Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2536








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2536
"แม็กซ์ โดนัท ชื่อนั้นสำคัญไฉน             
 


   
search resources

แม็กซ์ โดนัท
แดนนี่ กอว์




ชื่อ "แม็กซ์ โดนัท" ฟังดูเหมือนร้านขายโดนัทเล็ก ๆ ริมถนนซึ่งหลาย ๆ คนก็เข้าใจเช่นนี้ วันดีคื่นดีก็จะมีโทรศัพท์เข้ามาสั่งโดนัททีละโหล จนแดนนี่ กอว์ คิดจะเปลี่ยนชื่อบริษัทเสียใหม่ เพราะชื่อเดิมนั้นไม่ได้บ่งบอกความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงของบริษัทเลย

"แม็กซ์ โดนัท" เป็นชื่อบริษัทผู้ผลิตโดนัทรายใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตกของแคนาดา สามารถผลิตโดนัทได้ปีละ 30 ล้านชิ้น จากโรงงานที่มีพื้นที่ 2,300 ตารางเมตรในแวนคูเวอร์

แดนนี่ กอว์ เป็นประธานกรรมการของแม็กซ์ โดนัท วัย 47 ปี ผู้อพยพมาจากพม่า ผ่านการทำงานมาทั้งในสหรัฐ ยุโรป และเอเชีย สามารถพูดได้ถึง 6 ภาษา

แม้ว่ากอว์จะเป็นที่รู้จักของคนส่วนใหญ่ในฐานะผู้บริหารของแม็กซ์ แต่ธุรกิจการผลิตโดนัทก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งในหลาย ๆ กิจการของนักลงทุนกลุ่มหนึ่งจากฮ่องกงที่กอว์รับหน้าที่บริหารอยู่ ในพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนกลุ่มนี้ ยังมีกิจการประเภทอื่น ๆ อีกคือ ร้านเบเกอรี่เล็ก ๆ ร้านหนึ่ง แฟรนไชส์ร้านโดนัทซึ่งมีเครือข่ายอยู่ 8 แห่ง และธุรกิจเรียลเอสเตทอีก 2-3 บริษัท

กอว์เทคโอเวอร์แม็กซ์ โดนัท มาเมื่อ 6 ปีก่อนโดยมีมูลค่าเงินลงทุน 10 ล้านเหรียญ และสามารถสร้างรายได้ในขณะนี้มากกว่าปีละ 10 ล้านเหรียญ

"เรามีความสามารถที่จะเข้าไปแข่งขัน ในตลาดใหม่ ๆ ที่นี่ แต่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลท้องถิ่น และเศรษฐกิจที่ตกต่ำของแคนนาดา เป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ธุรกิจส่วนใหญ่ รวมทั้งเราด้วยขอ "เวท แอนด์ ซีไปก่อน" กอว์กล่าว

กอว์เกิดที่ร่างกุ้งในปี 1944 เขามีความทรงจำเกี่ยวกับเมืองหลวงของพม่าแห่งนี้น้อยมาก จะมีก็แต่เพียงภาพในวัยเด็กที่วิ่งเท้าเปล่าไปตามถนน บางครั้งก็ไปเหยียบเอาก้นบุหรี่ที่ยังไม่ดับ พ่อของเขาตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงอพยพครอบครัวไปอยู่ที่ฮ่องกงเมื่อปี 1956

"พ่อของผมยังคงทำธุรกิจต่อไปในพม่า แต่เมื่อรัฐบาลประกาศนโยบายชาตินิยม ทหารก็เข้ามาควบคุมธุรกิจ" กอว์เล่า

สถานการณ์ทางการเมืองเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตของกอว์อีกครั้งหนึ่งในช่วงที่เขาเข้ามาทำธุรกิจสิ่งทอในประเทศไทย "ผมยังจำได้ดี ตอนปี 1973 ผมนั่งอยู่ในออฟฟิศทีกรุงเทพ ตอนที่นักศึกษาเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตย วิทยุประกาศให้ประชาชนกลับเข้าบ้าน มีการประกาศเคอร์ฟิว ช่วงที่ผมอยู่มีการเปลี่ยนรัฐบาลทุกปี" กอว์อยู่ในไทยถึง 10 ปี แต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจว่าต้องการสภาพแวดล้อมที่มีเสถียรภาพ จึงพาภรรยาและลูก 3 คน อพยพไปอยู่ที่แวนคูเวอร์

กอว์ ซึ่งจบเอ็มบีเอจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์คก็ได้เริ่มออกแสวงหาธุรกิจในแคนาดาที่เหมาะสมกับตัวเขา ในช่วงแรกเขามองว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี แต่ตลาดสิ่งทอในแคนาดาค่อนข้างเล็ก แถมตลาดผู้ซื้อในแคนาดาก็ค่อนข้างไกลจากซัพพลายเออร์ซึ่งอยู่ที่ฮ่องกงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีบริษัทโฮลดิ้งอยู่แล้วทั้งในสหรัฐอเมริกา, สก็อตแลนด์และอังกฤษ และกำลังหาช่องทางเข้ามาลงทุนในแคนาดา

