บริษัท ยูไนเต็ด พาเซิล เซอร์วิส หรือที่รู้จักกันในชื่อของ ยูพีเอส ผู้นำในการให้บริการรับขนส่งพัสดุและสินค้าไปยังจุดต่างๆ ทั่วโลก ได้ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงเทคโนโลยีและเครื่องมือเครื่องไม้ที่ใช้ในการบริหารจัดการด้านระบบลอจิสติกส์ของตนมากขึ้น เพื่อให้กิจการมีความสามารถในการทำกำไรมากขึ้น และสามารถนำนโยบายด้านราคาไปใช้ได้คล่องตัวขึ้น หลังจากที่พบว่าลูกค้าที่ใช้บริการด้านการขนส่งพัสดุ และสินค้าได้ให้ความสนใจและพยายามจะหาทางปรับลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ของตนทุกวิถีทาง เพื่อมิให้กิจการประสบกับการขาดทุน

เครื่องมืออุปกรณ์ในการบริหารจัดการมีความจำเป็นกับกิจการยูพีเอสอย่างมากมาย เพราะในแต่ละวัน มีพัสดุและสินค้าที่ลูกค้านำไปฝากเพื่อให้ยูพีเอสส่งหลายร้อยหลายพันชิ้นต่อสำนักงาน หากบริหารจัดการไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งจัดส่งไม่ทันเวลา จะทำให้ความไว้วางใจนั้นหมดไปอย่างรวดเร็ว เมื่อสองปีที่แล้ว ยูพีเอสได้เริ่มนำซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเองมาติดตั้ง ทำให้สามารถปิดงานการขนส่งพัสดุได้ไม่เกิน 6 โมงเย็น จากที่เคยส่งจนดึกดื่นก่อนหน้านั้น ทำให้พนักงานของยูพีเอสมีความสุขกับการมีเวลาอยู่กับครอบครัวได้มากขึ้น และใช้ชีวิตหลังเวลาเลิกงานเช่นเดียวกับครอบครัวทั่วไป

ก่อนหน้านี้ ความสำเร็จของงานของยูพีเอสไม่ได้เกิดขึ้นโดยง่ายดาย แต่เบื้องหลังของการปิดงานหลาย งานเกิดจากการที่พนักงานขับรถต้องตัดสินใจวิ่งออกนอกเส้นทางที่กำหนด เพื่อให้ใช้เวลาในการขนส่งน้อยลงไปกว่าเดิม ซึ่งบางครั้งเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะเส้นทางที่เปลี่ยนไปใช้นั้น กลับทำให้เสียเวลามากขึ้นกว่าเดิมไปอีก และไม่มีเวลากลับไปวิ่งทางเดิมได้อีกแล้ว ต้องไปต่อจนจบเส้นทาง

เมื่อยูพีเอส ตัดสินใจลงทุนด้วยเงินกว่า 600 ล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อซอฟต์แวร์ที่ช่วยจัดเส้นทางการขนส่งที่ประหยัดเวลาและระยะทางมากที่สุด สถานการณ์ในการขนส่งของยูพีเอสเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ระบบการประเมินหาองค์ประกอบของการขนส่งพัสดุที่เหมาะสมที่สุดที่ว่านี้ จะจัดเส้นทางการขนส่งล่วงหน้าทุกเย็น เพื่อทำตารางเวลาการขนส่งของเช้าวันถัดไป และกำหนดใช้กับพนักงานขับรถกว่า 56,000 รายทุกวัน ผลที่ได้จากการใช้คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ทำหน้าที่ในการจัดเส้นทางแทนคน ทำให้ประหยัดได้ทั้งเวลาและค่าแก๊สหรือเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขนส่ง โดยการบริหารจัดการคำนึงถึงไฟเขียวไฟแดงที่มีจำนวนมากน้อยแตกต่างกันในแต่ละเส้นทาง

สิ่งที่น่าสนใจทางทางการตลาด สำหรับแนวคิดการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจด้วยเทคโนโลยีซอฟต์แวร์สมัยใหม่ของยูพีเอส คือ ตัวอย่างของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อีกรูปแบบหนึ่ง ที่สามารถใช้เป็นต้นแบบสำหรับกิจการอื่นๆ ในการนำไปใช้เพิ่มองค์ความรู้เกี่ยวกับลูกค้าของตนได้

ที่ผ่านมา ยูพีเอสต้องเผชิญหน้ากับปัญหายุ่งยากแบบไม่จบสิ้นและไม่มีแนวทางแก้ไข เมื่อพนักงานขับรถหรือหัวหน้างานที่ทำหน้าที่ในการจัดเส้นทางการวิ่งลาออกไปจากบริษัท ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาในทันทีคือ ความรู้ ประสบการณ์ ทักษะต่างๆ ที่พนักงานขับรถคนนั้นๆ มีอยู่เดิมจากบริษัทตามไปด้วยทันที

