ไวตามิ้ลค์ เดินเกมชิงแชร์เครื่องดื่มข้ามเซกเมนต์ สาดงบ 50 ล้านบาท ผุดแคมเปญ “กูด ไทม์” กระตุ้นความถี่วัยทำงานดื่มนมถั่วเหลือง 3 มื้อ เช้า บ่าย ยันก่อนเข้านอน พร้อมปรับตัวอิงสุขภาพชูจุดขายโปรตีน มั่นใจกระตุ้นยอดขายโต 10% สิ้นปีรั้งบัลลังก์ผู้นำตลาดครองแชร์ 60%

นายชนิต สุวรรณพรินทร์ ผู้จัดการทั่วไปสายงานการตลาด บริษัท กรีนสปอต จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์ วีซอย เปิดเผยว่า ได้ทุ่มงบ 50ล้านบาท จากงบรวม 200 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ ”กูด ไทม์” ภายใต้คอนเซปต์”เป็นแหล่งโปรตีน อิ่มสบายท้อง” โดยแนะนำเคล็ดลับการมีสุขภาพดี นำเสนอผ่านช่วงเวลา 3 ช่วงที่ร่างกายต้องการสารอาหารที่พอเพียง ได้แก่ ช่วงเช้าชูจุดขายเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดชื่น อิ่มสบายท้องพร้อมก่อนใคร ส่วนช่วงบ่ายเน้นเป็นการเติมพลังจากโปรตีนธรรมชาติจากน้ำนมถั่วเหลือง และช่วงก่อนนอน เป็นช่วงเวลาเบาๆ ช่วยดูแลรูปร่างและสุขภาพ

ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายหลักของแคมเปญ ที่วางไว้เป็นกลุ่มวัยทำงาน และนักศึกษามีความถี่ในการดื่ม 3 ครั้งต่อวัน จากปกติกลุ่มดังกล่าวจะดื่มนมถั่วเหลือง 1-2ครั้งต่อวันเท่านั้น โดยจากการสำรวจพบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคจะสวิตช์การดื่มนมและเครื่องดื่มหลากหลายเซกเมนต์อยู่แล้ว ดังนั้นบริษัทมองว่าเป็นโอกาสในการทำตลาดของไวตามิ้ลค์ ที่จะเข้าไปช่วงชิงส่วนแบ่งเครื่องดื่มในแต่ละช่วงเวลา ได้แก่ ในมื้อเช้าผู้บริโภคจะดื่มกาแฟเป็นตัวเลือกหลัก ตามด้วยนมถั่วเหลืองหรือนมพร้อมดื่ม ส่วนมื้อบ่ายผู้บริโภคจะดื่มกาแฟ ชา และชาเขียว และก่อนนอนจะดื่มนมพร้อมดื่มและนมถั่วเหลือง

สำหรับการจัดแคมเปญ กูด ไทม์ ในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการนำคุณค่าของถั่วเหลืองมาบวกกับเวลาที่เหมาะสม และให้เข้ากับสภาพแวดล้อมกับการทำงานที่ต้องแข่งขันกับเวลา โดยบริษัทได้เตรียมจัดทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างครบวงจร อาทิ รถประจำทาง หนังสือพิมพ์ และทีวีซี 7.5 วินาที โดยเฉพาะรถไฟฟ้า เป็นสื่อที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด อีกทั้งยังได้แจกสินค้าตัวอย่าง บริเวณสถานีรถไฟฟ้า สี่แยกไฟแดง เป็นต้น โดยบริษัทจะผลักดันแคมเปญดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง กระทั่งครึ่งปีหลังมีแผนเปิดแคมเปญใหม่อีก 1 ตัว

“ปีนี้เราได้ปรับตัวหันมาเน้นจุดขายในเรื่องของสุขภาพให้มีความชัดเจนมากขึ้น เริ่มจากแคมเปญกูด ไทม์ ภายใต้คอนเซปต์”เป็นแหล่งโปรตีน อิ่มสบายท้อง” จากเดิมจะเป็น ไวตามิ้ลค์ อิ่มสบายท้องอย่างเดียวเท่านั้น แต่ปีนี้เราเพิ่มในเรื่องของโปรตีนเข้าไปด้วย เพื่ออิงกับกระสุขภาพให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น”

แนวโน้มตลาดนมถั่วเหลืองมูลค่า 6,300ล้านบาท ในปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโต 10% ก็นับว่าดีแล้ว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อกำลังการซื้อของผู้บริโภค เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาภาวะตลาดมีอัตราการเติบโต 16% ส่วนในปี 2548 นมถั่วเหลืองมีอัตราการเติบโตถึง 34% ซึ่งภาวะตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ขณะนี้บริษัทวางแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของตลาดในปี 51 โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์ขวดทูโก กำลังการผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด

สำหรับแคมเปญกูด ไทม์ บริษัทตั้งเป้าจะกระตุ้นยอดขายให้มีอัตราการเติบโต 10% และตอกย้ำตำแหน่งผู้นำตลาดนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์ ด้วยการครองส่วนแบ่ง 56-60% ส่วนอันดับสอง แลคตาซอย มีส่วนแบ่ง 30-33% ดีน่า 5% ที่เหลืออีก 2-5% เป็นอื่นๆ