ดั๊บเบิ้ล เอ ลุยหนัก ปรับปรุงศูนย์ถ่ายเอกสาร นำเทคโนโลยีใหม่เข้าเสริมหวังยอดไตรมาสแรกโตเพิ่มอีก 5% ล่าสุดต่อยอดศูนย์สร้างปัญญาเฟส 3 คลอดใหม่อีก 6เล่ม จาก 6นักเขียน ชูการทำตลาดหนังสือตอกย้ำการสร้างกระแส

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ บริษัท แอ็ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการทำตลาดของบริษัทฯจะปรับปรุงและเพิ่มการทำตลาดกระดาษดั๊บเบิ้ลเออย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นได้เตรียมปรับปรุงศูนย์ถ่ายเอกสารโดยการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้เพิ่มเติมจากเดิมเพื่อเพิ่มศักยภาพของเครื่องถ่ายเอกสารมากขึ้น โดยจะปรับปรุงสาขาทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 1 พันแห่งทั่วประเทศ พร้อมกับการเพิ่มร้านเครื่องเขียนที่อยู่ในรูปแบบของร้านดั๊บเบิ้ลเอที่มีอยู่กว่า 200 แห่ง อีกด้วยซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาหาพื้นที่ในการขยายอยู่

นอกจากนั้นบริษัทฯยังมีแผนทำการตลาดโดยจะมุ่งเน้นการทำสื่อผ่านทางบีโลว์เดอะไลน์ ให้กับกลุ่มลูกค้าได้เข้าใจถึงตัวสินค้าและบริการและประโยชน์ของการอ่านหนังสือ ซึ่งจะทำให้ตลาดสิ่งพิมพ์มีการเติบโตและส่งผลต่อตลาดกระดาษด้วยนั่นเอง ซึ่งการรณรงค์ให้มีนิสัยรักการอ่านหนังสือด้วยการนำเสนอสื่อที่ดีๆออกสู่ตลาดก็เป็นอีกวิธีการหนึ่ง ที่จะสามารถสร้างศักยภาพให้กับธุรกิจได้

ล่าสุดบริษัทฯได้จัดรูปแบบกิจกรรมเพิ่มในช่วงซัมเมอร์ ด้วยการสร้างสังคมแห่งการอ่าน และส่งเสริมให้คนไทยรักการอ่านมากขึ้นด้วยโครงการ "ดั๊บเบิ้ล เอ สื่อสร้างปัญญา" ซึ่งโครงการนี้ต่อเนื่องมาจาก จากโครงการตั้งแต่เฟส 1 จนถึงขณะนี้ที่เปิดเฟส 3 นับว่าเป็นโครงการที่ได้ช่วยสร้างกระแสให้ผู้รู้ในวงการต่าง ๆ มารวมกัน

สำหรับโครงการดั๊บเบิ้ล เอ สื่อสร้างปัญญา เฟส 3 นี้ ได้รับความร่วมมือจากสำนักพิมพ์รักลูก โดยเฟสนี้มีหนังสือออกมา 6 เล่ม จาก 6 นักเขียน ได้แก่ มี 10 ล้านก่อน 60 ต้องทำอย่างไร ,สวยทั้งรูปยิ่งจูบยิ่งหอม ,คมช. (คุณแม่ช่วย) พอเพียง, หมอเมาเม้าท์ ,สปอร์ตบ่มีไกด์และคู่มือสงบศึกรับวัยรุ่นมาร่วมด้วย

ขณะนี้บริษัทฯได้ผลิตพ็อคเก็ตบุ๊ครวมจำนวน 17 เล่ม และมีสำนักพิมพ์พันธมิตรในโครงการแล้ว 8 สำนักพิมพ์ ทั้งที่ได้ดำเนินการมาแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการในเฟสต่อไป โดยในอนาคต ดั๊บเบิ้ล เอ มีเป้าหมายเปิดหนังสือร่วมกับสำนักพิมพ์ในแต่ละไตรมาสไม่ต่ำกว่า 5 เล่ม และจะเน้นการใช้แผนการตลาดมาสนับสนุนการทำตลาดให้กับหนังสือทุกเล่ม และให้ความสำคัญกับการจัดวางหนังสือที่สามารถโชว์ปกหนังสือที่เด่นชัด โดยมีสถานที่จัดจำหน่ายอย่างเมืองหนังสือไทยแลนด์ บุ๊ค ทาวเวอร์ มาสนับสนุน และกระจายสู่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ ผ่านร้านซีเอ็ดบุ๊ค

จากแผนการร่วมทำตลาดรวมกับกลุ่มสำนักพิมพ์ การปรับแผนและการเพิ่มกลยุทธ์ทำตลาดที่ชูความแตกต่างให้กับตลาด บริษัทฯเชื่อว่าจะเป็นอีกแรงที่จะช่วยเสริมสร้างแบรนด์ได้

นายชาญวิทย์ กล่าวว่า บริษัทฯเชื่อมั่นว่าการทำตลาดและการเพิ่มกิจกรรมแปลกใหม่ครั้งนี้ จะสามารถทำให้ยอดการเติบโตในช่วงไตรมาสแรกของบริษัทฯจะยังสามารถมีอัตราการเติบโตเพิ่มได้อีก 5% จากเดิมในปีที่ผ่านมาที่มีรายได้กว่า 1,900ล้านบาท