แต่เมื่อนำเอาประสบการณ์จากการขับขี่ของพนักงานทุกคนมาบันทึกลงไปในฐานข้อมูลของซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้น ยูพีเอสพบว่าองค์ความรู้เหล่านี้ไม่มีวันที่จะหายไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงพนักงานขับรถ เพราะฝังอยู่ในระบบแกนกลางของข้อมูล นอกจากนั้น ซอฟต์แวร์ที่เป็นที่รวมของฐานข้อมูล ยังมีประโยชน์ในวงกว้าง เช่น ประการแรก เพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการอย่างมากมาย เพราะสามารถจัดพนักงานขับรถทดแทน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือไม่ได้อย่างทันท่วงที ที่มีความจำเป็น

ประการที่สอง ทำให้ยูพีเอสสามารถปรับลดจำนวนชั่วโมงที่จำเป็นต้องใช้ในการฝึกอบรมแก่พนักงานเข้าใหม่ อันทำให้ต้นทุนการบริหารทรัพยากรบุคคลลดลงตามไปด้วย ประการที่สาม ลดปัญหาการจัดเส้นทางวิ่งส่งสินค้าที่ทับซ้อนเส้นทางกันระหว่างพนักงานขับรถแต่ละคน ประการที่สี่ สร้างระบบสัญญาณเตือนภัยด้วยเสียงบี๊บ บี๊บ ทันที่ที่คนขับรถวิ่งผิดและออกนอกเส้นทางที่กำหนดไว้

เหล่านี้คือ ประสิทธิภาพและผลิตภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพียงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเดือนเดียว พนักงานขับรถของยูพีเอส สามารถประหยัดเส้นทางที่วิ่งเพราะใช้ระยะทางลดลงไปได้ไม่น้อยกว่า 3 ล้านไมล์ เทียบกับปีก่อนหน้า

ปัจจัยในการพัฒนาเทคโนโลยี คงจะขึ้นอยู่กับระดับของการศึกษา งบประมาณรายจ่ายด้านข้อมูลข่าวสาร เทคโนโลยีด้านการสื่อสาร การลงทุนในการวิจัยและการพัฒนา ตลอดจนการเพิ่มขึ้นของลิขสิทธิ์ ซึ่งเหล่านี้ทำให้ประเทศพัฒนาแล้วมีความได้เปรียบมากกว่าประเทศกำลังพัฒนา

ความเคลื่อนไหวล่าสุดในสหรัฐฯ เป็นการพัฒนาของท่าอากาศยานโฟนิกซ์ ในด้านเทคโนโลยีเครื่องเอ็กซ์เรย์รุ่นใหม่ ที่ทำให้สามารถเห็นทะลุเข้าไปเห็นเสื้อผ้าในกระเป๋า และแสดงรายการภายในกระเป๋าได้ใกล้เคียงจริงมาก เช่นเดียวกับที่เอ็กซ์เรย์สิ่งของที่บุคคลใส่ในตัว ขณะที่ผ่านเครื่องเอ็กซ์เรย์

การติดตามความเคลื่อนไหวทางการเพิ่มพูนนวัตกรรมทางเทคโนโลยี พบว่าสหรัฐฯ และญี่ปุ่นก้าวหน้ากว่าสหภาพยุโรปที่มีสมาชิกถึง 25 ประเทศมาก แม้ว่าจะมีเดนมาร์ก ฟินแลนด์ เยอรมนี และสวีเดน จะถือว่าเป็นประเทศในกลุ่มที่ก้าวหน้าที่สุดก็ตาม

สิ่งที่นักการตลาดกังวลตอนนี้คือ ผู้ประกอบการในยุโรปทำท่าว่าจะถดถอยและล้าหลังมากในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่จำเป็นต่อการเพิ่มพูนความได้เปรียบด้านการแข่งขัน ทั้งนี้เมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับความก้าวหน้าในสหรัฐฯ อย่างกรณีของยูพีเอสที่กล่าวมาแล้ว หรือเทียบกับญี่ปุ่น ที่กำลังจะสร้างอารยธรรมของหุ่นยนต์ในตลาดโลก สิ่งนี้อาจจะเป็นผลเสียต่อผู้บริโภค เพราะสูญเสียโอกาสที่จะได้ใช้สินค้า หรือบริการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยตามไปด้วย แต่ก็น่าเห็นใจสำหรับผู้ประกอบ เพราะกว่าจะตัดสินใจเลือกว่าจะใช้เทคโนโลยีแบบไหนดี ก็กินเวลาโขแล้ว เพราะต้องตอบคำถามให้ได้ครอบคลุม 360 องศา มิฉะนั้น การลงทุนครั้งนี้จะกลายเป็นการลงทุนที่สูญเสียเปล่า