สหพันธ์อุตสาหกรรมการพิมพ์ ชูยุทธศาสตร์มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งพิมพ์ระดับโลกภายในระยะเวลา 10 ปี เฟสแรกมุ่งสู่การเป็นพริ้นติ้งฮับในอาเซียนใน 2-3 ปี ด้วยแผนการส่งเสริมกลุ่มธุรกิจการพิมพ์ มั่นใจสู้คู่แข่งจากสิงคโปร์ได้แน่นอน ล่าสุดผุดศูนย์กลางตลาดร่วมระหว่างผู้ซื้อ ผู้ขาย และพันธมิตรการค้าในรูปแบบเว็บไซด์ ภายใต้ชื่อ "Virtual Market Place" พร้อมชี้ปีนี้ทิศทางอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ยังเติบโตต่อเนื่องที่ 12 % หรือกว่า 3.5 แสนล้านบาท

นายธนะชัย สันติชัยกูล ประธานสหพันธ์อุตสาหกรรมการพิมพ์ เปิดเผยว่า ทางสหพันธ์ฯมีนโยบายที่จะผลักดันให้อุตสาหกรรมการพิมพ์ ที่ประกอบไปด้วย กลุ่มพริ้นติ้ง, สกรีน พริ้นติ้ง, แพกเกจจิ้ง และ กลุ่มแยกสีที่รวมกับกลุ่มส่งเสริมวิชาชีพ ให้ก้าวไปสู่ความเป็น "เวิล์ดคลาส พริ้นติ้ง ฮับ" ในระดับโลกให้ได้ภายในระยะเวลา 10 ปีนับจากนี้ ซึ่งจุดมุ่งหมายดังกล่าวมองว่าเป็นไปได้ เนื่องจากพบว่าอุตสาหกรรมการพิมพ์ไทยนั้น มีคุณภาพไม่แพ้ประเทศใด อีกทั้งยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีตั้งแต่ระดับต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบจากหลายๆประเทศที่มีอุตสาหกรรมการพิมพ์ในประเทศนั้นๆ

โดยทางสหพันธ์ได้วางยุทธ์ศาสตร์ในเฟสแรกสู่การเป็นพริ้นติ้งฮับในอาเซียนก่อนภายในระยะเวลา 2-3 ปีนับจากนี้ จากนั้นจึงเข้าสู่การแข่งขันที่จะเป็น พริ้นติ้งฮับของเอเชีย ในอีก 5 ปีข้างหน้า ภายใต้แนวทางการส่งเสริมกลุ่มธุรกิจการพิมพ์ 4 ข้อหลัก คือ 1.พัฒนาศูนย์กลางตลาดร่วม 2.เสริมสร้างศักย์องค์ความรู้ และความสามารถในการทำตลาดต่างประเทศ 3.ขยายฐานการตลาดในประเทศ และดึงลูกค้าต่างประเทศ เข้ามายังประเทศไทย และ4.รุกก้าวธุรกิจต่างประเทศ นั้นเอง

ล่าสุดตามแนวทางการส่งเสริมกลุ่มธุรกิจการพิมพ์ 4 ข้อหลักนั้น ทางสหพันธ์ได้ดำเนินการตามข้อ1 ไปแล้ว นั้นคือ การจัดสร้างศูนย์กลางตลาดร่วมภายใต้ชื่อ "Virtual Market Place" ในรูปแบบเว็บไซด์ www.thaiprintingfederation.com เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการติดต่อ ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย พันธมิตรธุรกิจการค้า ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและสนับสนุนการพิมพ์ และในช่วงกลางปีที่จะถึงนี้ ทางสหพันธ์จะสร้าง "Physicial Market Place" หรือ เทรด เซ็นเตอร์ เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับแสดงผลงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สิ่งพิมพ์ต่างๆ ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการมองหาทำเลในการจัดตั้งเทรด เซ็นเตอร์นั้นเอง

"คู่แข่งที่น่ากลัวในตลาดกลุ่มอาเซียน คือ เวียดนาม เนื่องจากรัฐบาลของเวียดนามกำลังสนับสนุนเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการพิมพ์อย่างมาก ดังนั้นจึงมองว่า เราน่าจะร่วมมือกับกลุ่มการพิมพ์ในจีน เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้เกิดขึ้น และสามารถสูกับเวียดนามได้ ทั้งนี้คาดว่าการที่จะเป็นฮับในกลุ่มอาเซียนได้นั้น มูลค่าของอุตสาหกรรมการพิมพ์ไทย จะต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท ส่วนการเป็นพริ้นติ้งฮับในเอเชีย คาดว่าจะต้องมีมูลค่าอุตสาหกรรมการพิมพ์ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ส่วนการก้าวขึ้นมาเป็นพริ้นติ้งฮับในระดับ เวิลด์ คลาสนั้น คาดว่าจะต้องมีมูลค่าของอุตสาหกรรมไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของความต้องการสิ่งพิมพ์ทั่วโลกที่มีกว่า 28,000 ล้านเหรียญสหรัฐนั้นเอง"

อย่างไรก็ตามในปีนี้คาดว่าอุตสาหกรรมการพิมพ์ไทย จะมีอัตราการเติบโตเป็นไปตามปกติที่ 12 % คิดเป็นมูลค่าประมาณ 350,000 แสนล้านบาท มาจากกลุ่ม พริ้นติ้ง 120,000 ล้านบาท สกรีน พริ้นติ้งอีกกว่า 50,000 ล้านบาท และแพ็กเกจจิ้ง ประมาณ 142,846 ล้านบาท ที่เหลือมาจากกลุ่มแยกสีและกลุ่มส่งเสริมวิชาชีพ