ใครที่อยู่ในฐานะอย่าง ณัฐวุฒิ จิตะสมบัติ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโสวางแผนและพัฒนา
บริษัทสยามกลการอาจจะลำบากใจพอสมควรกับตำแหน่ง "คนสนิท" ของคุณหญิงพรทิพย์
ณรงค์เดช ผู้จัดการใหญ่สยามกลการทั้ง ๆ ที่เข้ามาทำงานได้ไม่นานนัก
จากตำแหน่ง ผู้จัดการตลาดอุตสาหกรรม บริษัทไอบีเอ็มประเทศไทยเมื่อ 2 ปีก่อนหลังการซื้อคอมพิวเตอร์ครั้งใหญ่ระหว่างสยามกลการกับไอบีเอ็ม
ณัฐวุฒิย้ายมาสังกัดสยามกลการ เพื่อดูแลระบบคอมพิวเตอร์ของสยามกลการในยุคของการขยายเครือข่ายด้วยการออนไลน์ทั่วประเทศ
และเข้าถึงการมาดูการตลาดในเวลาต่อมา ตำแหน่งในวันนี้ของเขาจึงเป็นเรื่องรวดเร็วเกินกว่าที่หลายคนคาดถึง
ว่ากันว่างานที่เขาริเริ่มหลายอย่าง ล้วนแต่ถูกใจคุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดชเป็นอย่างยิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตสยามกรุ๊ปที่กลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การหาลูกค้ารถยนต์นิสสัน
การขยายสาขาในบางพื้นที่หรือการร่วมทุนกับวิลสันจากอังกฤษ เพื่อเปิดบริษัทฝึกอบรม
ที่มีข่าวว่าขาดทุน หลังจากเริ่มดำเนินการไม่นานนัก
แต่บังเอิญเป็นงานที่สร้าง "หน้าตา" มากกว่าเงินตรา อันสอดคล้องกับบุคลิกของคุณหญิงพรทิพย์
ที่นักบริหารระดับสูงคนหนึ่ง ซึ่งเคยรับคำเชิญมานั่งบริหารในตำแหน่งสูงกล่าวว่า
คุณหญิงพรทิพย์ ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ นอกจากสร้างภาพพจน์ !!!
สำหรับคนในสยามกลการแล้ว ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ ธุรกิจ รวมทั้งยอดการจำหน่ายรถยนต์นิสสันที่ตกลงมาจากเดิมและจากการคาดการณ์ไว้
ทำให้เชื่อว่าน่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง
ซึ่งในที่สุด คำสั่งที่ออกมาเมื่อวันที่7 สิงหาคม ที่มีการโยกย้ายพนักงานระดับสูงในฝ่ายการตลาดหลายคน
ดูเหมือนจะเด่นชัดว่า คุณหญิงพรทิพย์ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นและเริ่มด้วยการเปลี่ยนคน
ตามคำสั่งดังกล่าวคนที่ต้องไป คือคนในสายของพรพินิจ พรประภา น้องชายต่างมารดาของคุณหญิง
ผู้ดูแลเรื่องการตลาดมาโดยตลอดของสยามกลการ เช่น ศิริชัย สายพัฒนา ผู้ช่วยรองผู้จัดการใหญ่การตลาด
ไปเป็นผู้อำนวยการโครงการสร้างสรรค์เพื่อสังคม ทวี ฟองกษีร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดและวางแผนการขาย
เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการโครงสร้างสรรค์เพื่อสังคม ขณะที่คนที่มาแทนคือคนของณัฐวุฒิ
ซึ่งส่วนใหญ่มาจากไอบีเอ็ม และมีบางส่วนที่มาจากเคพีเอ็นกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัท
"ส่วนตัว" ของคุณหญิงพรทิพย์ เช่น นิตยา ห่อเกียรติ มารักษาการผู้จัดการทั่วไปฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์
ควบคู่ตำแหน่งผู้ช่วยรองผู้จัดการใหญ่ทรัพยากรบุคคล วัชรพล ศรีนาคอ่อน เป็นผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวางแผนการขายและการตลาด
แหล่งข่าวในวงการธุรกิจรถยนต์ มองถึงการโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงหลายคนของสยามกลการครั้งนี้
เช่น ศิริชัยสายพัฒนา ทวี ฟองกษีร หรือกระทั่งสมชาย อินทิราวรนนท์ ไปรับตำแหน่งอื่นว่า
เป็นเพราะคุณหญิงพรทิพย์มองว่าที่ผ่านมาสยามกลการมีปัญหาใหญ่อยู่ 2 ประการ
คือการตลาดที่ยอดการขายลดลงและถูกแซงกล่าวคือ ยอดการจำหน่ายรถยนต์รวมใน 5
เดือนแรก สยามกลการสามารถขายได้เป็นอันดับ 3 รองจากโตโยต้าและอีซูซุ โดยมียอดขายรวม
31,423 คันขณะที่มิตซูบิชิมาเป็นอันดับ 4 มียอดขายรวม 31,325 คัน แต่เมื่อครบครึ่งปีแรกในเดือนมิถุนายน
