|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ประโยค บางประโยค เราอาจจะเคยได้ยินมาก่อน รู้คร่าวๆ แหละ ว่ามันแปลว่าอะไร แต่กว่าที่จะเข้าใจจริง ๆ นี่ มันก็นาน และต้องอาศัยประสบการณ์จริงกับตนเองเลย
อย่างเช่นคำว่า "เริ่มก่อน รวยก่อน" นี่ ดิฉันก็พึ่งจะ get อย่างถ่องแท้เมื่อวานนี้เอง
ใคร ๆ ก็รู้นะคะว่า เริ่มก่อน ล้มก่อน เรียนรู้ก่อน หากไม่หมดกำลังใจ ทำอันนี้ ไม่โอเค ค่อยเปลี่ยนอันไปทำอย่างอื่น ใช้ประสบการณ์ความล้มเหลว คราวก่อน มาเป็นบทเรียนให้กับคราวนี้
แต่มีไม่เยอะหรอกนะคะที่จะทำล้มก่อนแล้วมีกำลังใจสู้ต่อ จนเกิดเป็นตำนานความสำเร็จที่น่าสนใจ
เมื่อคืนวานนี้ (28 กุมภาพันธ์) ดิฉันได้มีโอกาสได้ดูรายการ "คืนหนึ่งกับสายสวรรค์" ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของ หนุ่มน้อย ร้อยล้าน นั่นคือ คนหนุ่มอายุไม่มาก ที่ทำธุรกิจของตนเองจนประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จัก ซึ่งเมื่อคืนก่อน ทางคุณสายสวรรค์ได้นำเสนอเรื่องราวของชายหนุ่ม 2 คน (จะบอกว่าหน้าตาดีด้วย) นั่นคือ คุณผู้ชายที่ทำธุรกิจ U channel ซึ่งดำเนินกิจการสื่อที่เข้าถึงกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย
ซึ่งท่านนี้ ดิฉันได้เคยอ่านเรื่องราวของคุณมาแล้วระยะหนึ่ง (ขออภัยที่จดชื่อไม่ทันนะคะ) แต่กับคุณอีกท่านหนึ่งซึ่งเป็นผู้ริเริ่ม เถ้าแก่น้อย ซึ่งพึ่งจะเคยเห็นหน้าเป็นครั้งแรก ดูก็รู้สึกว่า โอ้ ดูเด้ก เด็ก แต่พอคุณเขาเอ่ยปากตอบสัมภาษณ์ ก็รู้สึกเลยว่า ผู้ชายคนนี้ เก่งไม่เบา และยิ่งทราบว่า อายุของคุณแค่ 21 ปี เท่านั้น ดิฉันก็แทบหัวใจจะวาย
ตอนแรกก็คิดว่า อายุน้อยขนาดนี้ แล้วทำเถ้าแก่น้อย ที่บ้านน่าจะมีธุรกิจอะไรที่ใกล้เคียงกระมัง แต่เมื่อรู้ว่า ครอบครัวของคุณเค้าทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ ซึ่งไม่เกี่ยวกับธุรกิจอาหารก็ยิ่งทรุดกองไปกับพื้น แล้วคิดว่า เออ คุณคนนี้นี่ แน่จริง ๆ
นึกถึงตอนที่ตัวเองอายุ 21 ปี ตอนนั้น ดิฉันกำลังพึ่งเรียนจบ ปริญญาตรี กำลังทำงานอยู่ที่ บริษัทยักษ์ใหญ่ อยากทำธุรกิจของตนเองอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่กล้าพอ ขอเรียนรู้โลกภายนอกตามเสต๊ปก่อนดีกว่า แต่คุณเถ้าแก่น้อยตัวจริง คุณ อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ ไม่ได้คิดอย่างนั้น คุณอิทธิพัทธ์ เริ่มหาเงินเดือนละเป็นแสน ๆ ได้ตั้งแต่อายุ 17 ปี จากธุรกิจเกม ซึ่งตนเองหลงใหล จากการออกไอเดีย ออกแบบเกม
แต่พอเลยช่วง peak ของธุรกิจเกมไปแล้ว จากเดิมที่ไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ แล้วมีเงินใช้ตามต้องการ แต่พอธุรกิจเริ่มตันแล้ว ความต้องการที่จะทำธุรกิจอื่น ๆ ต่อก็มีเพิ่มขึ้น จึงเริ่มมองหาธุรกิจอื่นมาทำบ้าง โดยเริ่มจากธุรกิจ เกาลัด ที่มีชื่อแบรนด์ว่า เถ้าแก่น้อย
