Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 มีนาคม 2550
ทุนนอกไม่ทิ้งตลาดหุ้นไทยโบรกฯเล็งหั่นเป้าจีดีพี-แนะลดดบ.กระตุ้นศก.             
 


   
search resources

วิเชฐ ตันติวานิช
Investment
Stock Exchange




นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัท มอร์แกนสแตนเลย์ พร้อมผู้บริหารกองทุนจากสหรัฐอเมริกา และยุโรปรวม 4 ราย ได้เข้าสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปัจจัยทางด้านการเมือง และเศรษฐกิจของไทย การแก้ไขกฎหมายต่างๆ เช่น การแก้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ผู้ประกอบธุรกิจต่างด้าว รวมถึงนโยบายของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการพัฒนาตลาดทุนไทย เพื่อนำไปพิจารณาในการประกอบการตัดสินใจในการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย

ทั้งนี้ ผู้บริหารกองทุนต่างประเทศได้ให้ความเห็นที่สอดคล้องกันว่า ตลาดหุ้นไทยมีความสนใจน่าเข้ามาลงทุน และราคาถูก แต่ก่อนที่จะนำเม็ดเงินใหม่เข้ามาลงทุน จะต้องศึกษาข้อมูลเพื่อสร้างความมั่นใจในตลาดหุ้นไทยก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้กองทุนดังกล่าวยังคงลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่ โดยเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี เช่น กลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ฯลฯ

"ผู้บริหารกองทุนต่างประเทศเข้าพบครั้งนี้ เพราะต้องการขอความมั่นใจการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยผู้บริหารกองทุนต่างๆ ได้มีการสอบข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยทางการเมือง เศรษฐกิจ และการแก้ไขกฎหมายต่างๆ เช่น พ.ร.บ.ต่างด้าว การแปรูปรัฐวิสาหกิจ รวมถึงภาพรวมตลาดหุ้นไทย และได้มีการสอบถามถึงมาตรการ 30% ด้วย"

นายวิเชฐ กล่าวต่อว่า ผู้บริหารกองทุนต่างๆ มีการตอบรับที่ดีและสนใจจะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย หลังจากได้รับทราบข้อมูลต่างๆ จากผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ เรียบร้อย และหลังจากนั้นผู้บริหารกองทุนดังกล่าวยังได้เข้าพบกับนายกรณ์ จาติกวานิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการเมืองและเศรษฐกิจอีกด้วย

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ในปลายเดือนเมษายนนี้ ทางสมาคมฯจะมีการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์เกี่ยวการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และมุมมองด้านการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) ค่าเงิน อัตราดอกเบี้ย ดัชนีตลาดหุ้นไทย โดยส่วนตัวเชื่อว่านักวิเคราะห์จะมีการปรับลดในเรื่องการเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ จากที่ผ่านมายังไม่มีมาตรการที่จะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง ส่งผลให้มีการลงทุนต่างๆ น้อยลงตามไปด้วย

"ผมมองว่าภาครัฐควรที่จะมีการลดดอกเบี้ย เพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการเติบโตมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ทันทีในช่วงนี้ ไม่เหมือนกับปัจจัยทางการเมือง รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่จะต้องใช้เวลาที่จะรอความชัดเจน โดยส่วนตัวมองว่า ภายใน 3-5 เดือนนี้ ควรที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 0.75-1% แต่หากสามารถลดอัตราดอกเบี้ยก่อนวันที่ 11 เมษายนนี้จะเป็นเรื่องที่ดี"

ต่างชาติขายสุทธิ 500 ล้านบาท

ด้านบรรยากาศการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ วานนี้ (21 มี.ค.) ดัชนีปรับตัวลงตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนจะดีดกลับมาเล็กน้อยในช่วงบ่าย แต่ทรงตัวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีปิดที่ 669.59 จุด ลดลง 2.20 จุด หรือ 0.33 % มูลค่าการซื้อขาย 7,961.36 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 502.28 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 77.30 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 579.58 ล้านบาท

ทั้งนี้ แรงขายส่วนใหญ่อยู่ในหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงาน โดยเฉพาะบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ที่มีแรงเทขายออกมา จนราคาปรับลดลง 1.50 บาท ลดลง 1.71 % มาปิดที่ 86 บาท มูลค่าการซื้อขาย 713.59 ล้านบาท ขณะที่บริษัท ยูไนเต็ดคอมมูนิเกชั่น อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ UCOM ยังคงพุ่งขึ้นต่อเนื่องหลังจากมีการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น โดยหุ้นปรับตัวขึ้น 4.08 % เพิ่มขึ้น 2 บาท มาปิดที่ 51 บาท มูลค่าการซื้อขาย 171.96 ล้านบาท

นายกมลชัย พลอินทวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนิตี้ จำกัด กล่าวว่า การที่หุ้นในกลุ่มพลังงานและธนาคารมีการปรับตัวลดลงในวานนี้ เป็นการเทขายต่อเนื่องของนักลงทุนต่างประเทศ หลังจากที่ประเมินสถานการณ์แล้วว่าไม่ควรที่จะถือหุ้นไว้ในตลาดหุ้นไทย และคาดว่าจะอยู่ในภาวะซบเซาและปรับตัวลงตลอดทั้งสัปดาห์ โดยมีแนวรับอยู่ที่ 660 - 650 จุด แนวต้าน 672-682 จุด

ทั้งนี้ ในส่วนของหุ้นของกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั่วทวีปเอเชีย มีการปรับตัวลดลงมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน การปรับตัวลดลงของหุ้น PTTEP นี้เป็นผลต่อเนื่องมาจากเรื่องดังกล่าว โดยราคาน่าจะปรับลดลงจนถึงระดับ 82 - 85 บาท และปรับตัวขึ้นได้อีกครั้ง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us