|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นายศุภรัตน์ สิริสุวรรณางกูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โรงงานแห่งที่ 3 ของโตโยต้า ที่บ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ถือเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกปิกอัพโตโยต้า ไฮลักซ์สำคัญของโลก โดยเบื้องต้นมีกำลังการผลิตกว่า 1 แสนคัน จากการลงทุนมูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท
" นี่เป็นเพียงเฟสแรกของการลงทุน ที่โรงงานบ้านโพธิ์ คาดว่าช่วงปลายปี 2552 ถึงต้นปี 2553 ความต้องการในตลาดส่งออกน่าจะเพิ่มขึ้น หากเป็นเช่นนั้นคงจะมีการลงทุนเพิ่มเติมอีก เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้เป็น 2 แสนคัน หลังจากนั้นอีกประมาณ 2-3 ปี น่าจะมีการลงทุนเพิ่มในเฟสสอง สำหรับเพิ่มกำลังการอีก 2 แสนคัน ซึ่งยังไม่สรุปว่าจะลงทุนอีกเท่าไหร่ แต่คาดว่าคงไม่น้อยกว่าการลงทุนในเฟสแรก ทั้งนี้โตโยต้าได้เตรียมพื้นที่ไว้รองรับการขยายตัวเรียบร้อยแล้วกว่า 1,300 ไร่ โดยเฟสแรกใช้งานไปเพียง 500 ไร่ หรือประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่โรงงานบ้านโพธิ์ทั้งหมด ซึ่งจะรองรับการผลิตเพื่อส่งออกเป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญโรงงานแห่งนี้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นรองแค่ในส่วนของประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่หากมองในเรื่องจำนวนการผลิต หากเดินเครื่องจักรเต็มที่ บ้านโพธิ์จะเป็นรองแค่โรงงานที่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น " นายศุภรัตน์กล่าว
ทั้งนี้ ตามแผนโรงงานบ้านโพธิ์ จะมีการลงทุนขนาดใหญ่ 2 เฟส ซึ่งจะทำให้โรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิตขั้นต่ำ 4 แสนคัน และอาจจะขยายไปได้มากกว่านั้นในอนาคต อย่างไรก็ตามคงต้องดูความต้องการในตลาดโลกเป็นหลัก ทำให้การลงทุนอาจจะไม่ต้องทำไปตามแผนงานเดิม ซึ่งโตโยต้าคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของตลาดรถยนต์ น่าจะเติบโตถึงช่วงปี 2553-2558 จากนั้นก็จะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของเทคโนโลยี ทำให้อาจจะต้องมีกาปรับแผนงานกันอีกครั้ง
ปัจจุบันโตโยต้าส่งออกปิกอัพไฮลักซ์ วีโก้ ไปกว่า 90 ประเทศทั่วโลก และในช่วงปลายปีนี้โตโยต้าคาดว่าจะขยายตลาดส่งออกเพิ่มเป็นกว่า 100 ประเทศ ซึ่งตลาดดังกล่าวจะเป็นกลุ่มประเทศละตินอเมริกา ทำให้ยอดการส่งออกของรถยนต์โตโยต้าจากประเทศไทย ปีนี้น่าจะเติบโตขึ้นไปเกือบ 2 แสนคัน
นายศุภรัตน์กล่าวว่า การที่ไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของโลก จึงจำเป็นต้องมีการลงทุนในส่วนต่างๆ ทั้งการขยายโรงงาน และพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ ส่วนการลงทุนสนามทดสอบรถยนต์ หรือ พรูฟวิ่ง กราวด์นั้น โตโยต้ากำลังพิจารณาอยู่เช่นกัน เพียงแต่จะออกมาในรูปแบบไหนจะลงทุนเอง หรือร่วมลงทุนกับภาครัฐ
"สนามทดสอบได้มีการพูดถึงมาได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยสถาบันยานยนต์เสนอไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในรูปแบบของโครงการครบวงจร ด้วยการเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน แต่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ในเรื่องรายละเอียดการลงทุนจากภาครัฐว่า จะเป็นอย่างไรกันแน่ ที่สำคัญสนามทดสอบครบวงจรถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ โตโยต้าจึงไม่สามารถสรุปแผนงานได้ แม้ว่าในปัจจุบันจะมีสนามทดสอบขนาดเล็ก ในโรงงานสำโรงและที่เกตเวย์อยู่แล้ว แต่รายละเอียดในเรื่องนี้คงต้องรอความชัดเจนจากภาครัฐ ก่อนที่จะสรุปแผนงานในอนาคต"นายศุภรัตน์กล่าว
|
|
|
|
|