Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์26 มีนาคม 2550
เล็ง “จีน-อินเดีย-ยุโรปตะวันออก” ขยายครัวไทยฯ จับมือสถาบันอาหารทำ R&D เพื่อการส่งออก             
 


   
www resources

โฮมเพจ กรมส่งเสริมการส่งออก
โฮมเพจ สถาบันอาหาร

   
search resources

กรมส่งเสริมการส่งออก
Restaurant
สถาบันอาหาร




ปัดฝุ่นโครงการ “ครัวไทยสู่ครัวโลก” ตั้งเป้าขยายร้านอาหารไทยในต่างประเทศ 15,000 แห่งในปีนี้ และ 20,000 ร้านในปี 2551 พร้อมยกมาตรฐานร้านอาหารด้วยเครื่องหมาย Thai Select แก่ร้านค้าที่มีมาตรฐานและคุณภาพ เล็งเพิ่มขยายตลาดใหม่กลุ่มประเทศนิยมเที่ยวไทย “จีน-อินเดีย-ยุโรปตะวันออก” ขณะที่สถาบันอาหารเน้นเพิ่มศักยภาพ R&D เพื่อการส่งออก และทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

หลังจากที่ โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งให้มีการพิจารณาแนวทางดำเนินโครงการครัวไทยสู่ครัวโลกใหม่ (Kitchen to the World) โดยให้กระจายความรับผิดชอบไปหลายหน่ายงานตามความเหมาะสมเพื่อช่วยผลักดันให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรมดูแลด้านมาตรฐาน, กระทรวงพาณิชย์ดูแลการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารไทยไปตลาดต่างประเทศ, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูแลด้านวัตถุดิบล่าสุดอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออกได้เริ่มวางแผนโครงการครัวไทยสู่ครัวโลกอีกครั้ง เป้าหมายให้เกิดร้านอาหารไทยในต่างแดนวางไว้อยู่ที่เท่าใด ตลาดไหนบ้างที่จะเป็นอีกทางความหวังของร้านอาหารไทย

เพิ่มร้านอาหารไทย 1.5 หมื่นแห่ง

ราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวถึงความคืบหน้า “โครงการครัวไทยสู่ครัวโลก” ว่า ภายหลังจากที่กรมส่งเสริมการส่งออกและสถาบันอาหารได้ลงนามบันทึกความตกลงว่าด้วยความร่วมมือการถ่ายโอนกิจกรรมด้านการตลาดของโครงการครัวไทยสู่ครัวโลก ที่จะให้กรมส่งเสริมการส่งออกเป็นผู้ดำเนินการต่อไป ซึ่งกรมส่งเสริมการส่งออกได้ตั้งเป้าหมายการขยายตัวเชิงปริมาณปี 2550 จะสามารถสนับสนุนการขยายธุรกิจร้านอาหารไทยในต่างประเทศให้เพิ่มขึ้นเป็น15,000 แห่งและปีหน้าเพิ่มเป็น 20,000 แห่ง พร้อมทั้งพัฒนาคุณภาพมาตรฐานร้านอาหาร

นอกจากนี้ยังตั้งเป้าหมายการมอบเครื่องหมายมาตรฐาน Thai Select ให้แก่ร้านอาหารไทยในต่างประเทศให้ได้ 1,000 ร้านทั่วโลกในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจการส่งออกอาหารของไทยเพิ่มขึ้นถึงปีละประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกันยังตั้งเป้าหมายจะมีร้านอาหารไทยที่ได้รับเครื่องหมาย Thai Select เพิ่มเติมอีกประมาณ 400 ร้าน โดยปัจจุบันมีร้านอาหารไทยในต่างประเทศที่ได้รับ Thai Select ไปแล้วกว่า 650 ร้านทั่วโลก

