับปรุงโรงพยาบาลในส่วนของกลุ่มผู้ป่วยทั่วไปที่เข้ามาใช้บริการ ปรับให้มีความพร้อมมากที่สุด ซึ่งขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการในส่วนของด้านหน้าของตึกอยู่ ทั้งนี้นอกจากการปรับปรุงส่วนตึกแล้ว ยังมีแผนการนำเครื่องมือทางการแพทย์เทคโนโลยีใหม่ที่ใช้สำหรับตรวจโรคต่างๆให้กับกลุ่มค้าเช่นเดียวกัน
ที่ผ่านมาโรงพยาบาลได้ลงทุนซื้ออุปกรณ์รวมทั้งเครื่องมือทางการแพทย์ ต่อปี เป็นจำนวนเงินกว่า 10 ล้านบาททุกปี ดังนั้นในการสั่งเข้าอุปกรณ์ใหม่ๆเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาระบบการตรวจให้สมบูรณ์และคาดว่าจะใช้งบเท่ากันเพื่อ รองรับจำนวนกลุ่มคนที่เข้ามาในโรงพยาบาลทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน
“แม้ว่าเศรษฐกิจค่อนข้างชะลอตัว แต่ทางโรงพยาบาล จะยังคงเดินหน้าทำตลาดต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาสแรกจะมีการจัดอีเว้นต์ใหญ่มากขึ้นการปรับปรุงและเพิ่มศักยภาพของเครื่องมือการแพทย์ที่มากขึ้น อีกทั้งการเติบโตในธุรกิจศัลยกรรมความงามยังเติบโตได้อยู่อย่างต่อเนื่อง คาดว่าในสิ้นปียอดรายได้รวมจะเติบโตได้กว่า 20%”
นางศรีวัฒนา อัศดามงคล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลบางมด เปิดเผยว่า โรงพยาบาลบางมดมีแผนที่รุกทำธุรกิจศัลยกรรมเสริมความงามให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเบื้องต้นได้จัดเตรียมงบประมาณไว้กว่า 400-500 ล้านบาทซึ่งเป็นการลงทุนของโรงพยาบาลเอง สำหรับการจัดสร้างศูนย์เสริมความงาม ซึ่งจะตั้งอยู่ในแถบพื้นที่ถนนย่านพระราม 2 ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลาอีก 2 ปี คาดว่าจะสามารถรองรับจำนวนลูกค้าได้มากถึง 2 พันคนต่อวัน ซึ่งจะตอบรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี
สำหรับสาเหตุที่จัดสร้างศูนย์ดังกล่าว เนื่องจากได้เล็งเห็นถึงการเติบโตของธุรกิจนี้มีมาโดยตลอด จากประสบการณ์ในการให้บริการกับกลุ่มลูกค้ามาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี ฐานลูกค้าที่เข้ามาในโรงพยาบาลมีจำนวนเพิ่มมาก โดยเฉพาะในระยะเวลา 5 ปีทีผ่านมา กลุ่มคนหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ต่อเนื่องไปจนถึงเรื่องของบุคลิกภาพความงาม ผู้คนส่วนใหญ่ต้องการให้เป็นที่ยอมรับและดูดีในทางสังคม ส่งต่อให้ธุรกิจเทคนิคการแพทย์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากอัตราการเติบโตในส่วนของโรงพยาบาลมีการโตโดยเฉลี่ย 10% ทุกปีจากตลาดส่วนนี้
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากกลุ่มศัลยกรรมความงามมีอยู่ 30% ของจำนวนรายได้ทั้งหมด โดยกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการด้านศัลยกรรมความงามในโรงพยาบาลแบ่งออกเป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย 70% และต่างชาติอีก 30% เฉลี่ยอัตราการค่าใช้จ่าย เริ่มต้น 10,000 – 100,000 บาทโดยส่วนใหญ่แล้วกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาทำศัลยกรรมจะอยู่ในกลุ่มคนทำงาน นักธุรกิจ และกลุ่มคนทั่วไป
ประเภทของการเข้ามาใช้บริการจะอยู่ในรูปแบบของการเสริมหน้าอก ดึงหน้า แก้ไขใต้ตา เป็นต้น ซึ่งเมื่อดูตัวเลขของการเติบโตของกลุ่มลูกค้าแล้วโรงพยาบาลยังมองว่ายังสามารถเติบโตได้อยู่อย่างต่อเนื่อง และจากแผนการเปิดศูนย์ศัลยกรรมใหม่เพิ่มขึ้นจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยผลักดันยอดรายได้ที่ได้จากกลุ่มเสริมความงามเพิ่มขึ้น เป็น 50% ได้ภายในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน
พร้อมกันนี้จากแผนการขยายตลาดศัลยกรรมให้มีความสมบูรณ์แบบเพิ่มมากขึ้น ยังมีกิจกรรมและการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ตลอดทั้งปี โดยได้จัดเตรียมงบสำหรับการใช้ทำตลาด 20% ของยอดรายได้รวม เพื่อเป็นการสื่อสารให้กับกลุ่มลูกค้าได้เข้าใจถึงกระบวนการและขั้นตอนในการจัดทำมากขึ้น เบื้องต้นได้เตรียมจัด 2- 3 แคมเปญ ทั้งนี้ช่วงปลายปี จะมีการจัดประกวด “มิสบิวตี้ฟูล” โดยการคัดเลือกจากหญิงสาวที่ผ่านการทำศัลยกรรมความงามเท่านั้น เพื่อหาฑูตความงามของโรงพยาบาล เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับความงามให้กับคนทั่วไป และเป็นตัวแทนในการสื่อการตลาดของโรงพยาบาล
นอกจากแผนการสร้างยอดรายได้จากธุรกิจศัลยกรรมเพื่อความงาม ทางโรงพยาบาลยังเตรียมปรับปรุงโรงพยาบาลในส่วนของกลุ่มผู้ป่วยทั่วไปที่เข้ามาใช้บริการ ปรับให้มีความพร้อมมากที่สุด ซึ่งขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการในส่วนของด้านหน้าของตึกอยู่ ทั้งนี้นอกจากการปรับปรุงส่วนตึกแล้ว ยังมีแผนการนำเครื่องมือทางการแพทย์เทคโนโลยีใหม่ที่ใช้สำหรับตรวจโรคต่างๆให้กับกลุ่มค้าเช่นเดียวกัน
ที่ผ่านมาโรงพยาบาลได้ลงทุนซื้ออุปกรณ์รวมทั้งเครื่องมือทางการแพทย์ ต่อปี เป็นจำนวนเงินกว่า 10 ล้านบาททุกปี ดังนั้นในการสั่งเข้าอุปกรณ์ใหม่ๆเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาระบบการตรวจให้สมบูรณ์และคาดว่าจะใช้งบเท่ากันเพื่อ รองรับจำนวนกลุ่มคนที่เข้ามาในโรงพยาบาลทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน
“แม้ว่าเศรษฐกิจค่อนข้างชะลอตัว แต่ทางโรงพยาบาล จะยังคงเดินหน้าทำตลาดต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาสแรกจะมีการจัดอีเว้นต์ใหญ่มากขึ้นการปรับปรุงและเพิ่มศักยภาพของเครื่องมือการแพทย์ที่มากขึ้น อีกทั้งการเติบโตในธุรกิจศัลยกรรมความงามยังเติบโตได้อยู่อย่างต่อเนื่อง คาดว่าในสิ้นปียอดรายได้รวมจะเติบโตได้กว่า 20%”
|
|
|
|
|