นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยว 2 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ก.พ.) ที่เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ มีจำนวนทั้งสิ้น 1,770,653 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.08% แต่ทั้งนี้ในส่วนของตลาดเอเชียตะวันออก จำนวนนักท่องเที่ยว ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยเป็นจำนวน 771,115 คน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.33% โดยเฉพาะประเทศที่เป็นนักท่องเที่ยวหลักของประเทศไทย เช่น สิงคโปร์ ลดลง 16.72% ,จีน ลดลง 18.77% , เวียดนาม ลดลง 32.04% ,ญี่ปุ่นลดลง 5.82% , มาเลเซีย ลดลง 6.16% และ บรูไน ลดลง 5.50% เป็นต้น
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ น่าจะมาจากสถานการณ์ก่อการร้ายที่ประเทศไทย โดยเฉพาะเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ทั้ง ในกรุงเทพมหานคร และ ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนข่าวลือเรื่องการลอบวางระเบิด เพราะตลาดเอเชียตะวันออกจะอ่อนไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ททท.จึงกังวลว่าหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ อาจกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยว เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวจากเอเชียที่เข้ามาประเทศไทยมีสัดส่วนถึง 65% จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศไทยทั้งหมด
ดังนั้น จึงให้ทุกสำนักงานเร่งทำแผนกระตุ้นตลาด เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามา เช่น ที่สำนักงาน ททท. ประเทศสิงคโปร์ ได้จับมือกับพันธมิตรสายการบิน อย่างการบินไทย และ ไทเกอร์ แอร์ ทำโปรโมชั่นร่วมกัน เน้นเจาะกลุ่มคอปอร์เรท นอกจากนั้น ททท.ได้เร่งดำเนินการจัดตั้ง สำนักงาน ททท. ที่ประเทศเวียดนาม คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนศกนี้ คาดว่าจะสามารถกระตุ้นนักท่องเที่ยวในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง ให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งเป้าหมายหลักของตลาดนี้ คือกลุ่มชาวต่างชาติ ที่อาศัยและทำงานอยู่ในประเทศนั้นๆ (เอสแพค)
ยันไม่ปรับเป้านักท่องเที่ยว
นางพรศิริ กล่าวว่า ททท. จะยังไม่ปรับเป้าหมายรวมของจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะได้ในปีนี้ที่ 14.8 ล้านคน และรายได้ที่ 5.47 แสนล้านบาท โดยจะหันมากระตุ้นตลาดยุโรปมากขึ้น เพราะ จากการไปร่วมงาน ITB ที่ประเทศเยอรมัน พบว่าตลาดยุโรปตอบรับดี บริษัทนำเที่ยวและนักท่องเที่ยวสนใจเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น ล่าสุดบริษัทนำเที่ยวในเยอรมนีจัดทำโบว์ชัวร์โปรโมทขายแพกเกจเที่ยวประเทศไทยในช่วงฤดูร้อนปีนี้ด้วย และ ปีหน้า จะมีชาร์เตอร์ไฟล์ท จากอัมสเตอร์ดัม เข้าประเทศไทยเป็นครั้งแรก นอกจากนั้นสายการบินจากยุโรปที่เคยหยุดบินไปช่วงหลังเหตุการสึนามิ ก็เตรียมที่จะกลับมาบินเข้าประเทศไปไทยอีกครั้ง
โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวจากยุโรป ที่เดินทางผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ 2 เดือนแรกปีนี้ เติบโตต่อเนื่อง ตลาดยุโรป เพิ่มขึ้น 12.94% โดยปีนี้ตั้งเป้าตลาดนี้ที่ 3.54 ล้านคน , ตะวันออกกลาง เพิ่มขึ้น 23.99% และแอฟฟริกา เพิ่มขึ้น 20.56% เพราะตลาดกลุ่มนี้ไม่ค่อยวิตกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
โรดโชว์ 9 งานกระตุ้นตลาด
สำหรับแผนการกระตุ้นตลาด จะเดินสายโรดโชว์ รวม 9 งานถึงสิ้นปี เพื่อรักษาตลาดเก่า และ ขยายตลาดใหม่ๆ อย่าง แอฟริกาใต้ อินเดีย และ ตะวันออกกลาง ได้แก่ งาน Arabian Travel Mart ประเทศอาหรับเอมิเรตต์ , งาน BITE ที่ บาห์เรน , Amazing THAILAND Launch Seminer & Road Show ที่แอฟริกาใต้ ,งาน Leisure ที่รัสเซีย ,งานTop Resa ที่ฝรั่งเศส ,งาน WTM ที่อังกฤษ เป็นต้น ส่วนการโฆษณา จะใช้งบประมาณที่มีอยู่ให้คุ้มค่า เลือกใช้สื่อที่ถึงตรงกลุ่มเป้าหมาย ไม่หว่านงบลงในสื่อโฆษณาที่เป็นแมส อย่าง ซีเอ็นเอ็น เป็นต้น
นอกจากนั้น ในงาน TTM ที่ ททท.จะจัดให้มีขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ ก็จะเชิญบายเออร์ ที่เป็น บริษัทนำเที่ยวจากประเทศใหม่ ๆ ที่เป็นเป้าหมายทางการท่องเที่ยวของไทย เข้ามาร่วมงาน เช่น แอฟริกา กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อินโดนีเซีย บรูไน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ เป็นต้น
สำหรับตลาดในประเทศ ล่าสุดในวันที่ 1 เมษายน 50 ททท.จะเปิดตัวแคมเปญ “เก็บเมืองไทย ให้สวยงาม “ภายใต้โครงการไทยเที่ยวไทย เพื่อกระตุ้นตลาด ใช้งบ 20 ล้านบาท ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ซึ่งแคมเปญนี้ เน้นการสร้างจิตสำนึกให้คนไทยท่องเที่ยวอย่างรู้รักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขณะที่คนท้องถิ่นจะเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ส่วนโครงการเที่ยววันธรรมดา ก็ยังดำเนินอยู่ โดยจะรวมอยู่ในการจัดงาน เที่ยวไทยทั่วทิศ ที่ ททท.จะจัดขึ้น ในเดือนมิถุนายน พร้อมงาน TTM
สร้างมาตรฐานเรียกความเชื่อมั่น
ทางด้าน ร.ท.สุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว กล่าวว่า ในด้านการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ล่าสุด กระทรวงฯโดยสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) เตรียมจัดอมรมสัมมนาผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทัวร์ เรือ รถโดยสารต่างๆ เพื่อช่วยเสริมสร้างความรู้ด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว นอกจากนั้นยังร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรฯ และจังหวัดประจวบฯ ผลักดันให้หัวหิน เป็นเมืองตัวอย่างด้านการรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม เป็นโครงการนำร่องแก่เมืองท่องเที่ยว ให้ดูแลเรื่องความสะอาด และ การควบคุมมลพิษ
นอกจากนั้น สพท. ยังได้ ลงนามบันทึกความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมด้านการตรวจสอบมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยรวม 25 มาตรฐานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อให้
ผู้ประกอบการมาขึ้นทะเบียนรับรองมาตรฐาน ตรงนี้มั่นใจว่าจะเพิ่มจุดแข็งและจุดขายให้แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย สร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว เช่น มาตรฐานโฮมสเตย์ มาตรฐานการดำน้ำ ,ห้องน้ำ และท่องเที่ยวผจญภัยในรูปแบบต่างๆ เป็นต้น
|