“ตอนนี้อาหารไทยได้รับความนิยมในต่างประเทศมากเชื่อว่าติดอันดับ 1 ใน 3 ของอาหารที่ได้รับความนิยมของโลก จากนี้กรมจะรับผิดชอบด้านการตลาดส่วนในเรื่องของการพัฒนาผลิตภัณฑ์สถาบันอาหารจะรับผิดชอบเชื่อว่าการให้เครื่องหมาย Thai Select จะเป็นการรับประกันถึงคุณภาพมาตรฐานของร้านอาหารนั้นหากผู้บริโภคจะกินอาหารไทยก็ต้องไปร้านที่มีเครื่องหมายนี้”

เล็งเพิ่มร้านค้ากลุ่มนิยมเที่ยวไทย

อย่างไรก็ดีการขยายร้านค้าในต่างประเทศจะเน้นไปที่ตลาดหลักคือประเทศที่มีร้านอาหารไทยอยู่เป็นจำนวนมากเช่นสหรัฐ อังกฤษ เยอรมนี ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย โดยมุ่งเน้นการเพิ่มความถี่ของการใช้บริการร้านอาหารไทยรวมทั้งสนับสนุนให้มีการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานและการปรับปรุงฝีมือของพ่อครัวแม่ครัว ขณะที่ตลาดใหม่เน้นการบุกขยายตลาดเพื่อเพิ่มจำนวนการเปิดร้านอาหารไทยในรูปแบบต่างๆ เช่น การขยายสาขาแฟรนไชส์ และการร่วมทุนโดยดูจากอัตราการขยายตัวของนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางมาประเทศไทยจำนวนมากอาทิ ประเทศจีน, กลุ่มสแกนดิเนเวีย, ยุโรปตะวันออก, ประเทศรัสเซีย ประเทศอินเดีย และตะวันออกกลาง

สร้างเครือข่ายจับคู่ธุรกิจในต่างประเทศ

ส่วนในการสนับสนุนร้านอาหารไทยนั้นจะมุ่งสร้างมาตรฐานร้านอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักในต่างแดน โดยเฉพาะเรื่องของการรักษาคุณภาพของภัตตาคารไทย จะให้ทางสำนักงานส่งเสริมการค้าไทยในต่างประเทศทั้ง 58 แห่งทั่วโลกทำการโปรโมตร้านอาหารไทยเพื่อให้ต่างประเทศได้รู้จักมาตรฐานสินค้าอาหารไทย และจะนำไปสู่การส่งออกสินค้าอาหารและบุคลากร ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือสถาบันการศึกษาของไทยที่มีหลักสูตรเกี่ยวกับอาหารร่วมมือกับสถาบันการศึกษาต่างประเทศ จัดอบรมการทำอาหารไทยเมื่อเรียนจบแล้วจะได้ใบรับรองนำไปเป็นหลักฐานทำงานในร้านอาหารไทยได้แก้ปัญหาขาดแคลนพ่อครัว ซึ่งในเดือนเมษายนนี้สถาบันการศึกษาของไทยจะลงนามความตกลง (MOU) กับสถาบันการศึกษาของญี่ปุ่นเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว และจะขยายผลไปยังประเทศอื่นๆ อีก เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และบางประเทศในยุโรป

นอกจานี้ยังสนับสนุนการสร้างเครือข่ายจะดำเนินกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจร้านอาหารไทย และธุรกิจค้าส่งอาหารรวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกับธุรกิจในต่างประเทศ อาทิ ผลักดันให้มีการบริการเมนูอาหารไทย การใช้วัตถุดิบหรือเครื่องปรุงรสจากไทยในการปรุงเมนูอาหารสากล

