ตลาดเอเชียเป้าหมายใหญ่ "แคนนอน" หลังประสบความสำเร็จในหลายภูมิภาคทั่วโลก จับตาความเคลื่อนไหวทางธุรกิจของแคนนอนประเทศไทย เมื่อได้รับการวางให้เป็น 1 ใน 4 ประเทศยุทธศาสตร์สำคัญที่แคนนอนจะทุ่มตลาดอย่างหนัก เพื่อความเป็นผู้นำในทุกผลิตภัณฑ์

ในช่วงปี 2549 ที่ผ่านมามีบริษัทไม่กี่แห่งในประเทศไทยที่สามารถดำเนินกิจการให้เติบโตกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งแคนนอนเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่สามารถทำตัวเลขรายได้และผลกำไรได้เกินเป้าหมาย โดยมีผลประกอบการรวมเพิ่มขึ้น 32.5% มียอดขายทุกผลิตภัณฑ์รวมทั้งสิ้น 4,470 ล้านบาท

"เราสร้างผลงานได้ดีเกินความคาดหมาย" เป็นคำกล่าวของ ฮิซาฮิโระ มิโนคาวะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด และว่า แคนนอนมีแผนที่จะผลักดันการเติบโตของบริษัทให้เพิ่มขึ้นอีกในปี 2550 นี้

สิ่งสำคัญที่แคนนอนไทยแลนด์ต้องรับภารกิจหลักจากบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น คือการขึ้นเป็นผู้นำตลาดในอันดับหนึ่งในทุกผลิตภัณฑ์ที่แคนนอนวางจำหน่าย นอกจากนี้ตลาดไทยยังถูกวางให้เป็นตลาดยุทธศาสตร์ของแคนนอน หรือ Victory Country ของแคนนอน ร่วมกับประเทศจีน อินเดีย และเวียดนาม

ในการเป็นประเทศที่ถูกวางให้เป็นกลุ่มประเทศที่ได้รับความสำเร็จ แคนนอนไทยแลนด์จะได้เพิ่มงบการตลาดอีกกว่า 30% หรือประมาณ 600 ล้านบาท โดยมีแผนที่จะส่งผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทุกกลุ่มและครอบคลุมทุกตลาดจากผลิตภัณฑ์มากกว่า 100 ผลิตภัณฑ์ และได้มีการตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 5,600 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 25%

นอกจากนี้แคนนอนจะมีการมุ่งขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจและช่องทางการจัดจำหน่ายให้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการให้ผู้บริโภคได้ลองใช้สินค้าและได้เห็นประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์จริงด้วยตนเอง เนื่องจากพรินเตอร์และกล้องดิจิตอลเป็นสินค้าที่สามารถใช้ควบคู่กันได้ดี ช่วยทำให้สามารถทำตลาดได้ง่ายขึ้น รวมทั้งยังเสริมภาพให้แคนนอนมีโซลูชั่นการทำงานที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น

"คู่แข่งขันของแคนนอนจะมีการชำนาญในแต่ละส่วนผลิตภัณฑ์ แต่แคนนอนจะชำนาญในทุกๆ ด้านของผลิตภัณฑ์"

สำหรับภาพรวมการทำตลาดในแต่ละส่วนของธุรกิจแคนนอนนั้น ในภาพรวมของแผนคอนซูเมอร์อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น กลุ่มผลิตภัณฑ์พรินเตอร์และกล้องดิจิตอลจะผนึกกิจกรรมทางการตลาดร่วมกัน อาทิ นิทรรศการ โรดโชว์ และโปรโมชั่นต่างๆ รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นๆ ภายใต้คอนเซปต์ Shoot and print ส่งผลต่อการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย

รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้ลองใช้สินค้าแคนนอนมากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ของแคนนอนจะเป็นโซลูชั่นการทำงานที่ครบวงจรมากขึ้นสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและมืออาชีพ ทั้งอุปกรณ์ Input และ Output แคนนอนมีแผนออกผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอล กล้องวิดีโอ คอมแพคโฟโต้พรินเตอร์ โฟโต้พรินเตอร์ ออล-อิน-วัน พรินเตอร์ เลเซอร์พรินเตอร์ เลเซอร์ ออล-อิน-วัน พรินเตอร์กว่า 70 รุ่นในปี 2550

ในกลุ่มผลิตภัณฑ์พรินเตอร์ แคนนอนมีแผนที่จะรักษาความเป็นอันดับ 1 ของตลาดพรินเตอร์อิงค์เจ็ท ด้วยการนำเสนิสินค้าที่มีคุณภาพทั้งภาพและรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ ขยายตลาดภาพถ่ายด้วยการวางผลิตภัณฑ์พรินเตอร์ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานสมบูรณ์แบบ พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายผู้นำอันดับ 1 ของส่วนแบ่งตลาดผลิตภัณฑ์พรินเตอร์แบบออล-อิน-วัน โดยเน้นที่รุ่นฟังก์ชั่นการใช้งานที่ดีขึ้นและรูปลักษณ์ที่ทันสมัย

"เราตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของผลิตภัณฑ์พรินเตอร์ แบบเลเซอร์พรินเตอร์ และเลเซอร์ออล-อิน-วันพรินเตอร์ ทั้งในส่วนของการค้าปลีกและองค์กร"

ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอล แคนนอนวางเป้าหมายการเป็นอันดับ 1 ในตลาดกล้องดิจิตอลเมืองไทย การขยายตลาดกล้องดิจิตอลเอสแอลอาร์ สู่ตลาดกลุ่มเป้าหมายมืออาชีพ แนะนำเทคโนโลยีไดซัล ภายใต้ Sub Brand ที่ชื่อ "SELPHY" สู่ตลาดเมืองไทย และแนะนำผลิตภัณฑ์กล้องวิดีโอสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและระดับมืออาชีพสู่ตลาดในเมืองไทย

สำหรับภาพรวมของแผนกบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น แคนนอนตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดขึ้น 18% ในปีนี้ ภายใต้โครงการ "No.1 Project" โดยจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ C7000 VP พรินออนดีมานด์เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียในประเทศไทย จะมีการเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์สาธิตในย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพ รวมทั้งตั้งเป้าหมายผู้นำส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นภายในปี 2553 และจะดำเนินโครงการ "Business can be simple" อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเป็นผู้นำในตลาดบิสซิเนสโซลูชั่นโพรวายเดอร์ และเพื่อยอดขายผลิตภัณฑ์เครื่องถ่ายเอกสารสีมัลติฟังก์ชั่น

ไม่เฉพาะแต่การผลักดันสินค้าใหม่สู่ตลาด แคนนอนได้มีการวางแผนงานทางด้านบริการ ด้วยการนำเสนอบริการระดับ 5 ดาวให้กับลูกค้า ด้วยการเพิ่มศูนย์บริการให้รองรับลูกค้าเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนปริมณฑลและภูมิภาค ในจังหวัดเชียงใหม่และขอนแก่น การปรับปรุงพัฒนาศูนย์บริการที่สำนักงานใหญ่และพันธุ์ทิพย์พลาซ่า การพัฒนาและสนับสนุนเครือข่ายการให้บริการสำหรับตัวแทนจำหน่าย รวมทั้งเปิดศูนย์บริการลูกค้า