แบงก์ออมสินเล็งลดดอกเบี้ยเงินกู้ไม่ต่ำกว่า 0.5% สัปดาห์นี้-ตั้งเป้าปี 50 ปล่อยสินเชื่อใหม่ 1.4 แสนล้าน พร้อมจับมือ "กรมส่งเสริมการเกษตร-มูลนิธิส่งเสริมยุวเกษตรไทย" ปล่อยกู้วิสาหกิจชุมชน 4 หมื่นกลุ่มทั่วประเทศ วงเงินรวม 3.5 หมื่นล้าน
นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ ลงอย่างน้อย 0.25-0.5% หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการประกาศปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากไปแล้ว โดยในสัปดาห์นี้ ธนาคารจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง เพื่อประเมินสถานการณ์ ซึ่งจะมีการพิจารณาถึงภาพรวมการปรับลดดอกเบี้ยในระบบธนาคารพาณิชย์ทั้งหมด สภาพคล่องของธนาคาร และแนวโน้มดอกเบี้ยในตลาด
เนื่องจากขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ส่งสัญญาณว่า จะมีการการปรับลดดอกเบี้ยอีก โดยที่ผ่านมา ธปท. ได้ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายมาแล้ว 2 ครั้ง รวม 0.5% ทั้งนี้ เชื่อว่า การปรับลดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการลงทุนและการบริโภคในประเทศให้เพิ่มมากขึ้นอีกทางหนึ่งได้
นายวรวิทย์ ชัยลิปมนตรี รองผู้อำนวยการ ธนาคารออมสินอาวุโส กล่าวว่า ในปี 2550 นี้ ธนาคารออมสินตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ 140,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 30,000 ล้านบาท จากปีก่อน โดยปัจจุบันมียอดสินเชื่อคงค้างทั้งหมดอยู่ที่ 435,000 ล้านบาท ขณะที่หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) มีไม่เกิน 4% หรือคิดเป็นวงเงินประมาณ 17,000 ล้านบาท และสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) มีอยู่กว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารได้เตรียมตัดขายประมาณไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท โดยจะทยอยแบ่งขายเป็นกองๆ ให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ธนาคารออมสินได้จัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือเชิงสมานฉันท์เพื่อพัฒนาและส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนภายใต้ "โครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาและส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน" ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร และ มูลนิธิส่งเสริมยุวเกษตรไทย โดยมีนายธีระ สูตะบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ซึ่งในโครงการดังกล่าว ธนาคารออมสินได้จัดเตรียมเงินให้สินเชื่อ วงเงินรวม 35,000 ล้านบาท สำหรับวิสาหกิจชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ หรือปรับปรุงกิจการ เพื่อพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจชุมชนให้เข้มแข็งประกอบกิจการได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยเงื่อนไขการขอเงินกู้ ต้องเป็นวิสาหกิจชุมชนที่จดทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยธนาคารให้วงเงืนกู้ยืมกลุ่มละไม่เกิน 500,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี ซึ่งต้องใช้บุคคลที่เป็นคณะกรรมการกลุ่มและสมาชิกเป็นผู้ค้ำประกัน ทั้งนี้ คาดว่าจะมีชุมชนสนใจเข้าร่วมโครงการประมาณ 20% จากที่จดทะเบียนไว้ 40,000 กลุ่ม และตั้งเป้าหมายว่า ในระยะเวลา 3 ปี จะมีวิสาหกิจชุมชนเข้าร่วมโครงการประมาณ 9,000 กลุ่ม
|