ในปี 1985 นักลงทุนกลุ่มนี้รับข้อเสนอของกอว์ที่จะเข้าไปซื้อกิจการของนักธุรกิจเบเกอรี่ขนาดกลางชื่อ "สุพีเรียร์ เบเกอรี่" และในปี 1987 ทางกลุ่มก็ได้เข้าไปซื้อกิจการร้านแม็กซ์ โดนัทซึ่งก่อตั้งมาแล้วกว่า 20 ปี

"แม็กซ์มีผลประกอบการในอดีตที่ผ่านมาค่อนข้างจะดี และข้อสำคัญคือความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของกับพนักงานเป็นไปด้วยดี แม้ว่าจะอยู่ในบริติชโคลัมเบียซึ่งมักจะมีข้อพิพาทแรงงานเกิดขึ้นเสมอ" กอว์กล่าวด้วยความภูมิใจว่า ปัญหาเกี่ยวกับแรงงานสัมพันธ์ที่นี่ไม่เคยมี แม้ว่าจะมีคนงานมากถึง 120 คน โดยแบ่งการทำงานเป็น 3 กะ ตลอด 24 ชม. สัปดาห์ละ 6 วันครึ่ง

อย่างไรก็ตาม กอว์เคยมีบทเรียนเกี่ยวกับสหภาพแรงงานเหมือนกัน โดยเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาทางสหภาพก็ได้เคยพยายามจะเข้าไปคัดเลือกคนเข้าทำงานด้วยตัวเอง ซึ่งคนงานกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ก็เห็นด้วยทันที แต่ในที่สุด กอว์ก็สามารถหาทางออกที่พอใจทั้ง 2 ฝ่ายได้ในที่สุด

"เขาเป็นนักสื่อสารชั้นเยี่ยม ฝ่ายบริหารและคนงานในบริษัทส่วนใหญ่มักจะมีความสัมพันธ์ที่เป็นปฏิปักษ์กัน ปรัชญาของเขาที่มีต่อคนงานทั้งหลาย ก็คือคนงานทุกคนเป็นมนุษย์ที่จะต้องได้รับการปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพ" ผู้บริหารคนหนึ่งของแม็กซ์อธิบาย

กอว์รู้สึกว่าการทำธุรกิจในบริติช โคลัมเบียเริ่มมีอุปสรรคมากขึ้น ตั้งแต่พรรคประชาธิปไตยใหม่ซึ่งเป็นพรรคเสรีนิยมชนะการเลือกตั้งในปี 1991 และปรากฏว่ากฎหมายหลายฉบับที่ออกตามมาภายหลัง จะมีผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนอย่างมากในสายตาของนักธุรกิจ

หลังจากผ่านประสบการณ์มามากมาย ทำให้เมื่อธุรกิจของเขาเกิดปัญหา เขาจะปรับตัวทันทีด้วยการย้ายบริษัทซึ่งอยู่ตอนใต้ของแคนนาดาเข้าไปในรัฐวอชิงตัน ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งแผนการนี้ก็ไม่เลวนัก เพราะชายแดนของแคนาดาอยู่ห่างจากสหรัฐอเมริกาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีการตกลงในเรื่องเขตการค้าเสรีระหว่างสหรัฐและแคนาดาอีกด้วย ส่วนปัญหาการขนส่งสินค้าข้ามชายแดนนั้นก็ตัดทิ้งไปได้เลย รวมถึงที่ดิน และค่าแรง คนงานในสหรัฐอเมริกาก็ถูกกว่าอีกด้วย

กอว์ตั้งใจว่า ถ้าการทำธุรกิจที่แคนาดามีปัญหามากนัก เขาก็จะย้ายกิจการข้ามพรมแดนทางใต้เข้าไปอยู่ในรัฐวอชิงตันของสหรัฐอเมริกา ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากแวนคูเวอร์เพียงแค่ชั่วโมงเดียว และไม่มีปัญหาในเรื่องส่งสินค้าข้ามแดนอีกด้วย เพราะแคนาดากับสหรัฐฯ มีข้อตกลงเรื่องการค้าเสรีระหว่างกันอยู่ นอกจากนั้นต้นทุนค่าที่ดินและแรงงานในสหรัฐฯ ก็ถูกกว่าแคนาดาด้วย

แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นคือ การเปลี่ยนชื่อบริษัท ซึ่งกอว์กล่าวว่า "เราผลิตโดนัทได้วันละมากกว่า 1 แสนชิ้น แต่วันดีคืนดีก็จะมีคนโทรศัพท์เข้ามาสั่งโดนัทจากเราทีละโหล ดูเหมือนว่าชื่อบริษัทที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ จะบดบังความสามารถที่แท้จริงของเรา"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us