มิตซูบิชิสามารถขึ้นมาครองตลาดเป็นอันดับสามเมื่อสามารถขายได้ 38,511 คันในขณะที่สยามกลการ
ขายได้เพียง 38,166 คัน ซึ่งทำให้คุณหญิงพรทิพย์ไม่พอใจมาก
ความจริงแล้ว ตัวเลขดังกล่าว ไม่ได้ผิดไปจากประมาณการตัวเลขมากนัก เพราะเมื่อต้นปี
พรพินิจเปิดเผยว่าสยามกลการคาดว่าในปีนี้บริษัทจะมียอดการจำหน่ายรถยนต์นิสสันทั้งหมด
75,000-80,000 คัน ซึ่งเพิ่มจากปีก่อนที่ขายได้ 64,000 คันประมาณ 18-25%
แต่การที่ตลาดรถยนต์โตเกินคาด และสยามกลการไม่สามารถรักษาอันดับไว้ได้ฝ่ายการตลาดจึงถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ
อีกประการหนึ่งก็คือปัญหาเรื่องการทำงานของฝ่ายประชาสัมพันธ์ในเรื่องสยากลการถูกกระทรวงอุตสาหกรรม
และกระทรวงพาณิชย์เพ่งเล็งเรื่องการปรับราคารถยนต์นั่งโดยไม่ได้รับอนุญาต
การโยกย้ายที่เกิดขึ้นนี้เป็นการบอกว่า คุณหญิงพรทิพย์ เปิดยุทธการ "ยึด"
สยามกลการมาบริหารเต็มตัวแล้ว เพื่อที่จะนำสยามกลการขึ้นเป็นอันดับสองให้ได้
โดยมีณัฐวุฒิเป็น "มือขวา" ในการทำงานใหญ่นี้
ยอดการขายของรถยนต์ที่อยู่อันดับสอง คืออีซูซุนั้น คุณหญิงพรทิพย์มีความเชื่อมั่นว่า
สยามกลการสามารถที่จะแซงได้ไม่ยากนัก เพราะขายได้มากกว่าสยามกลการไม่มากคือ
ครึ่งปีแรกขายได้ 39,709 คัน มากกว่าสยามกลการเพียง 1,543 คัน
"ความเชื่อใจของคุณหญิงต่อคุณณัฐวุฒิ มีมากแค่ไหนก็เห็นได้จากการแต่งตั้งล่าสุดที่คนของคุณณัฐวุฒิมาแทนที่คนของคุณพรพินิจมาก"
คนในสยามกลการกล่าวเสริม
จึงไม่เป็นเรื่องแปลก ที่นักการตลาดหลายคน กล่าวถึงการโยกย้ายและแต่งตั้งคนในสยามกลการเมื่อวันที่
7 สิงหาคมดังกล่าว น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของ "ศึกสายเลือด" ครั้งใหม่ในสยามกลการ
แหล่งข่าวในสยามกลการเปิดเผยว่า ถาวร พรประภาประธานกิตติมศักดิ์บริษัท
ผู้ก่อตั้งสยามกลการเองก็มีความวิตกในเรื่องที่เกิดขึ้นมากดังจะเห็นได้ว่า
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม หลังจากที่คุณหญิงพรทิพย์ออกคำสั่งโยกย้ายพนักงานระดับสูง
ถาวรถึงกับลงมาดูงานที่สยามกลการด้วยตนเองทั้ง ๆ ที่นายแพทย์หลายคน ห้ามถาวรทำงานเพราะปัญหาเรื่องสุขภาพที่มากขึ้นตามวัย
ไม่ว่าจะมีเบื้องหลังของการโยกย้ายเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่ท้าทายคนมาใหม่ของสยามกลการก็คือ
การทำตลาดรถยนต์ !!!
ในยุคที่ตลาดรถยนต์มีการแข่งขันมากขึ้นกว่าอดีตที่ผ่านมา ภารกิจของคนขายรถยนต์
ภารกิจของคนขายรถยนต์ มีมากกว่าอดีตที่ผ่านมา เพราะนอกจากจะต้องแข่งขันกันเองระหว่างบริษัทรถยนต์ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถต่างประเทศในประเทศแล้ว
ยังต้องเผชิญหน้ากับการสั่งซื้อรถยนต์จากต่างประเทศของนักนิยมรถนอกอีกด้วย
ยิ่งสยามกลการ ภารกิจของทีมการตลาดยิ่งหนักกว่าเดิมเพราะทีมใหม่ที่มาแทนทีมเดิมซึ่งดูแลโดยตรงโดยพรพินิจ
พรประภา รองผู้จัดการใหญ่การตลาด และศิริชัย สายพัฒนา ผู้ช่วยรองผู้จัดการใหญ่การตลาด
ที่ถูกโยกย้ายไปต่างก็ไม่ได้เติบโตมาจากสายการตลาดรถยนต์เลย สภาพของพวกเขา
ไม่ว่าจะเป็นณัฐวุฒิเองหรือวัชรพล ศรีนาคอ่อน จากผู้จัดการทั่วไปฝ่ายพัฒนาธุรกิจมาเป็นผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวางแผนการขายและการตลาดหรือวิชชา
วัรชานันท์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายกรุงเทพ ต่างก็ถูกมองถึงเส้นทางการเติบโตว่าเป็น
"เด็กเส้น" มากกว่ามืออาชีพ
ความท้าทายของคนใหม่ของสยามกลการในวันนี้ จึงมีมากกว่าที่อื่น ๆ และแน่นอนคนชื่อณัฐวุฒิ
จิตะสมบัติ คือคนที่ต้องพิสูจน์มากกว่าคนอื่น ๆ
เพราะเขาคือผู้ที่ทุกคนมองว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโยกย้ายใหญ่ครั้งนี้