สถาบันอาหารเพิ่มศักยภาพ R&D

ด้าน ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหารกล่าวว่า หน้าที่ของสถาบันฯ จะรับผิดชอบด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารโดยจะส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีการผลิต และบรรจุภัณฑ์อาหาร รวมทั้งสนับสนุนมาตรฐานและประสิทธิภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารเพื่อการส่งออกโดยประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อส่งเสริมการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งให้ข้อมูลชี้นำและเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาและเพิ่มความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมอาหาร โดยเน้นการเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันกับตลาดคู่แข่งที่สำคัญ คือ ประเทศจีนและเวียดนาม ที่ได้เปรียบในเรื่องของค่าจ้างแรงงานที่ถูกกว่าโดยขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบกับภาวการณ์ขาดแคลนแรงงานในทุกระดับทำให้ทางสถาบันอาหารวางแผนจับมือกับกรมอาชีวศึกษา เพื่อเร่งพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมอาหารเพื่อการส่งออก

อีกทั้งสถาบันอาหารยังได้ตั้ง“โครงการศูนย์สารสนเทศเพื่อการตัดสินเชิงกลยุทธ์อุตสาหกรรมอาหาร” หรือ Food Intelligence Center เพราะข้อมูลข่าวสารเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อใช้ในการตัดสินใจข้อมูลที่เหนือกว่าจะช่วยในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์และวางแผนที่ตรงตามสถานการณ์มากกว่าให้ความสำคัญในเรื่องของข้อมูลข่าวสารเพื่อนำมาปรับใช้ และส่งเสริมโครงการครัวไทยสู่โลกให้มีศักยภาพ และบรรลุเป้าหมายของไทยที่ทางรัฐบาลต้องการให้ไทยเป็นครัวของโลก

สร้างศูนย์เฝ้าระวัง-เตือนภัย

โดยได้จัดทำฐานข้อมูลเพื่ออุตสาหกรรมอาหารไม่ว่าจะเป็นข้อมูลกฎระเบียบมาตรฐานอาหารของประเทศคู่ค้าเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรป, ประเทศจีน, ประเทศญี่ปุ่น ประเทศสิงคโปร์, ประเทศเกาหลีใต้, ประเทศไต้หวัน, ประเทศฮ่องกง และประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, กฎระเบียบการขอจัดตั้งร้านอาหารในต่างประเทศ, กฎระเบียบมาตรฐานอาหารไทยสถิติการนำเข้า-ส่งออก, แบบรายปีและย้อนหลัง 11 ปี, ฐานข้อมูลความเคลื่อนไหวประจำวันจากหนังสือพิมพ์ในประเทศย้อนหลัง 3 ปี, ข้อมูลการแปรรูปอาหารสำหรับ SMEs, ข้อมูลเบื้องต้นสมุนไพรอาหาร และข้อมูลด้านพิษวิทยาเพื่อการประเมินความเสี่ยงในอาหาร

“เราต้องการให้เป็น One Stop Information โดยอยู่ในช่วงเริ่มทดลองใช้หลังจากได้พัฒนาเว็บไซด์มานานกว่า 3 ปีซึ่งขณะมีสมาชิกแล้วกว่า 2,700 รายเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีประมาณ 80% โดยมุ่งที่จะพัฒนาศูนย์สารสนเทศฯ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งช่วยเฝ้าระวังและแจ้งเตือนด้านมาตรการของคู่ค้าในแต่ละประเทศ ที่มีข้อบังคับการนำเข้าสินค้าประเภทอาหารที่แตกต่างกัน” ผอ.สถาบันอาหาร ระบุ

สำหรับงบประมาณในการดำเนินงานนั้นสถาบันอาหารได้รับงบประมาณผูกพันข้ามปีประมาณ 500 ล้านบาทในการดำเนินงานสนับสนุนส่งเสริมร้านอาหารไทยในต่างประเทศที่ผ่านมาเน้นโครงการฝึกอบรมสร้างมาตรฐานพ่อครัว-แม่ครัวไทยในต่างประเทศโดยดึงผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการศึกษาชั้นนำเช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เดินทางไปฝึกอบรมพ่อครัว-แม่ครัวไทยในต่างประเทศ ทั้งออสเตรเลีย เดนมาร์ก สวีเดน เป็นต้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us