โดยเป็นชื่อที่นำมาจากชื่อที่คุณพ่อคุณแม่ใช้เรียกตัวเขา ซึ่งมีหัวคิดทางการทำธุรกิจตั้งแต่เด็ก หลังจากที่มีความคิดว่าอยากจะทำธุรกิจเกาลัด อิทธิพัทธ์ ก็ทำการรีเสิรท์ โดยหาความรู้ จากการถาม ถาม แล้ว ก็ถาม เดินจนปรุ ที่เยาวราช หลังจากลงมือทำแล้ว แต่ด้วยจังหวะและโอกาสที่ยังไม่เหมาะสม ทำให้เขาต้องยอมขายขาดทุนธุรกิจนี้ไปในราคา 4 ล้านบาท แต่เขาก็ไม่หยุดแค่นั้น หลังจากที่เห็นโอกาสในตลาดสาหร่าย สแน็กตัวใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยม เขาก็ลองสำรวจโอกาสของตลาดสาหร่ายทันที
คนอายุเพิ่งจะเริ่ม 20 ปี ทำร้านกาแฟ หรือร้านอะไรเท่ ๆ เก๋ ๆ ก็เปรี้ยวสุดชีวิตแล้ว นี้ "เถ้าแก่น้อย" ของเราเล่นทำตลาดสแน็ก ที่ลงทุนสูง และเต็มไปด้วย เจ้าตลาดใหญ่บึ๊ก นี่ต้องนับว่าแน่จริง ๆ เพราะดิฉันเคยคุยกับเพื่อนเล่น ๆ อยู่แล้วว่า อยากรู้จัง ใครทำเถ้าแก่น้อย เก่งเน้อออออ สร้างแบรนด์เก่ง ไม่นึกเลย ว่าเป็นคนหนุ่มอายุน้อยขนาดนี้ ซิ่งจริง ๆ
ตอนเริ่มทำเถ้าแก่น้อย คุณอิทธิพัทธ์ เริ่มจากการขายต่างประเทศก่อน เช่นประเทศ สิงคโปร์ ซึ่งแม้จะเล็ก แต่ก็มีรายได้ประชากรที่สูง หรือประเทศฮ่องกง มาเก๊า ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย หลังจากที่ตลาดต่างประเทศโตแล้ว ก็เริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศ จนตอนนี้ อัตราการเติบโต เป็น 100% ต้องขยายโรงงานทุกเดือนจากเดิม ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ของบริษัทเถ้าแก่น้อย ฟู๊ด แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ตอนนี้ ยอดขายอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาท โอว .. เก่งจริง ๆ
หากถามดิฉันว่า ทำไม "เถ้าแก่น้อย" ถึงประสบความสำเร็จ ตอบง่าย ๆ เลยนะคะ มันอร่อยค่ะ หีบห่อ ก็สวยงาม เพื่อนของดิฉันกินกันจนติด เพื่อนบอกว่า "รู้สึกว่ากินแล้วมันน่าจะดีกว่า กินขนมกรอบ ๆ อ่ะ" ซึ่ง เถ้าแก่น้อย อร่อยเพราะเลือกใช้วัตถุดิบนำเข้าชั้นดี จากประเทศเกาหลี ซึ่งนี้ก็เป็นจุดแข็งทำให้แบรนด์อื่น ๆ ไม่สามารถลอกเลียนได้ง่ายนัก
ในการสัมภาษณ์ คุณอิทธิพัทธ์ให้คำแนะนำกับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจของตนเองว่า "อย่าหยุดฝัน" และจงลงมือทำให้มันเป็นจริง มีแผนการทำงานที่ดี "เหมือนเราอยากไปเชียงใหม่ จงหาหนทางที่ถูกต้อง เหมาะสมในการเดินทางไป" ท้ายที่สุด ถ้อยคำสุดท้ายก่อนจะจบรายการ คุณ อิทธิพัทธ์ ฝากไว้ว่า "คนเราต้องแพ้ให้เป็น" โอ้โห ชอบจริง ๆ
อยากให้บ้านเรามีคนแบบ คุณอิทธิพัทธ์เยอะ ๆ จัง คนเก่ง ๆ อย่างนี้ ขอชื่นชมจากใจจริงค่ะ ฝากไว้ให้คิด
กล้าที่จะฝัน และทำมันให้เป็นจริง
|
|
|
|
|